Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 3 การเตรียมและช่วยเหลือมารดาทารกที่ได้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ …
บทที่ 3 การเตรียมและช่วยเหลือมารดาทารกที่ได้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ
Biochemical Assessment
Amniocentesis
คือ การตรวจวินิจฉัยก่อนคลอดโดยเจาะน้ำคร่ำเพื่อตรวจโครโมโซมทารกในครรภ์ที่ผิดปกติ
ทำโดยวิธีการปราศจากเชื้อ เจาะโดยใช้เข็มขนาดเล็กเจาะผ่านหน้าท้อง และผนังมดลูกเข้าสู่ถุงน้ำคร่ำ มาส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ทำเมื่ออายุครรภ์ 16-18 สัปดาห์
ภาวะแทรกซ้อน
การติดเชื้อในถุงน้ำคร่ำ
ปวดเกร็งเล็กน้อยบริเวณท้องน้อย
กลุ่มเลือด Rh negative
คำแนะนำหลังการเจาะ
ควรสังเกต และมาพบแพทย์หากมีอาการ ปวดเกร็งหน้าท้องมาก มีไข้ภายใน 2 สัปดาห์ หรือมีน้ำหรือเลือดออกทางช่องคลอด
พักหลังจากการเจาะ1 วัน ควรงดการออกแรงมาก และงดการร่วมเพศอีก 4-5 วัน ไม่ควรเดินทางไกลภายใน 7 วันหลังการเจาะน้ำคร่ำ
บทบาทของพยาบาล
ดูแลจัดท่า วัดความดันโลหิต และฟังเสียงหัวใจของทารก
จัดเตรียมอุปกรณ์ให้สะอาดปราศจากเชื้อ
ภายหลังเจาะให้นอนหงาย กดแผลหลังจากเอาเข็มออก ประมาณ 1 นาที และปิดแผลด้วยพลาสเตอร์
ภายลังการเจาะ ฟังเสียงหัวใจทารกทุก 15 นาที จนครบ 1 ชั่วโมง และวัด Vital signs 2 ครั้ง ห่างกัน 15 นาที
ดูแลให้ปัสสาวะเพื่อให้กระเพาะปัสสาวะว่าง
Amniotic fluid analysis (ดูความสมบูรณ์ของปอด)
ดูสีของน้ำคร่ำ มีเลือดปน ใสหรือขุ่น มีสีของขี้เทาปนหรือไม่
การตรวจหาค่า L/S ratio
ดู lung maturity
สัดส่วนของ L/S จะเท่าๆกัน จนกระทั่ง 30 สัปดาห์ sphingomyelin จะเริ่มคงที่ ขณะที่ lecithin จะเพิ่มขึ้น
ค่าปกติของ L/S rotio
26 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ค่า S > L
26-34 สัปดาห์ค่า L/S ratio = 1:1
34-36 สัปดาห์ค่า L/S ratio = 2:1
L/S ratio > 2 แสดงว่าปอดทารกสมบูรณ์เต็มที่ โอกาสเกิด RDS ต่ำ
Shake Test
เป็นการทดสอบความสมบูรณ์ของปอดทารกในครรภ์
ใช้หลอด 5 หลอด ใส่น้ำคร่ำจำนวน 1 cc , 0.75 cc , 0.5 cc , 0.25 cc และ 0.2 cc ตามลำดับแล้วเติม normal saline Solution ในหลอดที่ 2,3,4 และ 5 ทำให้ส่วนผสมเป็น 1 cc ทุกหลอดแล้วเติม Ethanol 95 % ทุกหลอดเขย่านาน 15 วินาที ทิ้งไว้นาน 15 นาที
ถ้าพบว่ามีฟองอากาศเกิดขึ้น 3 หลอดแรกแสดงว่าได้ผลบวก ปอดของทารกเจริญเต็มที่ ถ้าพบฟองอากาศ 2 หลอดแรกได้ผล intermediate ปอดทารกยังไม่เจริญเต็มที่ ถ้าพบฟองอากาศเพียงหลอดเดียวหรือไม่พบเลย แสดงว่าได้ผลลบ ปอดทารกยังเจริญไม่เต็มที่ ถ้าได้ผลลบควรตรวจหาค่า L/S ratio ต่อไป เพราะอาจเป็นผลลบลวง แต่พบได้น้อย
Alpha fetoprotein (AFP)
เป็นการตรวจเลือดมารดา ตรวจสอบความผิดปกติของรก ตรวจในช่วง16-18 wks.
