Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 4 ภาวะผู้นำ (Leadership) - Coggle Diagram
บทที่ 4 ภาวะผู้นำ
(Leadership)
หมายถึง คุณลักษณะที่มีในตัวบุคคล รวมถึง ทัศนคติและการมีวิสัยทัศน์ที่
กว้างไกล การจูงใจให้ผู้ร่วมงานปฏิบัติตามด้วยความเต็มใจ และบรรลุเป้าหมายขององค์การ
องค์ประกอบ
ความสัมพันธ์ทางด้านการใช้อำนาจอิทธิพล
ความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น ได้แก่ ผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้ร่วมงาน
มีจุดหมายเพื่อให้งานของหน่วยงานหรือกลุ่มสำเร็จตามวัตถุประสงค์
ทฤษฎีภาวะผู้นำ
(Theories of leadership)
ทฤษฎีคุณลักษณะ (trait theory)
ลักษณะความสามารถในการนำและดำเนิน
กิจกรรมให้กลุ่มไปสู่เป้าหมายตามที่กำหนด
การศึกษาคุณลักษณะภาวะผู้นำของคอตเตอร์ (Kotter)
ลักษณะด้านแรงจูงใจ
ชอบอำนาจ (liked power)
ชอบความสำเร็จ (liked achievement)
มีความทะเยอทะยาน (ambitious)
ลักษณะด้านอารมณ์ (temperament)
มีความมั่งคงทางอารมณ์ (emotionally stable and even)
เป็นคนมองโลกในแง่ดี (aptimistic)
ลักษณะด้านความคิด(cognitive)
ฉลาดกว่าบุคคลทั่วไป (above-average intelligence)
มีความสามารถในการวิเคราะห์จากระดับปานกลางถึงระดับมาก(analytically)
มีความสามารถในการหยั่งรู้ในระดับมาก (intuitively)
ลักษณะด้านปฏิสัมพันธ์ (interperson)
มีรูปลักษณ์ที่ดีและเป็นที่ดึงดูดใจผู้พบเห็น (personable)
มองผลประโยชน์ขององค์การในมุมกว้าง (broad)
ลักษณะด้านความรู้ (knowledge)
มีความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ตนปฏิบัติ (business)
มีความรู้เกี่ยวกับองค์การของตน (organization)
ลักษณะด้านมนุษยสัมพันธ์ (relationship)
1) สามารถร่วมมือ (cooperative) กับบุคลากรส่วนใหญ่ขององค์การ
2) สามารถร่วมมือ (cooperative) กับบุคคลที่อยู่ในองค์การประเภทเดียวกัน
การศึกษาคุณลักษณะผู้นำของเคิร์กแพตตริกและล็อค
มีแรงจูงใจสูง (drive)
มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะนำผู้อื่น (desire to lead)
ความซื่อสัตย์และมีศักดิ์ศรี (honesty and integrity)
มีความเชื่อมั่นในตนเอง (self – confidence)
มีความฉลาด (intelligence)
มีความรู้เกี่ยวกับงานในหน้าที่ (job-relevant knowledge)
การศึกษาคุณลักษณะภาวะผู้นำของการ์ดเนอร์
ความเห็นพ้องทางค่านิยม (affirming value)
การจูงใจ (motivation)
กำหนดภาพในอนาคตของเป้าหมาย (envisioning goals)
การจัดการ (managing)
ความเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อความสำเร็จของงาน (achieving workable unity)
การอธิบาย (explaining)
การแสดงสัญลักษณ์แห่งความเป็นผู้นำ (serving as a symbol)
เป็นตัวแทนกลุ่ม (representing the group)
การสร้างสิ่งใหม่ ๆ (renewing)
ทฤษฎีเชิงพฤติกรรม
(Leardership behavioral theory)
การศึกษาของมหาวิทยาลัยโอไฮโอ (Ohio State Studies)
พฤติกรรมมุ่งงาน (Initiating Structure behavior)
