Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แนวคิดพื้นฐานในการบำบัดรักษาทางจิต, นางสาวกมลชนก ทองมาก เลขที่6…
แนวคิดพื้นฐานในการบำบัดรักษาทางจิต
การใช้ตนเองเพื่อการบำบัด
(Therapeuticuse of self)
.
สิ่งสำคัญคือ การใช้ เป็นเครื่องมือสำคัญ
เป็นการใช้บุคลิกภาพและความเป็นตัวตนของบุคคลอย่างมีสติ ตระหนักในตนเอง
เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกความจริง
อัตตาหรือความเป็นตัวเอง(Self )
ส่วนรวามทั้งหมดของบุคคลทั้ง ด้านร่างกาย ความคิด
ความรู้สึก ความเชื่อ ค่านิยม
อัตมโนทัศน์(Self concept)
.
ความคิด การรับรู้อาจจะตรงกับความเป็นจริงหรือคลาดเคลื่อนจากความเป็น
จริงขึ้นกับปัจจัยหลายประการ เช่นการเลี่ยงดู
แบ่งเป็น2ด้าน
ตัวตนด้านร่างกาย(physical self)
การรับรู้เกี่ยวกับร่างกายตนเอง เช่น เตี้ย ขาว ดำ อ้วน
ตัวตนส่วนบุคคล(personal self)
การรับรู้คุณค่าตนเอง เป็นความรู้สึกเกี่ยวกับตนเองทั้ง ความเชื่อ ความหวังค่าานิยม
แบ่งเป็น4ด้าน
ด้านศีลธรรมจรรยา(moral-ethical self)
ด้านความสม่ำเสมอแห่งตน(self-consistency)
ด้านปณิธานหรือความคาดหวัง(ideal self)
ด้านการยอมรับนับถือตนเอง(self esteem
ความตระหนักรู้ในตนเอง(Self awareness)
.
เป็นภาวะที่บุคคลรู้สึกตัวของตนเองและสิ่งแวดล้อม ณขณะนั้นว่าตนเองเป็นใคร คิดและรู้สึกอย่างไรกำลังทำอะไรอ
การตระหนักรู้ในตนเองที่ต้องมีและใข้เป็นเครื่องมือดูแลผู้ป่วย
แนวทางการพัฒนาการตระหนักรู้ตนเองได้นั่น
ประโยชน์ที่ได้จากการตระหนักรู้ตนเอง
คุณสมบัติที่จำเป็น
.
ความจริงใจ Genuine
ท่าทีอบอุ่นWarmth
ความสอดคล้อง Congruency
ให้การยอมรับ Unconditioning
ความอดทน Endurance
ไม่ตัดสินผู้อื่น Nonjudrmental
ให้ความเคารพ Respect
บุคคลทุกคนมีคุณค่า Positive regard
เชื่อถือได้ Trustworthiness
การเปิดเผยตัวเอง Self-disclosure
มีความรู้ Knowledge
มีความสมำ่เสมอ Consistency
เข้าใจความรู้สึก Empathy
Empathy
Sympathy
การสื่อสารเพื่อการบำบัด
(Therapeutic Communication)
อุปสรรคในการติดต่อสื๋อสาร
(Block to therapeuticCommunication)
ระยะห่างระหว่างบุคคลมาหรือน้อยเกินไป
การดำเนินวิธีการสื่อสารและใช้เทคนิคการสื่อสารที่ไม่เหมาะสมเช่นการที่
พยาบาลไม่ฟังพยาบาลพูดมากหรือน้อยเกินไป
ข้อจำกัดทางอาการของผู้ป่วย
สิ่ง แวดล้อมไม่เหมาะสมเช่นมีผู้ป่วยอื่นมาวุ่นวาย
การใช้เทคนิคการสนทนาไม่เหมาะสม
.
การใช้คำปลอบโยน "อดทนไว้ เดี่ยวก็ดีขึ้น"
การให้คำแนะนำ "คุณควรจะ….."
