Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเปรียบเทียบรายงานกรณีศึกษาผู้ป่วยเฉพาะราย (Case study) โรคstoke,…
การเปรียบเทียบรายงานกรณีศึกษาผู้ป่วยเฉพาะราย (Case study)
โรคstoke
Stoke
อาการเตือนโรคหลอดเลือดสมอง
ชาหรืออ่อนแรงใบหน้าซีกใดซีกหนึ่งอย่างฉับพลัน ทำให้มุมปากตก ปากเบี้ยว อมน้ำไม่อยู่ น้ำไหลออกจากมุมปาก
ชาหรืออ่อนแรงที่แขนขาซีกใดซีกหนึ่งอย่างฉับพลัน สูญเสียการทรงตัว
มีอาการปวดศีรษะรุนแรงฉับพลัน
พูดไม่ชัด พูดไม่ออก สับสน นึกคำพูดไม่ออก
การมองเห็นมีปัญหาฉับพลัน อาจมองเห็นภาพซ้อน มองเห็นภาพครึ่งเดียว ตาบอดหนึ่งหรือสองข้าง
การตรวจวินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมอง
สามารถตรวจได้โดยการตรวจสมองด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) หรือการตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI Scan) การตรวจ CT Scan จะช่วยวินิจฉัยแยกโรคสมองขาดเลือดกับโรคเลือดออกในสมองได้ โดยที่ใช้เวลาในการทำน้อยกว่า MRI Scan ทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่รวดเร็ว ส่วนการตรวจ MRI Scan จะมีความไวในการตรวจสมองขาดเลือดในระยะแรกๆ มากกว่าการทำ CT Scan และสามารถช่วยวินิจฉัยแยกโรคสมองขาดเลือดกับโรคเลือดออกในสมองได้
สาเหตุ
ร่างกายไม่สามารถลำเลียงเลือดไปเลี้ยงสมองได้ เนื่องจากเกิดการอุดตันของเส้นเลือด ส่งผลให้ออกซิเจนและสารอาหารอื่นไม่สามารถขึ้นไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ หลังจากนั้นเซลล์สมองก็จะตายในเวลาเพียงสั้นๆ ส่งผลให้สมองสูญเสียการทำหน้าที่จนเกิดอาการของอัมพฤกษ์ อัมพาต โดยจะมีอาการชาหรืออ่อนแรงที่ใบหน้า แขน ขาซีกใดซีกหนึ่ง พูดไม่ชัด พูดไม่ออก สับสนการมองเห็นมีปัญหาฉับพลัน มีอาการปวดศีรษะรุนแรงฉับพลัน
โรคหลอดเลือดสมองสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท
Hemorrhagic Stroke เป็น “ภาวะหลอดเลือดสมองแตก” หรือ “ภาวะเลือดออกในสมอง” ส่งผลให้เซลล์สมองได้รับบาดเจ็บจากการมีเลือดคั่งในเนื้อสมอง ทำให้เนื้อสมองตายมักพบในผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ทำให้หลอดเลือดมีความเปราะเเละโป่งพอง และสาเหตุอื่นๆ ที่พบได้ เช่น ภาวะโป่งพองของหลอดเลือดสมอง ผู้ที่มีการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ เช่น โรคเลือด โรคตับ การรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด การได้รับสารพิษ การใช้สารเสพติด
Transient ischemic attack (TIA) เป็น “ภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราว” มีอาการคล้ายโรคสมองขาดเลือด แต่มีอาการชั่วคราวมักเป็นไม่เกิน 24 ชั่วโมง ประมาณ 15% ของผู้ป่วยที่มีอาการสมองขาดเลือดชั่วคราว จะมีภาวะโรคหลอดเลือดสมองตามมาจึงถือเป็นภาวะเร่งด่วนที่ต้องรีบมาโรงพยาบาล เพราะมีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต
Ischemic Stroke เป็น “ภาวะหลอดเลือดสมองตีบตัน” หรือ “ภาวะสมองขาดเลือด”มีสาเหตุมาจากการเสื่อมสภาพของหลอดเลือดจากการสะสมของคราบไขมัน หินปูน ที่ผนังหลอดเลือดชั้นในจนหนานูน แข็ง ขาดความยืดหยุ่น ทำให้รูของหลอดเลือดค่อยๆ ตีบแคบลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพของการลำเลียงเลือดลดลง หรืออาจเกิดจากลิ่มเลือดจากหัวใจ หรือการปริแตกของผนังหลอดเลือดหลุดมาอุดตันหลอดเลือดในสมอง
การรักษาโรคหลอดเลือดสมอง
โรคสมองขาดเลือด
การให้ยาต้านเกล็ดเลือด
การนอนพักฟื้นในหอผู้ป่วยโรคสมองขาดเลือด (stroke unit)
การให้ยาสลายลิ่มเลือด (Tissue plasminogen activator, t-PA) ทางหลอดเลือดดำภายในเวลา 4.5 ชั่วโมง นับจากเริ่มมีอาการ ช่วยเพิ่มโอกาสฟื้นตัวจากความพิการได้ 1.5-2.5 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับยาโดยที่ผู้ป่วยมีความเสี่ยงที่จะเกิดเลือดออกในสมองได้ 6% หลังได้รับยา
การผ่าตัดเปิดกระโหลก พิจารณาทำในผู้ป่วยที่มีสมองขาดเลือดเป็นบริเวณกว้างเพื่อลดความดันในสมองลง ซึ่งสามารถลดอัตราการตายของผู้ป่วยได้
โรคเลือดออกในสมอง
