Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเตรียมและช่วยเหลือมารดาทารก ที่ได้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ -…
การเตรียมและช่วยเหลือมารดาทารก
ที่ได้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ
Electronic fetal monitoring
หัวตรวจ มี 2 แบบ
Ultrasonic transducer
เป็นส่วนที่วางอยู่บนหน้าท้องบริเวณหัวใจทารก
เพื่อประเมินการเต้นของหัวใจและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเมื่อมีการหดรัดตัวของมดลูก
ฟังอัตราการเต้นของหัวใจทารก
Tocodynamometer หรือ tocometer
เพื่อประเมินความรุนแรงของการหดรัดตัวของมดลูก
เป็นส่วนที่วางอยู่บนหน้าท้องมารดาบริเวณยอดมดลูก
เป็นเครื่องมือทาง Electronic ที่ได้นำมาใช้เพื่อตรวจดูสุขภาพทารกในครรภ์
การเต้นของหัวใจทารก Baseline features (ในช่วงที่มดลูกไม่หดรัดตัว)
Tachycardia > 160 ครั้ง/นาที
Bradycardia < 110 ครั้ง/นาที
Baseline fetal heart rate ปกติ 110 – 160 ครั้ง/นาที
Baseline 140 ครั้งต่อนาที
Variability
Minimal
: มีการเปลี่ยนแปลง 0 ถึง 5 beat / min
Absent
: ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง
Moderate
: มีการเปลี่ยนแปลง 6 ถึง 25 beat/min
อัตราการเต้นของหัวใจทารกที่มีการเปลี่ยนแปลง
Marked
: มีการเปลี่ยนแปลงมากกว่า 25 beat/min
variability ลดลงหรือหายไป
ทารกได้รับยากดประสาทเช่น Pethidine, Morphine, Phenobarb
ทารกหลับ คลอดก่อนกำหนด
แสดงถึง บางส่วนของสมองหยุดส่งกะแสไฟฟ้ากระตุ้นการทำงานของหัวใจทารก
ความพิการของหัวใจ หรือศรีษะ เช่น anencephaly
มีภาวะ brain hypoxia
Periodic change
acceleration
อายุครรภ์ > 32 สัปดาห์ มากกว่าหรือเท่ากับ 15 bpm นานกว่า 15 วินาที
อายุครรภ์ < 32 สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 10 bpm นานกว่า 10 วินาที
การเพิ่มขึ้นของ FHR
deceleration
Late deceleration
การลดลง ถือเป็นความผิดปกติ เชื่อว่าเกิดจากทารก hypoxia
การลดลงของ FHR ไม่สัมพันธ์กับการหดรัดตัวของมดลูก
Variable deceleration
การลดลงของ FHR โดยอาจจะสัมพันธ์กับการหดรัดตัวของมดลูกหรือไม่ก็ได้ ไม่นานเกิน 2 นาที
เกิดจากสายสะดือถูกกด พบใน prolapse cord หรือ น้ำคร่ำน้อย
Early deceleration
พบได้ตอนท้ายของการเจ็บครรภ์คลอด เชื่อว่าเป็น reflex เกิดจากการที่ศีรษะทารกถูกกด
การลดลงของ FHR สัมพันธ์กับการหดรัดตัวของมดลูก
Prolonged deceleration
แก้ไขโดยตรวจสอบหาการพลัดต่ำของสายสะดือ
การลดลงของ FHR นานอย่างน้อย 2 นาที แต่ไม่ถึง 10 นาที
:
หลักการดูแลทารกที่มีการเต้นของหัวใจผิดปกติ
เพิ่ม oxygen saturation
โดยการจัดท่ามารดา ให้ออกซิเจนแก่มารดา และสอนวิธีการหายใจที่ถูกต้องในระหว่างเจ็บครรภ์คลอด
เพิ่ม umbilical circulation
โดยการจัดท่ามารดา การตรวจภายใน ดันส่วนนำของทารกเพื่อลดการกดสายสะดือถ้าเกิดภาวะสายสะดือย้อย
ลด uterine activity
โดยปรับเปลี่ยนการให้ยาที่เหมาะสม จัดท่ามารดา ให้สารน้ำทางเส้นเลือด และสอนวิธีการการเบ่งคลอดที่ถูกต้อง
เพิ่ม uterine blood flow
โดยการจัดท่ามารดา ให้สารน้ำทางเส้นเลือด ช่วยลดความกังวลใจให้กับมารดา
Non-Stress Test (NST)
การแปลผล (NST)
Non-reactive
ผลที่ได้จากการทดสอบไม่ครบตามข้อกำหนดของ reactive NST ในระยะเวลาของการทดสอบนาน 40 นาที
Suspicious
มีการเพิ่มของอัตราการเต้นของหัวใจน้อยกว่า 2 ครั้งหรืออัตราการเพิ่มขึ้นน้อยกว่า 15 ครั้ง/นาที และอยู่สั้นกว่า 15 วินาที เมื่อมีทารกดิ้น แต่กราฟที่ได้ต้องมี long term variability ที่ดี
Reactive
มี long term variability ที่ปกติ (6-25 bpm.)
