Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ ๕ เทคนิคการบริหารทางการพยาบาล, จัดทำโดย นางสาวนฤมล ดีสมจิตร…
บทที่ ๕ เทคนิคการบริหารทางการพยาบาล
การเจรจาต่อรอง (Negotiation)
หมายถึง กระบวนการที่บุคคลระหว่าง ๒ คน หรือมากกว่าขึ้นไป ติดต่อสื่อสารกลับไปกลับมาเพื่อหารือความต้องการ หรือผลประโยชน์ที่แตกต่างกัน เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันหรือบรรลุความ
ต้องการและเป็นที่พอใจของทั้ง ๒ ฝ่าย
องค์ประกอบของการเจรจาต่อรอง
๒. กระบวนการ การเจราจาต่อรองเป็นกระบวนการที่มีขั้นตอน
๓. ความพยายามที่จะแก้ปัญหา เรื่องที่จะเจรจา
๑. บุคคลหรือกลุ่มบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปที่มีความคิดเห็น หรือความต้องการที่แตกต่างกัน
๔. ความแตกต่าง แต่ละฝ่ายต้องตระหนักว่าทั้งคู่มีความแตกต่างกัน
กระบวนการเจรจาต่อรอง (The negotiation process) ของร็อบบินส์
๒. ขั้นกำหนดกฏกติกาพื้นฐาน (definition of ground rules)
๓. ขั้นทำความชัดเจนและหาเหตุผลสนับสนุน (clarification and justification)
๔. ขั้นการต่อรองและแก้ปัญหา ( bargaining and problem solving)
๕. ขั้นจบการเจรจาและน าไปสู่การปฏิบัติ (closure and implementation)
๑. ขั้นเตรียมการและวางแผน ( preparation and planning)
เทคนิคการเจรจาต่อรอง
๑. การต่อรองแบบนุ่ม หมายความว่า ผู้ต่อรองยินดีเสนอและยินยอมคู่เจราจาในบางประเด็นมีความไว้ใจกันมองคู่เจรจาเป็นมิตร และยอมตามเพื่อหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง
๒. การต่อรองแบบแข็ง หมายความว่า ผู้เจรจายึดจุดยืนของตนเป็นหลัก โดยไม่ค านึงถึงข้อเจรจาของฝุายตรงข้าม
มองคู่เจรจาเป็นศัตรู เรียกร้องเพื่อต้องการเอาชนะฝ่ายเดียว
หัวใจสำคัญในการเจรจาต่อรอง
๓. ความสนใจ เน้นเรื่องผลประโยชน์มากกว่าใครแพ้ ใครชนะ
๔. ทางเลือก พยายามหาทางออกหรือทางเลือกอื่น ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจสุดท้าย
๒. บุคคล แยกออกจากปัญหา หลักการแรกจากเหตุผลที่ว่า คนมีชีวิตจิตใจ จึงมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องเสมอเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกัน
๕. เกณฑ์ ต้องตกลงกันตามกฏเกณฑ์ซึ่งเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
๑. เริ่มต้นด้วยการเปิดฉากเชิงบวก (Begin with a positive overture)
การตัดสินใจ (Decision making)
เป็นกระบวนการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ มีการคิดพิจารณา ไตร่ตรอง อย่างมีเหตุผล บนพื้นฐาน
ของกฎเกณฑ์
ความสำคัญของการตัดสินใจ
๓. ช่วยให้บุคคลสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๔. ช่วยให้บุคคลเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจในความสำเร็จของตนเองที่การตัดสินใจนั้นๆก่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อผู้อื่น
๒. ช่วยลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติงาน
๕. ช่วยให้บุคคลมีความมั่นใจและมีการพัฒนาศักยภาพของตนให้ประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิต
๑. ช่วยให้เกิดแนวทางปฏิบัติที่มีคุณภาพ
๖. ช่วยให้เกิดการประหยัดเวลา แรงงาน ทรัพยากรในการปฏิบัติ
ขอบเขตในการตัดสินใจ
