Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรอบแนวคิดแบบแผนสุขภาพ (functional health pattern) - Coggle Diagram
กรอบแนวคิดแบบแผนสุขภาพ
(functional health pattern)
ความหมายของแบบแผนสุขภาพ
แบบแผนการประเมินสุขภาพ
เป็นกรอบแนวคิดที่ มาร์จอรีย์ กอร์ดอน
ใช้เป็นแนวทางในการประเมินภาวะสุขภาพของบุคคล ครอบครัว หรือชุมชน โดยการมองแบบ แผนพฤติกรรมของบุคคลในช่วงระยะเวลาหนึ่งและมีผลต่อสุขภาพ โดยพฤติกรรมของบุคคลแบ่งออกเป็น พฤติกรรมภายใน และพฤติกรรมภายนอก โดยพฤติกรรมภายใน ได้แก่
ความรู้สึก นึกคิด ค่านิยม พฤติกรรม
ภายนอก เป็นพฤติกรรมที่เห็นได้ชัดเจน
ซึ่งประกอบไปด้วยพฤติกรรมที่เป็นคำพูด (verbal behavior) เช่น
การพูดคุยโต้ตอบ
พฤติกรรมที่ไม่ใช่คำพูด เช่น
การแสดงสีหน้าท่าทาง
วิิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลในการประเมินภาวะสุขภาพ
ชนิดของข้อมูล ข้อมูลสุขภาพแบ่งเป็น 2 ชนิด ดังนี้
1 ข้อมูลอัตนัย ข้อมูลอัตนัยเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับความรู้สึก หรืออาการ
.2 ข้อมูลปรนัย ป็นข้อมูลที่ได้จากการสังเกตโดยตรง โดยอ้อม ข้อมูลจากการตรวจลักษณะทั่วไป พฤติกรรมการแสดงออกทางอารมณ์ จิตใจ อาการแสดง การตรวจร่างกาย
การตรวจสอบความเที่ยงตรงของข้อมูล
การตรวจสอบความเที่ยงตรงของข้อมูล การตรวจสอบความเที่ยงตรงของข้อมูลมีหลายวิธี เช่น
การตรวจหรือการประเมินซ้ำหากข้อมูลที่ได้มายังไม่แน่ใจหรือมีความคลุมเครือ
จะช่วยทำให้ข้อมูลมีความสมบูรณ์ชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้การบันทึกข้อมูลนั้นๆ ครอบคลุมปัญหาของ ผู้รับบริการและมีความสมบูรณ์มากขึ้น
การซักประวัติผู้ป่วยจัดเป็นการรักษาพยาบาลอันดับแรก
รวบรวมข้อมูล เรื่องราวความเจ็บป่วยของผู้ป่วยว่า เป็นอะไร รุนแรงมากน้อยแค่ไหน เป็นมานานเท่าไร เคยรักษาแล้วหรือยัง ถ้าเคยรักษามาแล้วผลการรักษาเป็นอย่างไร
ทราบถึงสุขภาพของผู้ป่วยว่าเป็นคนมีสุขภาพอย่างไร สูบบุหรี่ดื่มสุรา หรือใช้ยาเสพติดอะไรหรือไม่ประกอบอาชีพอะไร ฐานะทางเศรษฐกิจเป็นอย่างไร
เกิดความร่วมมือในการรักษาพยาบาลผู้ป่วย เข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผู้ป่วย
เกิดสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ป่วย ผู้ป่วยจะรู้สึกว่าปัญหาของเขาได้รับความสนใจ และมีคนที่จะช่วยเหลือ
การเตรียมพร้อมก่อน และเริ่มสัมภาษณ์ทาอย่างไร
ศึกษาข้อมูลก่อนการสัมภาษณ์จากเวชระเบียน
เริ่มสัมภาษณ์ควรแนะนาตัวเอง บอกวัตถุประสงค์และลาดับขั้นตอน
บันทึกข้อมูลที่ผู้รับบริการให้อย่างเป็นระบบ
ประวัติทางการพยาบาล
อาการสำคัญนำส่ง คือ อาการส าคัญ 1-2 อาการที่ทาให้ผู้ป่วยต้องมาโรงพยาบาล และระบุระยะเวลาที่มีอาการนั้นมาด้วย เช่น
ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ 7-8 ครั้งและมีไข้2 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล ในกรณีที่ส่งต่อมาจากโรงพยาบาลอื่น น ควรระบุว่าชื่อโรงพยาบาลที่ส่งต่อมาให้ชัดเจน และระบุปัญหาในการส่งต่อด้วย เนื่องจากอาจจะไม่ใช่อาการนำส่งที่ทำให้ไปโรงพยาบาลนั้นก็ได้ เช่น
ส่งต่อมาจากโรงพยาบาลอะไร เพื่อการ
ตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม หรือ เพื่อการรักษาที่ต่อเนื่อง
ข้อมูลพื้นฐานของประวัติควรได้ครบถ้วน ได้แก่
ข้อมูลส่วนบุคคล : ให้ระบุเฉพาะหมายเลขห้องหรือเตียงที่ผู้ป่วยนอนพักรักษา อายุระบุจำนวนปี
เพศระบุ หญิงหรือชาย สถานภาพระบุสมรส โสด หย่าร้าง แยกกันอยู่ หม้าย ศาสนา ระบุพุทธ คริสต์อิสลาม
รายได้ของครอบครัว : ระบุรายรับของคนในครอบครัวทั้งหมด ต่อเดือน
วันที่รับไว้ในโรงพยาบาล : ระบุวันที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
การวินิจฉัยโรคระบุ : การวินิจฉัยของแพทย์ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลครั้งนี้
การผ่าตัด : ระบุการผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยครั้งนี้รวมทั้งการผ่าตัดเพื่อการตรวจ วินิจฉัยและรักษาโรค วันที่ ให้ระบุวันที่ทาผ่าตัดทุกครั้ง
ประวัติเจ็บป่วยปัจจุบัน หมายถึง ประวัติความเจ็บป่วยในครั้งนี้ซึ่งอาจมีความเจ็บป่วยต่อเนื่องมาตั้งแต่อดีต เป็นๆ หายๆ และมี
อาการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันโดยซักประวัติเรียงลาดับตามระยะเวลาที่เกิดโรคจนถึงมาโรงพยาบาล
1 วันก่อนมา : โรงพยาบาลภายหลังผู้ป่วยรับประทานอาหารทะเลมีอาการปวดท้อง ปวดแบบจี๊ดๆ รอบสะดือ เป็นพักๆ มีอาการคลื่นไส้ร่วมด้วย และถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ จำนวนมากมีกลิ่นเหม็นคล้ายหัวกุ้งเน่า 4ครั้ง
5 ชั่วโมงก่อนมา : มีอาการถ่ายอุจจาระเป็นน้ำอยู่ จึงไปซื้อผงเกลือแร่ที่ร้านขายยามารับประทานอาการไม่ดีขึ้น
2 ชั่วโมงก่อนมา : มีอาการถ่ายอุจจาระเป็นน้ำอีกและ มีไข้ผู้ป่วยจึงมาโรงพยาบาล
การรวบรวมประวัติเจ็บป่วยปัจจุบันจะต้องครอบคลุมถึง
ระยะเวลาที่เริ่มเกิดอาการหมายถึง ระยะเวลาที่เริ่มเป็นจนถึงเวลาที่สัมภาษณ์และรวมถึงระยะเวลา ที่ปราศจากอาการในกรณีที่เป็นๆหายๆหรืออาการก าเริบใหม
ลักษณะของการเกิดอาการหรือโรค เกี่ยวข้องกับ วิธีการเกิด เช่น ค่อยเป็นค่อยไปทันทีทันใด ลักษณะอาการอธิบายตามความรู้สึกของผู้ป่วย
ตำแหน่งของอาการ (LOCATION)
การเริ่มต้นและการแพร่กระจายของอาการ
ความรุนแรง
ระยะเวลาที่เป็น (TIMING) เริ่มเป็นเมื่อไหร่นานเท่าไหร่ บ่อยเท่าไหร
สภาพแวดล้อมที่เกิดอาการรวมสิ่งแวดล้อม อารมณ์หรือเกิดขณะทาอะไร
สิ่งที่ทำให้เป็นมากขึ้นหรือน้อยลง
ผลกระทบต่อการทางานและชีวิตประจำวัน
อาการร่วม
ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต (PAST HISTORY) หมายถึง การเจ็บป่วยที่ผ่านมา และการตรวจรักษาที่เคยได้รับตั้งแต่เกิดจนถึงครั้งสุดท้ายก่อนการเจ็บป่วยในครั้งนี้
ประวัติโรคภูมิแพ้การแพ้ยา อาหาร สารเคมีเช่น “ท่านเคยแพ้อาหารทะเล แพ้ยา
ประวัติปัญหาสุขภาพที่ผ่านมา หรือโรคประจำตัวเช่น“ท่านเคยมีเคยมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ หรือไม่” “ท่านมีโรคประจาตัวหรือไม่”
ประวัติการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เช่น “ท่านเคยมาเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้บ้างหรือไม่”
ประวัติการได้รับอุบัติเหตุการผ่าตัด การได้รับบาดเจ็บการได้รับเลือด เช่น “ท่านเคยได้รับอุบัติเหตุและได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้หรือไม่
ประวัติการผ่าตัดคลอด การตั้งครรภ์การคลอดบุตร เช่น“ไม่ทราบว่าฝากครรภ์ที่ไหน
ประวัติด้านสภาพอารมณ์หรือจิตเวช เช่น“ท่านเคยมีปัญหาด้านการควบคุมอารมณ์หรือไม่” “รับการรักษาที่ใด
ประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว (FAMILY HISTORY)
อันเป็นสาเหตุการตายของญาติพี่น้องและบุคคลในบ้านเดียวกัน
เน้นที่ประวัติที่สัมพันธ์กับอาการผู้ป่วยและโรคทางพันธุ์กรรม
การบันทึกประวัติครอบครัวเขียนเป็นแผนภูมิที่เรียกว่าแผนผังเครือ ญาติ
ประวัติส่วนตัวและแบบแผนการดำเนินชีวิตประจำวัน
เป็นข้อมูลรายละเอียดของผู้รับบริการแต่ละบุคคลที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ประวัติเกี่ยวกับทางเพศหากเป็นวัยเด็ก ควรซักถามจากผู้ปกครองเกี่ยวกับประวัติการเกิด การเจริญเติบโตและพัฒนา
องค์ประกอบของแบบแผนการประเมินสุขภาพ
ประกอบด้วย 11 แบบแผนดังนี้
แบบแผนการรับรู้ภาวะสุขภาพ และการดูแลสุขภาพนี้
ประกอบด้วยแบบแผนย่อย 2 แบบแผน คือ
การรับรู้ภาวะสุขภาพของตนเองและผู้ที่ตนรับผิดชอบ เป็นความ เข้าใจ
.2. การดูแลสุขภาพของตนเอง และผู้ที่ตนรับผิดชอบ
แบบแผนโภชนาการ และการเผาผลาญอาหาร ประกอบด้วยแบบแผนย่อย 7 แบบแผน คือ
1 อาหาร และภาวะโภชนาการ
2 การเผาผลาญสารอาหาร
3 น้ำและอิเล็คโทรไลต์
4 อุณหภูมิของร่างกาย
5 การเจริญเติบโตและพัฒนาการ
6 ผิวหนังและเยื่อบ
7 ภูมิคุ้มกันโรค
แบบแผนการขับถ่าย ได้แก่การประเมินแบบแผนการขับถ่ายอุจจาระและปัสสาวะ ประกอบด้วยแบบแผนย่อย 2 แบบแผน คือ
1 การขับถ่ายอุจจาระ
2 การขับถ่ายปัสสาวะ
แบบแผนกิจกรรม และการออกกำลังกาย
ประกอบด้วยแบบแผนย่อย 4 แบบแผน คือ
1 การปฏิบัติกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจาวันและการออกกำลังกาย
2 การทำงานของโครงสร้าง (กระดูก ข้อ และกล้ามเนื้อ)
3 การทำงานของระบบหายใจ
4 การทำงานของระหัวใจและการไหลเวียนโลหิต
5 แบบแผนการนอนหลับ เป็นแบบแผนปัญหาที่เกี่ยวกับการนอนหลับ การพักผ่อน ปัญหาเกี่ยวกับการนอน ปัจจัยส่งเสริม ปัจจัยเสี่ยง