การนอนพักฟื้นในหอผู้ป่วยโรคสมองขาดเลือด (stroke unit) เพื่อควบคุมความดันโลหิต ในช่วง 1 อาทิตย์แรกหลังมีอาการ
การผ่าตัด พิจารณาทำในผู้ป่วยที่มีเลือดออกปริมาณมากหรือมีความดันในสมองสูง
การป้องกัน
ควบคุมอาหารให้สมดุล หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม หวาน มัน
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม
ในกรณีที่พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้หลอดเลือดตีบ อุดตัน หรือแตก ต้องรักษาและรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอตามแผนการรักษาของแพทย์ ห้ามหยุดยาเอง และควรรีบพบแพทย์ทันทีถ้ามีอาการผิดปกติ
งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ในกรณีที่พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้หลอดเลือดตีบ อุดตัน หรือแตก ต้องรักษาและรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอตามแผนการรักษาของแพทย์ ห้ามหยุดยาเอง และควรรีบพบแพทย์ทันทีถ้ามีอาการผิดปกติ
ถ้ามีอาการเตือนที่แสดงว่าเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอชั่วคราว ควรรีบมาพบแพทย์ถึงแม้ว่าอาการเหล่านั้นจะหายได้เองเป็นปกติ
ตรวจเช็กสุขภาพประจำปีเพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยง ถ้าพบต้องรีบรักษาและพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
กรณีศึกษา
ประวัติผู้ป่วย
ผู้ชายไทย อายุ 79 ปี
Admit วันที่ 10/03/63
แพทย์ Dx.acute hemiparesis Lt R/O stoke
U/D Diabetes Mellitus , Hypertension , Dyslipidemia
อาการสำคัญที่มาโรงพยาบาล
เดินเซ
แขนขาอ่อนแรง
เวียนศีรษะ
10ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล
อาการและอาการแสดง
เวียนศีรษะ แขนขาอ่อนแรง
Motor powerแขนขาซ้าย grade 4 แขนขาข้างขวา grade5
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
เสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้ม เนื่องจากมีอาการแขนขาอ่อนแรง
การพยาบาล
4.การจัดอุปกรณ์เครื่องใช้ของผู้ป่วย เช่น ที่นอน ผ้าปู เสื้อผ้า
ดูแลและจัดท่าของร่างกายของผู้ป่วยอย่างเหมาะสม
3.สอนผู้ป่วยให้ออกกำลังกายแบบ active และpassive exercise ร่วมกับทีมเวชศาสตร์ฟื้นฟู
6.กระตุ้นให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวเองบนเตียง หรือลุกเดินช่วยตัวเองบ่อยๆ
2.ดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยในการทำกิจวัตรประจำวัน
7.สอนญาติและผู้ป่วยได้ทำกิจกรรมบริหารตนเองและกิจวัตรประจำอย่างเป็นขั้นตอน และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามความสามารถ
ประเมินMotor power ของผู้ป่วย
ภาวะพร่องสุขวิทยาส่วนบุคคล เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้
การพยาบาล
2.แนะนำให้ผู้ป่วยและสอนญาติดูแลในด้านการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย
3.ดูแลการพักผ่อนและการนอนหลับของผู้ป่วย จัดสถานที่ให้เงียบสงบอากาศถ่ายเทสะดวก
1.ประเมินการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน
Discharge planning
การพยาบาล
2.ให้คำแนะนำก่อนกลับบ้านตามหลัก D-METHOD
Environment แนะนำให้จัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมอากาศถ่ายเทสะดวก
Treatment แนะนำให้ผู้ป่วยและญาติสังเกตอาการผิดปกติ
Health ส่งเสริมให้ผู้ป่วยปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง ไม่ควรออกกำลังกายที่หักโหมมากเกินไป
Medicine แนะนำการใช้ยาที่ได้รับไปรับประทานที่บ้านอย่างละเอียด ขนาด วิธีใช้ และข้อควรระวังของการใช้ยา
Out patient แนะนำให้ผู้ป่วยมาตามนัดของแพทย์และให้นำใบนัดมาด้วยทุกครั้ง
Diagnosis ให้ความรู้เรื่องโรคที่เป็นอยู่ถึงสาเหตุ อาการ กับผู้ป่วย
Diet แนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่ทำสุกใหม่ๆ และรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง
3.ประเมินความรู้ความเข้าในในการดูแลตนเองของผู้ป่วยและญาติหลังให้การพยาบาล
1.ประเมินความรู้ความเข้าใจในการดูแลตนเองของผู้ป่วยและญาติ
นางสาวเหมรัตน์ ฉิมมงคล รหัส61122230020