มี baseline FHS ระหว่าง 120-160 ครั้ง/นาที
ไม่มี deceleration ของการเต้นของหัวใจทารก
มี acceleration
Uninterpretable
คุณภาพของการทดสอบไม่สามารถแปลผลได้ตามข้อกำหนด ควรทำการทดสอบซ้ำภายใน 24-48 ชั่วโมง
การพยาบาลหลังการตรวจ
ผล reactive ควรนัดหญิงตั้งครรภ์มาตรวจซ้ำอีกสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แต่ถ้าผลเป็น non- reactive ก็ควรทำซ้ำ
ถ้าผลการตรวจเป็น suspicious ควรตรวจซ้ำภายใน 24 ชั่วโมงหลังตรวจหรือแนะนำการตรวจ(contraction stress test : CST ) ติดตามสภาพทารกในครรภ์
รายงานผลการตรวจให้แพทย์และผู้รับบริการทราบในกรณีที่ไม่แน่ใจผลการตรวจควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง
ข้อบ่งชี้
มารดามีประวัติความดันโลหิตสูง
มารดาเป็นโรคโลหิตจางหรือมีฮีโมโกลบินผิดปกติ
มารดาเป็นเบาหวาน
มารดามีอายุมากกว่า 35 ปี
ทารกเติบโตช้าในครรภ์ (intra uterine growth retardation)
ทารกในครรภ์ดิ้นน้อยลง
ตั้งครรภ์เกินกำหนด( post term)
แนวทางการดูแลรักษาทารกมีปัญหาการเต้นหัวใจที่ผิดปกติในระหว่างเจ็บครรภ์
ให้ออกซิเจนแก่มารดาผ่านทางหน้ากากในอัตรา 8-10 ลิตร/นาที
ทำการประเมินการเต้นของหัวใจทารกตลอดเวลา
แก้ไขเมื่อมีภาวะ uterine hyperstimulation หยุดการให้ยา oxytocin
ลักษณะผิดปกติอย่างต่อเนื่องอยู่ควรทำการคลอดทารกภายใน 30 นาที
จัดท่ามารดา โดยทั่วไปนิยมให้มารดานอนในท่าตะแคงซ้าย
Contraction Stress test : CST
Uteroplacental insufficiency
ทารกอยู่ในภาวะไม่ปลอดภัย FHR pattern เกิด late deceleration ขึ้น
เพื่อคัดกรองหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงสูงว่ามีเลือดไปเลี้ยงมดลูกและรกพอหรือไม่ ก่อนจะเจ็บครรภ์คลอด และถ้าให้ตั้งครรภ์ต่อไปทารกจะทนต่อการหดตัวของมดลูก เมื่อเจ็บครรภ์คลอดได้หรือไม่
การแปลผล
Suspicious
: มี late deceleration แต่ไม่เกิดขึ้นทุกครั้งของการหดรัดตัวของมดลูก หรือมีการลดลงของ FHS ในช่วงท้ายของการหดรัดตัวของมดลูกร่วมกับมดลูกหดรัดตัวถี่มากเกินไป
Positive
: พบ late deceleration ทุกครั้งในระยะช่วงท้ายของการหดรัดตัวของมดลูก
Unsatisfactory
: เส้นกราฟไม่มีคุณภาพเพียงพอ หรือ UC ไม่ดีพอ
Negative
: มี UC 3 ครั้งใน10 นาที โดยไม่มี late deceleration
การทดสอบดูการเปลี่ยนแปลงของอัตราการเต้นของหัวใจทารก ในครรภ์ขณะที่มดลูกหดรัดตัว
การติดตามผล CST
Positive
: ทารกอยู่ในสภาพพร่องออกซิเจน ช่วยเหลือโดย Intrauterine resuscitation และหยุด Oxytocin ทันที หลังจากนั้น 15-30 นาทีให้ทำ CST ซ้ำ ถ้าผล Positive อีกครั้งควรสิ้นสุดการตั้งครรภ์
Negative
: ทารกอยู่ในสภาพปกติ แนะนำนับลูกดิ้นและตรวจซ้ำใน 1 สัปดาห์