การแสดงการเห็นด้วยกับข้อคิดเห็นหรือการกระทำผู้ป่วยเช่น"คุณทำถูกแล้ว"
การแสดงความไม่เห็นด้วยกับข้อคิดเห็นหรือการกระทำผู้ปุวยเช่น"คุณไม่น่าทำแบบนี้"
การขอคำอธิบาย
การดูถูกความรู้สึกผู้ป่วย
ท่านั่งที่แสดงถึงความไม่สนใจผู้ป่วยเช่นนั่งกอดอกนั่งไขว่ห้างการจดบันทึก
องค์ประกอบที่มีผลต่อการสื่อสารเพื่อการบำบัด
.
ระยะห่างระหว่างพยาบาลกับผู้ป่วย (space)หากระยะห่างระหว่างพยาบาลกับผู้ป่วยมีมากเกินไปก็จะทำให้การสื่อสารขาดความชัดเจนห่างเหิน
สถานที่ (place or setting)
สถานทีทีใช้ในการสนทนาเพื่อให้การสื่อสารระหว่างพยาบาลกับผู้ป่วยมีประสิทธิภาพ
.
ท่านั่ง (sรeะating)หรือการจัดที่นั่งรวมถึงลักษณะท่าทางของผู้สนทนาถือเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ควรคำนึงถึงเนื่องจากการสื่อสารกับผู้ป่วยต้องใช้ระยะเวลาในการสนทนาครั้ง ละ 30-60 นาท
.
เทคนิคการสื่อสารเพื่อการบำบัดเทคนิคที่ใช้ในการสื่อสารเพื่อให้การบำบัดเป็นไปตาม ที่ตั้งไว้ในการให้การช่วยเหลือผู้ป่วย
,
เทคนิคที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้ป่วยพูดระบายความคิดความรู้สึก
เทคนิคการส่งเสริมให้ผู้ป่วยรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง
เทคนิคที่ช่วยพยาบาลกับผู้ป่วยเข้าใจให้ตรงกัน
เทคนิคช่วยส่งเสริมความเข้าใจในการปรับตัวผู้ป่วย
เทคนิคการกระตุ้นและส่งเสริมการสนทนา
หลักปฏิบัติในการสื่อสาร
.
ไม่พูดถึงอดีตที่ปวดร้าวเกินไปขณะที่ผู้ป่วยยังไม่พร้อม
สื่อสารที่เน้นเรืองราวที่เป็นปัจจุบัน
ใช้หลักการสื่อสารที่ให้ผู้ป่วยได้มีโอกาสระบายความรู้สึก
ใช้หลักการต่างๆที่ง่ายๆ ชัดเจน ตรงไปมา
ให้สำคัญกับความสอดคล้องระหว่างเนื้อหาคำพูดท่าทางสีหน้าและนำเสียงของพยาบาล
ฟังทั้งเนื้อหาและเจตนาว่าผู้ป่วยพูดถึงอะไรหมายความว่าอย่างไร
ไม่เสนอข้อมูลมากเกินไปจนทำให้ผู้ป่วยสับสนเบื่อหน่าย
การสร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัด
(Therapeutic relationship)
องค์ประกอบ สื่อสารเพื่อบำบัด
ระยะห่าง
ห่างมากเกินไป อาจขาดตวามชัดเจนห่างเหิน
ใกล้ชิดเกินไป อาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอึดอัด
ท่านั่ง
.
ใช้เวลาครั้งละ 30-60 นาที
เป็นท่าที่ผ่อนคลายทั้ง2ฝ่าย
นั่งทำมุม 45 องศา
ไม่ควรนั่งเผชิญหน้ากัน
ท่าทางควรระวัง
.
นั่งเท้าคาง แสดงความไม่สนใจ
นั่งกอดอก แสดงการไม่เห็นด้วย
นั่งไขว้ห้าง แสดงการมีอำนาจอยู่เหนือกว่า
สถานที่
ไม่มีสิ่งรบกวน เป็นส่วนตัว
บรรยากาศสบาย ปลอดโปร่ง
เพื่อผู้ป่วยผ่อนคลาย
เป้าหมาย
.