๑. การตัดสินใจโดยอาศัยขอบเขตตามระเบียบข้อบังคับ และกฎหมาย
๒. การตัดสินใจโดยอาศัยขอบเขตทางสังคม
กระบวนการตัดสินใจ
๒. เก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล
๓. หาวิธีการแก้ปัญหาวิเคราะห์ทางเลือก
๑. การระบุปัญหาหรือกกำหนดปัญหา
๔. พิจารณาถึงผลดีผลเสียของแต่ละวิธี
๕. เลือกวิธีที่ดีที่สุดไปใช้
๖. ดำเนินการสั่งการ
๗. ประเมินผลการตัดสินใจ
การบริหารเวลา
๑. การกำหนดความสำคัญ (Set Priorities)
B = มีความหมายสำคัญเช่นกัน ถ้ามีเวลาก็ควรทำ
C = ถ้าไม่ทำขณะนี้คงไม่เป็นไร เมื่อทำอย่างอื่นเสร็จแล้วจึงค่อยทำงาน หรือ หลักความสำคัญและความรีบด่วนของงาน
A = มีความสำคัญมากต้องทำก่อน
๓. การปฏิบัติตามตารางเวลาที่กำหนด (Protecting Schedule Times)
ต้องรู้จักใช้คำว่า “ไม่” หรือรู้จักการปฏิเสธงานเฉพาะหน้าที่ไม่มีความจำเป็น เร่งด่วน
๒. การวางแผน (Planning)
๓. ทรัพยากรทางการบริหารที่ต้องการ (Resources Needed)
๔. การติดตามผล (Follow – Up Required)
๒. ยึดหลัก ๔W (The Who What Where and When)
๕. แผนสำรอง (Contingency Plans)
๑. ลำดับงานที่จะทำ (The Sequence)
เ
ทคนิคการบริหารการใช้เวลาที่มีประสิทธิภาพ
๒. วิเคราะห์สาเหตุของการรบกวนเวลาหรือการสูญเสียเวลาไปโดยไม่จำเป็น
๓. ปรับปรุงข้อบกพร่องหรือสาเหตุที่ทำให้เสียเวลา
๑. จดบันทึกการใช้เวลาประจำวันไว้อย่างสม่ำเสมอ
การบริหารความขัดแย้ง
ประเภทของความขัดแย้ง
๑. ความขัดแย้งตามแนวตั้ง (Vertical Conflict) เป็นความขัดแย้งที่เกี่ยวข้องกับสายงานบังคับบัญชา
๒. ความขัดแย้งตามแนวนอน (Horizontal Conflict)เป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับผู้บริหาร หรือผู้ปฏิบัติงานที่อยู่ในระดับเดียวกันต่างมีอำนาจตามตำแหน่งของตนเอง
๓. ความขัดแย้งตามแนวทแยงมุม (Diagonal Conflict) เป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับผู้บริหารหรือผู้ปฏิบัติงานในระดับใดระดับหนึ่งกับ ต่างระดับต่างสายงานบังคับบัญชา
๑. ความขัดแย้งภายในตัวบุคคล
๒. ความขัดแย้งระหว่างองค์กรสุขภาพ
๓. ความขัดแย้งภายในองค์กรสุขภาพอาจเป็นความขัดแย้งระหว่างบุคคลหรือระหว่างกลุ่ม
สาเหตุของความขัดแย้ง
๓. เป้าหมายการทำงาน
๔. อำนาจ
๒. บทบาทไม่ชัดเจน
๕. การเปลี่ยนแปลง
สาเหตุของความขัดแย้ง
การบริหารความขัดแย้ง
๑. การชนะ–แพ้ (Domination)
๒. การประนีประนอม (Compromise)
๓. การประสานประโยชน์ (Integrated Solution)
ความขัดแย้งในงานการพยาบาล
๑. การมีพฤติกรรมที่ต่อต้านหรือฝ่าฝืน
๒. กลุ่มที่ยอมปฏิบัติตาม
๓. กลุ่มที่หลีกเลี่ยง
๑. กลุ่มที่ปฏิเสธการทำงาน
๒. ความเครียด
๓. อำนาจหน้าที่ของแพทย์
๔. ความเชื่อ ค่านิยมและเป้าหมาย
๕. สาเหตุอื่นๆ เช่นการเปลี่ยนแปลง
การเสริมสร้างพลังอำนาจ (Empowerment)
ความสำคัญของการเสริมสร้างพลังอำนาจ
๑. ความสำคัญต่อบุคคลในองค์กร
๑.๑ การเสริมสร้างพลังอำนาจบุคคลระดับผู้ปฏิบัติงาน
๑.๒ การเสริมสร้างพลังอำนาจระดับผู้บริหาร
๒. ความสำคัญต่อทีมงาน
๓. ความสำคัญต่อระดับองค์กร
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้บริหารการพยาบาล
๑. ระบบโครงสร้างองค์กร
๒. วัฒนธรรมองค์กร
๓. ผู้บริหารองค์กร
๔. บุคลากร
๕. ความไว้วางใจในองค์กร
๖. ลักษณะงาน
1 more item...
จัดทำโดย นางสาวนฤมล ดีสมจิตร ชั้นปีที่3 เลขที่43