แบบแผนสติปัญญาและการรับรู้ ประกอบด้วยแบบแผนย่อย 2 แบบแผน คือ
1 การรับรับรู้และการตอบสนอง
2 เป็นแบบแผนเกี่ยวกับความสามารถของบุคคลในการรับรู้สิ่งเร้าและการตอบสนองต่อสิ่งเร้าด้านการรับรู้ความรู้สึก ั้ง 5 ด้าน ได้แก่การมองเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การรับรส การรับความรู้สึกทางผิวหนัง และการรับรู้ความเจ็บปวด
แบบแผนการรับรู้ตนเอง และอัตมโนทัศน์ ได้แก่
ทัศนคติเกี่ยวกับตนเอง การรับรู้ความสามารถ ภาพลักษณ์ และเอกลักษณ์ของตนเองที่เปลี่ยนแปลงไปภายหลังเจ็บป่วย
แบบแผนบทบาทและสัมพันธภาพ ป็นแบบแผนที่เกี่ยวกับเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบ การติดต่อสื่อสาร และการมีสัมพันธภาพกับบุคคลทั้งภายในครอบครัวและสังคม เช่น การประกอบอาชีพ
แบบแผนเพศ และการเจริญพันธุ์ ได้แก่ เหตุการณ์ที่ทำให้เกิด
การเปลี่ยนแปลงทางเพศ และระยะเวลาของการเปลี่ยนแปลง
แบบแผนการปรับตัว และการเผชิญความเครียด ได้แก่ สิ่งที่
ทำให้เกิดความเครียด วิธีแก้ไขเมื่อเกิดความเครียด
แบบแผนค่านิยม และความเชื่อ ได้แก่ ความเชื่อเกี่ยวกับสุขภาพ และความเจ็บป่วย การรักษา และกิจกรรมการพยาบาลที่ขัดต่อความเชื่อ และค่านิยม ศาสนกิจที่ปฏิบัต เช่น การ
ตักบาตร ทำสมาธ
การประเมินทางด้านจิตสังคม
1 .วิธีการพูดจาติดต่อสื่อสารที่ใช้และปัญหา เช่น การพูด ภาษาที่ใช้ลักษณะของการพูด
อารมณ์และพฤติกรรมที่แสดงออกขณะประเมิน
3 ความเชื่อเกี่ยวกับสาเหตุความเจ็บป่วย
ความรู้สึก/การรับรู้ของผู้ป่วยและครอบครัวต่อความเจ็บป่วย
ความคาดหวังของผู้ป่วย/ครอบครัวต่อการรักษา/การพยาบาลในครั้งนี้
ผลกระทบต่อความเจ็บป่วยต่อภาวะเศรษฐกิจของครอบครัวการเจ็บป่วยของผู้ป่วยมีผลกระทบต่อบทบาทของสมาชิกในครอบครัวอย่างไร เช่น การเจ็บป่วยครั้งนี้ทาให้ขาดงาน
ผลกระทบต่อความเจ็บป่วยต่อบทบาทและสัมพันธภาพในครอบครัว
จุดเด่นและจุดด้อยของแบบแผนสุขภาพ
จุดเด่น
เป็นแบบแผนที่กว้างและยืดยืดหยุ่น ใช้ได้ทั้งประเมินบุคคล ครอบครัว ชุมชน
ไม่ได้เน้นเฉพาะผู้เจ็บป่วย พฤติกรรมสุขภาพปกติก็สามารถเขียนเป็นข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
ได้
แบบแผนทั้ง 11 แบบแผน เป็นการมองถึงภาวะสุขภาพ หรือพฤติกรรมที่พบเห็นได้ทั่วไป เข้าใจง่าย
กระตุ้นให้เตือนให้พยาบาลมองภาวะสุขภาพของผู้รับบริการเป็นองค์รวม
สามารถน าไปใช้ในการก าหนดข้อวินิจฉัยการพยาบาลรูปแบบของ NANDA ได้
จุดด้อย
แบบแผนบางแบบแผนมีขอบเขตที่กว้างมาก ซึ่งอาจทำให้การประเมินทำได้ไม่ครอบคลุมทั้งแบบ
แผนประเมินปัญหาผู้ป่วยได้ไม่ครบถ้วน
บางแบบแผนมีความซ้ าซ้อนกัน เช่น แบบแผนการการรับรู้ตนเอง และอัตมโนทัศน์ แบบแผนบทบาท และสัมพันธภาพ แบบแผนเพศ และการเจริญพันธุ์ แบบแผนการปรับตัว และการทนต่อความเครียด