พฤติกรรมมุ่งคน (Consideration behavior)
การศึกษาของมหาวิทยาลัยไอโอวา (The University of Iowa Studies)
พฤติกรรมผู้นำแบบเผด็จการ
พฤติกรรมผู้นำแบบประชาธิปไตย
พฤติกรรมผู้นำแบบปล่อยตามสบาย
การศึกษาของมหาวิทยาลัยมิชิแกน (The Michigan Studies)
พฤติกรรมที่มุ่งงาน (Job-Centered Behavior)
พฤติกรรมี่มุ่งให้ความสำคัญแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา (People-Centered Behavior)
ทฤษฎีความต่อเนื่องของพฤติกรรมผู้นำ (Continuum of Leader Behavior)
พลังที่มีอยู่ในตัวผู้บริหาร (forces in the manager)
พลังที่มีอยู่ในตัวของผู้ใต้บังคับบัญชา (forces in the subordinate)
พลังที่มีอยู่ในสถานการณ์ (forces in the situation)
ทฤษฎีผู้นำตามสถานการณ์ (Situational theory)
ของไฟด์เลอร์
(Fridler contingency theory)
พฤติกรรมของผู้นำที่มุ่งงาน (task motivation)
พฤติกรรมของผู้นำที่มุ่งมนุษยสัมพันธ์ (relationship motivation)
แบบวิธีการกับการบรรลุเป้าหมาย (Path-Goal Theory of Leadership)
ปรับภาวะผู้นำให้สอดคล้องกับสถานการณ์
หลักการสำคัญของทฤษฎี (Basic Premises)ผู้นำที่มีประสิทธิภาพจะส่งผลให้การปฏิบัติงานของ
ผู้ใต้บังคับบัญชา มีประสิทธิภาพมากขึ้น
พฤติกรรมของผู้นำ (Leader Behavior)
ภาวะผู้นำแบบชี้นำ (Directive Leadership)
แจ้งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทราบความคาดหวังขององค์การ
เสนอแนะสิ่งที่จะต้องทำและวิธีการที่จะทำ
กำหนดตารางเวลาที่ต้องทำงานให้แล้วเสร็จ
กำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงาน
สร้างความชัดเจนในการกำหนดบทบาทของผู้นำในกลุ่ม
ภาวะผู้นำแบบสนับสนุน (Supportive Leadership)
ทำให้งานและสภาพแวดล้อมของงานเป็นที่พึงพอใจของบุคลากร
ปฏิบัติกับทุกกลุ่มเสมอภาคกัน
เป็นมิตรกับบุคลากรและทำตัวให้เป็นผู้ที่เข้าหาได้ง่าย
แสดงให้เห็นความสำคัญในสถานภาพการดำรงชีพที่ดี และการตอบสนองต่อความต้องการของบุคลากรได้ดี
ภาวะผู้นำแบบมีส่วนร่วม (Participative Leadership)
ให้บุคลากรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
ปรึกษาหารือบุคลากร
ขอความเห็นจากบุคลากร
ให้ความสำคัญกับคำแนะนำต่าง ๆ ก่อนการตัดสินใจ
ภาวะผู้นำแบบมุ่งความสำเร็จ
(Achievement-Oriented Leadership)
กำหนดเป้าหมายให้เป็นการท้าทาย
คาดหวังว่าบุคลากรจะปฏิบัติงานที่มีผลงานสูง
แสดงให้เห็นว่าบุคลากรจะทำงานได้ผลงานสูง
มุ่งเน้นความเป็นเลิศและปรับปรุงการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง
ของเฮอร์เซย์และบลันชาร์ด (Situational
Leadership Model)
R1 : ผู้ตามไม่มีความสามารถและไม่เต็มใจที่จะทำงาน
R2 : ผู้ตามไม่มีความสามารถในการทำงาน แต่เต็มใจที่จะทำงาน
R3 : ผู้ตามมีความสามารถในการทำงาน แต่ไม่เต็มใจที่จะให้ผู้บริหารบอกว่าต้องทำอะไร
R4 : ผู้ตามมีทั้งความสามารถและเต็มใจที่จะทำงาน
ทฤษฎีภาวะผู้นำสมัยใหม่ (Modern leadership Theory)
