Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ความดันโลหิตสูงร่วมกับการตั้งครรภ์ - Coggle Diagram

- - - - SBP > 160 mmHg and/or DBP > 110 mmHg
        
        Thrombocytopenia: Plt < 100,000 cell/mm3
        
        Renal insufficiency: creatinin > 1.1 mg/dl หรือสูงกว่า 2 เท่าของค่าเดิม โดยไม่มีโรคไตอื่น
        
        Impaired liver function: serum liver enzymes (AST/ALT)สูงกว่าปกติ อย่างน้อย 2 เท่า
        
        อาการปวดใต้ชายโครงขวารุนแรงและไม่หายไป หรือ อาการปวดใต้ลิ้นปี่ที่ไม่ตอบสนองต่อยา และไม่ใช่เกิดจากการวินิจฉัยอื่น 6. Pulmonary edema
        
        อาการปวดศีรษะที่เกิดขึ้นใหม่ ไม่ตอบสนองต่อยาและไม่ใช่เกิดจากการวินิจฉัยอื่น ตาพร่ามัวที่เกิดขึ้นใหม่
        -รายที่มีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง วินิจฉัยเป็น preeclampsia with Severe features -รายที่ไม่พบลักษณะดังกล่าว วินิจฉัยเป็น preeclampsia without Severe features
- - - - ระยะเตือน(Premonitory stage) มีอาการหรืออาการแสดงบอกล่วงหน้า (aura) กินเวลา 10 20 วินาทีมีอาการกระสับกระส่าย ตามองนิ่งอยู่กับที่ ศีรษะหมุนไปด้านหนึ่งจนตึง และรูม่านตาขยาย
      - ระยะเริ่มแรกของอาการชัก (stage of invasion) กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าและมุมปากกระตุก ริมฝีปากเบี้ยว ระยะนี้ใช้เวลาประมาณ 2-3 วินาที
      - ระยะเกร็ง (stage of contraction หรือ tonic stage) อาการเกร็งกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย ลาตัวเหยียด ศีรษะหงายไปด้านหลัง มือกาแน่น แขนงอ ขาบิดเข้าด้านใน และตาถลน ถ้ากล้ามเนื้อที่ช่วยในการหายใจหดตัวมาก อาจมีการหยุดหายใจ หน้าเขียว ระยะนี้ใช้เวลาประมาณ 15-20 วินาที
      - ระยะชักกระตุก (stage of convulsion หรือ clonic stage) มีการกระตุกของกล้ามเนื้อทั่วร่างกายอย่างแรง ขากรรไกรกระตุก อาจกัดลิ้น น้าลายฟูมปาก ใบหน้าบวม หนังตาจะปิด และเปิดสลับกันอย่างรวดเร็ว อาจสูญเสียความสามารถในการควบคุมการขับถ่ายอุจจาระและปัสสาวะ การเกร็งของกล้ามเนื้อ จะค่อยๆเบาลง หรือหายไป ระยะนี้ใช้เวลาประมาณ 1-2 นาที
      - ระยะไม่รู้สึกตัว (Coma หรือ unconscious stage) นอนนิ่งไม่เคลื่อนไหว อยู่ในสภาพหมดแรง อาจมีอาการหยุดหายใจเป็นบางครั้ง ทาให้ CO2 คั่ง เกิดภาวะ respiratory acidosis ร่างกายมีการปรับตัวโดย hyperventilation อาจมีอาการ cyanosis เนื่องจากการขาด O2 อาจมีอาการหมดสติ ใช้เวลาต่างกันในแต่ละราย ถ้าไม่ได้รับการรักษา อาจชักซ้า ในเวลาที่ถี่ขึ้น