ยอมรับตนเอง
รู้จักตัวเอง ปรับปรุงตัวเอง
สร้างความสนิทสนมคุ้นเคยกับผู้อื่น
ปรับปรุงการทำงาน
เพิ่มความสามารถการทำงาน
ผู้ป่วยได้ระบายความรู้สึก
ระยะสัมพันธภาพ
ก่อนสนทนา
.
เตรียมตัวด้านเป้าหมายของสัมพันธภาพกับผู้ป่วย
วางแผน วัตถุประสงค์สถานที่ เวลาข้อมูลต่างๆ
พยาบาลตรวจสอบร่างกายจิตใจให้พร้อมศึกษาข้อมูลเบื้องต้น
เริ่มต้นสัมพันธภาพ
สิ่งที่ต้องปฏิบัติ
.
สถานที่ บรรยากาศ น่าไว้วางใจ
ท่าทางเป็นมิตร คุยทั่วไป แนะนำตัว
บอกวัตถุประสงค์
ข้อตกลง วัตถุประสงค์ ระยะเวลาที่สนทนา
สร่างความไว้วางใจ
ส่งเสริมการระบายความรู้สึก
ปัญหาที่พบ
.
ความวิตกกังวล ของทั้ง2ฝ่าย พยาบาลและผู้ป่วย
การทดสอบ
ผู้ป่วยไม่มาตามนัดปล่อยให้รอ
แต่แอบดูเป็นระยะๆ
การต่อต้าน ผู้ป่วยไม่รับรู้ ไม่เปิดเผยตัวตน
แก้ไขปัญหา สิ่งที่ควรปฏิบัติในระยะนี้
.
กษาสัมพันธภาพ
ค้นหาสาเหตุปัญหาโดยให้ระบายความรู้สึก
ประเมินการเจ็บป่วย
ร่วมกันวิเคราะห์หาสาเหตุ
หรือปรับปรุงพฤติกรรมให้เหมาะสม
สนับสนุนด้านจิตใจ
การให้เวลา
การให้กำลังใจ
ยุติสัมพันธภาพ
.
ผู้ป่วยได้รับการคลี่คลายปัญหา
พยาบาลไม่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกต้องพึ่ง
พยาบาลมากเกินไป
พยาบาลทำให้ผู้ป่วยเชื่อมั่นในตัวเอง
ความแตกต่างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัดกับเพื่อสังคม
เพื่อการบำบัด
การวางแผน ต้องวางแผนก่อนพบ
เป้าหมายเพื่อให้ผู้ป่วยระบายความรู้สึก
เข้าใจและยอมรับปัญหา สร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่นได้
เนื้อหา เน้นเรื่องความคิด อารมณ์ พฤติกรรมผู้ป่วย
ระยะสิ้นสุดเมื่อผู้ป่วยจำหน่ายกลับบ้านหรือขึ้นอยู่กับความสำเร็จเป้าหมาย
เพื่อสังคม
.
เป้าหมาย เพื่อให้เกิดความพึ่งพอใจซึ่งกันและกัน
เนื้อหา ตามความพอใจ2ฝ่าย
การวางแผน มี ไม่มีก็ได้
ระยะเวลา แล้วแต่ความพอใจทั้ง 2ฝ่าย
ประวัติความเป็นมา
,
Render
Peplau
สัมพันธภาพที่มีประสิทธภาพระหว่างพยาบาลกับผู้ป่วย
มีความสำคัญช่วยบำบัดผู้ป่วยได้
เน้นการบำบัดแบบหนึ่งต่อหนึ่ง(One-to-one relationship)
คำถาม ในกรณีที่เจอผู้ป่วยไม่ยอมพูดด้วยเลยทั้งที่รอทุกวันและใช้เทคนิคแล้วแต่ผุ้ป่วยก็ไม่ยอมพูดด้วยควรทำอย่างไรดีค่ะ
นางสาวกมลชนก ทองมาก เลขที่6 รหัส612001006 รุ่น 36/1
นางสาวณัฐนรี ธีรวันอุชุกร เลขที่38 รหัส612001039รุ่น 36/1