มุ่งเน้น (concentrate) การปรับภาวะผู้นำให้เอื้อต่อการมีส่วนร่วมในการการตัดสินใจที่เกิดขึ้นจากผู้ใต้บังคับบัญชา และเปิดโอกาสให้ผู้ใต้บังคับบัญชาได้มีอิสระในการทำงานให้มากขึ้น
จิตวิญญาณของผู้นำยุคใหม่ (Soul)
มีวิสัยทัศน์ (Visionary)
มีความรักให้ลูกน้อง (Passionate)
มีความคิดสร้างสรรค์ (Creative)
มีความยืดหยุ่น (Flexible)
มีความสามารถในการจูงใจ (Inspiring)
มีการใช้นวัตกรรม (innovative)
มีความกล้า (Courageous)
มีจินตนาการสูง (Imaginative)
ชื่อชอบการทดลอง (Experimental)
มีความเป็นอิสระ (Independent)
ผู้นำคือบุคคลที่ใช้ความสามารถในการนำ จูงใจให้บุคคลแต่ละคนทำงานด้วยความเต็มใจ
ผู้บริหารคือบุคคลที่มีฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาหรือผู้ที่มีอำนาจในการบังคับบัญชาตามขอบเขตอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตามโครงสร้างอย่างเป็นทางการ
คุณสมบัติของผู้นำทางการพยาบาล
มีคุณธรรม จริยธรรมเป็นคุณสมบัติสำคัญอันดับแรก
การตระหนักในตนเอง ผู้นำต้องรู้จักประเมินในเรื่อง
ความพร้อมในการทำงาน
อำนาจส่วนตัว
บุคลิกลักษณะ
พิทักษ์สิทธิ์ ผู้นำต้องช่วยเหลือผู้อื่นให้เจริญก้าวหน้า
กล้าหาญชาญชัย คนที่เป็นผู้นำจะต้องอยู่ข้างหน้า
การพัฒนาทีมงานและการทำงานเป็นทีม
การแสดงตนเป็นสมาชิกของทีม
การแสดงตัว (Identity) ของสมาชิกในทีมที่แสดงตนอย่างชัดเจน
การยึดเกาะระหว่างสมาชิก (Cohesion) เป็นการแสดงออกของทีมงานถึงความผูกพัน
การกระตุ้นการทำงาน (Facilitate)ใช้การประชุมเป็นเครื่องมือที่มีค่า
การสื่อสาร (Communication) เมื่อการทำงานขึ้นอยู่กับพลังอำนาจที่แต่ละคน
ความยืดหยุ่น (Flexibility) ทีมที่มีความยืดหยุ่นจะทำงานที่ได้รับมอบหมาย
ความเป็นเพื่อน (Friendship) ทำให้ขวัญและกำลังใจ
การมีข้อผูกมัดร่วมกันทำให้กลายเป็นพลังในการทำงานแบบร่วมมือกัน
ไม่ใช่การทำงานแบบต่างคนต่างทำเพื่อประโยชน์ของตนเท่านั้น แต่เป็นการร่วมแรงร่วมใจกันทำใน
งานที่คนเดียวทำไม่ได้หรือบรรลุความสำเร็จได้ยาก ผลงานของทีมจึงให้คุณค่ามากกว่าผลรวมของงาน
ที่ทุกคนแล้วนำมาบวกรวมกัน (Worth more than sum of its parts) เพราะความร่วมมือร่วมใจกัน
จริยธรรมผู้นำ
เป็นเกณฑ์ความประพฤติที่ถูกต้องดีงาม เป็นสิ่งที่เหนี่ยวนำมนุษย์ว่าสิ่งใดควร
ประพฤติปฏิบัติ โดยผ่านกระบวนการคิดไตร่ตรอง เพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม
สำหรับผู้บริหารทางการพยาบาล
1) มีการพัฒนาตนเองในด้านของบุคลิกภาพ ความรู้ ทักษะ และนวัตกรรมของการบริหารและการปฏิบัติการพยาบาล
2) เฝ้าระวัง สำรวจ พัฒนาพฤติกรรมจริยธรรมของตนเองอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดี
3) มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ในหน้าที่รับผิดชอบ
4) ใจกว้าง ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น มีความพร้อมที่จะแก้ไขและพัฒนา
5) ยกย่อง ให้เกียรติ ให้กำลังใจ ส่งเสริมผู้ที่มีพฤติกรรมจริยธรรมดีเด่นและพยาบาลต้นแบบ