ค่าปกติ AFP 2.0 – 2.5 MOM
Fetoscopy
คือ การส่องกล้องดูทารกในครรภ์ โดยสอดเข้าไปในถุงน้ำคร่ำโดยผ่านผนังหน้าท้องของหญิงตั้งครรภ์เพื่อดูความผิดปกติของทารก
ขั้นตอนการทำ
ต้องตรวจสอบปริมาณน้ำคร่ำหลังทำ
หลังทำงดการทำงานหนัก 1 – 2 สัปดาห์ เนื่องจากอาจมีอาการปวดท้อง
ใช้ ultrasound เป็นตัวช่วยในการทำ
ตรวจสอบ FHS ก่อนและหลังทำ
งดน้ำงดอาหารก่อนทำ 6-8 ชั่วโมง
Biophysical Assessment
Ultrasound
คือ การใช้คลื่นเสียงที่มีความถี่สูง ผ่านผิวหนังเข้าไปเนื้อเยื่อที่ต้องการตรวจ ดูขนาด ขอบเขต รูปร่าง การเคลื่อนไหวของอวัยวะ
แนวทางการตรวจ
ดูจำนวนและการมีชีวิตของทารก ดูลักษณะและตำแหน่งของรก ปริมาณน้ำคร่ำ ประเมินอายุครรภ์และการเจริญเติบโตของทารก
ข้อบ่งชี้ด้านมารดา
วินิจฉัยการตั้งครรภ์ในระยะเริ่มแรก วินิจฉัยการตั้งครรภ์ที่มีความผิดปกติ ตรวจดูตำแหน่งที่รกเกาะ ตรวจดูภาวะแฝดน้ำ / น้ำคร่ำน้อย ตรวจในรายสงสัยครรภ์ไข่ปลาอุก วินิจฉัยการตั้งครรภ์นอกมดลูก และเพื่อดูความผิดปกติ
ข้อบ่งชี้ด้านทารก
ดูการเจริญเติบโต คาดคะเนอายุครรภ์ ตรวจดูความผิดปกติของทารกในครรภ์ วินิจฉัยภาวะทารกตายในครรภ์ ดู lie position และส่วนนำของทารกตรวจดูจำนวนของทารกในครรภ์
การแปลผล Ultrasound
Abdominal circumference : Ac
Gestational Sac : GS
Head cicumference : Hc
Crown-rump lerght : CRL
Femur length : FL
Biparietal diameter : BPD
Fetal Biophysical profile (BPP)
คือ การประเมินสุขภาพทารกในครรภ์ โดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงตรวจวัดการเคลื่อนไหวของอวัยวะต่างๆของทารกที่ถูกกระตุ้นและควบคุมด้วยระบบประสาทส่วนกลาง (Biophysical activity)
วิธีการตรวจ
เตรียมหญิงตั้งครรภ์ในท่านอน Semi-fowler ตะแคงซ้ายเล็กน้อย
ใช้ Ultrasound ตรวจวัดข้อมูล 5 ตัวแปรที่ต้องการ (การหายใจ, การเคลื่อนไหว, แรงตึงตัวของกล้ามเนื้อ , การเต้นของหัวใจทารก, ปริมาณน้ำคร่ำ
กำหนดค่าคะแนนของแต่ละข้อมูล ข้อละ 2 คะแนน
เมื่อพบว่าปกติให้ 2 คะแนน และให้ 0 คะแนนเมื่อพบว่าผิดปกติ
การแปลผล
6 คะแนน มีภาวะเสี่ยงต่อการขาดออกซิเจนเรื้อรังของทารก ควรตรวจซ้ำใน 4-6 ชั่วโมง
คะแนน 8-10 คะแนน ปกติ ไม่มีภาวะเสี่ยง ควรตรวจซ้ำใน 1 สัปดาห์
0-2 คะแนน แสดงว่า มีภาวะขาดออกซิเจนเรื้อรังอย่างรุนแรง ควรให้มีการคลอดโดยเร็ว
4 คะแนน แสดงว่า มีภาวะขาดออกซิเจนเรื้อรัง
Electronic Fetal monitoring
(ตรวจดูสุขภาพทารก)
เครื่องมือ
Tocodynamometer วางบริเวณยอดมดลูกเพื่อประเมินความรุนแรงของการหดรัดตัวของมดลูก
ultrasonic transducer วางอยู่บนหน้าท้องบริเวณหัวใจทารก เพื่อประเมินการเต้นของหัวใจและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเมื่อมีการหดรัดตัวของมดลูก
การเต้นของหัวใจทารกและคำต่างๆที่เป็นสากล
Baseline fetal heart rate ปกติ 110 – 160 ครั้ง/นาที
Tachycardia > 160 ครั้ง/นาที
Bradycardia < 110 ครั้ง/นาที
Variability คือ อัตราการเต้นของหัวใจทารกที่มีการเปลี่ยนแปลง
Periodic change
deceleration
Variable deceleration
Late deceleration
Prolonged deceleration
Early deceleration
acceleration การเพิ่มขึ้นของ FHR
อายุครรภ์ < 32 สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 10 bpm นานกว่า 10 วินาที
อายุครรภ์ > 32 สัปดาห์ มากกว่าหรือเท่ากับ 15 bpm
นานกว่า 15 วินาที
หลักการดูแลทารกที่มีการเต้นของหัวใจผิดปกติ
เพิ่ม uterine blood flow โดยการจัดท่ามารดา ให้สารน้ำทางเส้นเลือด ช่วยลดความกังวลใจให้กับมารดา
เพิ่ม oxygen saturation โดยการจัดท่ามารดา ให้ออกซิเจนแก่มารดา และสอนวิธีการหายใจที่ถูกต้องในระหว่างเจ็บครรภ์คลอด
ลด uterine activity โดยปรับเปลี่ยนการให้ยาที่เหมาะสม จัดท่ามารดาให้สารน้ำทางเส้นเลือด และสอนวิธีการการเบ่งคลอดที่ถูกต้อง
เพิ่ม umbilical circulation โดยการจัดท่ามารดา การตรวจภายในดันส่วนนำของทารกเพื่อลดการกดสายสะดือถ้าเกิดภาวะสายสะดือย้อย
CST
NST