Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเตรียมและช่วยเหลือมารดาทารกที่ได้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ,…
การเตรียมและช่วยเหลือมารดาทารกที่ได้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ
Biochemical Assessment
Amniocentesis
การตรวจวินิจฉัยก่อนคลอดโดยเจาะน้ำคร่ำ เพื่อตรวจโครโมโซมทารกในครรภ์ที่ผิดปกติ เช่น ตั้งครรภ์อายุตั้งแต่35 ปี โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย
วิธีการเจาะ
ทำโดยวิธีการปราศจากเชื้อ เจาะโดยใช้เข็มขนาดเล็กเจาะผ่านหน้าท้องและผนังมดลูกเข้าสู่ถุงน้ำคร่ำ มาส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ทำเมื่ออายุครรภ์ 16-18 สัปดาห์
ภาวะแทรกซ้อน
การติดเชื้อในถุงน้ำคร่ำ
ปวดเกร็งเล็กน้อยบริเวณท้องน้อย
กลุ่มเลือด Rh negative
ฉีด Anti-D immunoglobulin หลังการตรวจ
คำแนะนำหลังการเจาะ
ควรสังเกตอาการปวดเกร็งหน้าท้องมาก,ไข้ภายใน 2 สัปดาห์ และมีน้ำหรือเลือดออกทางช่องคลอด
ควรงดการออกแรงมาก
และงดการร่วมเพศ อีก 4-5 วัน
ไม่ควรเดินทางไกลภายใน 7วันหลังการเจาะน้ำคร่ำ
บทบาทของพยาบาล
ภายหลังเจาะให้นอนหงาย
ฟังเสียงหัวใจทารกทุก 15 นาที จนครบ 1ชั่วโมง
จัดเตรียมอุปกรณ์ให้สะอาดปราศจากเชื้อ
วัด Vital signs 2 ครั้ง ห่างกัน 15 นาที
ดูแลจัดท่า วัดความดันโลหิต และฟังเสียงหัวใจของทารก
ดูแลให้ปัสสาวะเพื่อให้กระเพาะปัสสาวะว่าง
Amniotic fluid analysis
Lecithin Sphingomyelin Ratio
การตรวจหาค่า L/S ratio เพื่อดู lung maturity
สัดส่วนของ L/S จะเท่าๆกัน จนกระทั่ง 30 สัปดาห์ หลังจากนั้นsphingomyelin จะเริ่มคงที่ ขณะที่ lecithin จะเพิ่มขึ้น
ค่าปกติของ L/S rotio
26 สัปดาห์ แรกของการตั้งครรภ์ ค่า S > L
อายุครรภ์ 26-34 สัปดาห์ ค่า L / S ratio = 1:1
อายุครรภ์ 34-36 สัปดาห์ ค่า L จะเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ S จะมีปริมาณลดลงเล็กน้อย ทำให้ ratio สูงขึ้นเปลี่ยนเป็น 2:1
L / S ratio > 2 แสดงว่าปอดทารกสมบูรณ์เต็มที่ โอกาสเกิดRDS ต่ำ
shake test
เป็นการทดสอบความสมบูรณ์ของปอดทารกในครรภ์
วิธีการทำ
ตามลำดับแล้วเติม normal saline Solution ในหลอดที่ 2 , 3 , 4 และ 5
ใช้หลอด 5 หลอด ใส่น้ำคร่ำจำนวน 1 cc , 0.75cc ,0.5 cc , 0.25 cc และ 0.2 cc
เติม Ethanol 95 %ทุกหลอดเขย่านาน 15 วินาที ทิ้งไว้นาน 15 นาที
การแปลผล
ถ้าพบว่ามีฟองอากาศเกิดขึ้น 3 หลอดแรกแสดงว่าได้ผลบวก ปอดของทารกเจริญเต็มที่
ถ้าพบฟองอากาศ 2 หลอด แรกได้ผล intermediate ปอดทารกยังไม่เจริญเต็มที่
ถ้าพบฟองอากาศเพียงหลอดเดียวหรือไม่พบเลยแสดงว่าได้ผลลบ ปอดทารกยังเจริญไม่เต็มที่
*ถ้าได้ลบ ควรตรวจหาค่า L/S ratio ต่อไป
3.Alpha fetoprotein (AFP)
เป็นการตรวจเลือดมารดา ดูค่าโปรตีนที่สร้างมาจากรก
ค่าปกติ AFP 2.0 – 2.5 MOM
ค่า AFP ต่ำ สัมพันธ์กับ Down’ syndrome
ค่า AFP สูงขึ้นหลังจากสัปดาห์ที่ 15 ของการตั้งครรภ์ แสดงว่าทารกมีความผิดปกติของopen neural tube
Turner Syndrome
มีโครโมโซม X เพียงตัวเดียว
ลักษณะเฉพาะ
มีรูปร่างเตี้ย คอมีพังผืด ปลายแขนขากางออก
ทั้งยังส่งผลให้ผู้ป่วยมีรังไข่ที่ไม่เจริญ ไม่มีประจำเดือน
และอาจเกิดภาวะบุตรยาก
anencephaly(ภาวะกะโหลกศีรษะไม่ปิด)
Spinabifida
ความบกพร่องของกระดูกไขสันหลัง (spina bifida) ซึ่งมี
ถุงยื่นผ่านจากกระดูกไขสันหลังออกมาตามตำแหน่งที่
Myelomeningocele
ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของตัวอ่อนทำให้ไม่สามารถเชื่อมตัวที่บริเวณหลังส่วนเอวฉะนั้นไขสันหลังจึงเกิดได้ไม่สมบูรณ์และเป็นแผ่นแบนอยู่ที่ผิวของร่างกายล้อมรอบด้วยผิวหนัง
Fetoscopy
การส่องกล้องดูทารกในครรภ์หรือเรียกว่า laparo amnioscope สอดเข้าไปในถุงน้ำคร่ำโดยผ่านผนังหน้าท้องของหญิงตั้งครรภ์เพื่อดูความผิดปกติของทารก
ขั้นตอนการทำ
งดน้ำงดอาหารก่อนทำ 6-8 ชั่วโมง
ตรวจสอบ FHS ก่อนและหลังทำ
ใช้ ultrasound เป็นตัวช่วยในการทำ
ต้องตรวจสอบปริมาณน้ำคร่ำหลังทำ
หลังทำงดการทำงานหนัก1-2 weeks
ภาวะแทรกซ้อน
แท้งบุตร
ติดเชื้อน้ำคร่ำรั่วอย่างรุนแรงเลือดแม่
กับเลือดลูกปนกัน
เลือดออกทางช่องคลอด
Biophysical Assessment
Ultrasound
การใช้คลื่นเสียงที่มีความถี่สูงผ่านผิวหนังเข้าไปเนื้อเยื่อที่ต้องการตรวจ ดูขนาดขอบเขต รูปร่าง การเคลื่อนไหวของอวัยวะ
แนวทางการตรวจ
ดูจำนวนและการมีชีวิตของทารก
ดูลักษณะและตำแหน่งของรก
ปริมาณน้ำคร่ำ
ตรวจ 4- chamber view ของหัวใจทารก
ประเมินอายุครรภ์และการเจริญเติบโตของทารก
ตรวจลักษณะทางกายวิภาคของทารก
ข้อบ่งชี้
ด้านทารก
เพื่อตรวจดูจำนวนของทารกในครรภ์
เพื่อวินิจฉัยภาวะทารกตายในครรภ์
ตรวจดูความผิดปกติของทารกในครรภ์
ดูการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ หรือคาด
คะเนอายุครรภ์
ด้านมารดา
ใช้วินิจฉัยการตั้งครรภ์ที่มีความผิดปกติ
ตรวจดูตำแหน่งที่รกเกาะ
ใช้วินิจฉัยการตั้งครรภ์ในระยะเริ่มแรก
ตรวจดูภาวะแฝดน้ำ / น้ำคร่ำน้อย
การแปลผล
Biparietal diameter : BPD
เส้นผ่าศูนย์กลางของส่วนที่ยาวที่สุดของศีรษะ
ของทารก
Crown-rump lerght : CRL
อายุครรภ์ 7-14 week คือ ความยาวตั้งแต่
ศีรษะถึงส่วนล่างสุดของกระดูกไขสันหลัง
Femur length : FL
วัดจากส่วนหัวกระดูก-ปลายแหลมของปลาย
กระดูก ควรก่อนอายุครรภ์ 24 สัปดาห์
Gestational Sac : GS
อายุครรภ์ 5 -7 week ถุงที่หุ้มทารกไว้ซึ่งจะเห็น
ได้ในระยะแรกของการตั้งครรภ์
Abdominal circumference : Ac
วัดยาก ไม่ค่อยนิยม
Head cicumference : Hc
Fetal Biophysical profile
การประเมินสุขภาพทารกในครรภ์ โดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงตรวจวัดการเคลื่อนไหวของอวัยวะต่างๆของทารกที่ถูกกระตุ้นและควบคุมด้วยระบบประสาทส่วนกลาง
วิธีการตรวจ
เมื่อพบว่าปกติให้ 2 คะแนน และให้ 0 คะแนนเมื่อพบว่าผิดปกติ
กำหนดค่าคะแนนของแต่ละข้อมูล ข้อละ 2คะแนน
ใช้ Ultrasound ตรวจวัดข้อมูล 5 ตัวแปร
นอนท่าSemi-fowler
การแปลผล
4 คะแนน แสดงว่า มีภาวะขาดออกซิเจนเรื้อรัง
0-2 คะแนน แสดงว่า มีภาวะขาดออกซิเจนเรื้อรังอย่างรุนแรง
6 คะแนน แสดงว่า มีภาวะเสี่ยงต่อการขาดภาวะออกซิเจนเรื้อรังของทารก
8-10 คะแนน แสดงว่า ปกติ
วิธีนับลูกดิ้น
Count to ten
การนับการดิ้นของทารกในครรภ์ให้ครบ
10 ครั้ง ในช่วงเวลา 2 ชั่วโมงต่อกัน
ให้คำแนะนำ
การนับลูกดิ้น 3 เวลาหลังมื้ออาหาร ครั้งละ 1ชั่วโมง
ถ้าน้อยกว่า 3 ครั้งต่อชั่วโมง แปลผลว่าผิดปกติ
ถ้านับต่ออีก 6-12 ชั่วโมงต่อวันน้อยกว่า 10 ครั้ง ถือว่าผิดปกติ
Electronic fetal monitoring
เครื่องมือ
ultrasonic transducer
สำหรับฟังอัตราการเต้นของหัวใจทารกจะเป็นส่วนที่วางอยู่บนหน้าท้องบริเวณหัวใจทารก เพื่อประเมินการเต้นของหัวใจและกาเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเมื่อมีการหดรัดตัวของมดลูก
Tocodynamometer
วางอยู่บนหน้าท้องมารดาบริเวณยอดมดลูกเพื่อ
ประเมินความรุนแรงของการหดรัดตัวของมดลูก
การเต้นของหัวใจทารกและคำต่างๆที่เป็นสากล
Tachycardia > 160 ครั้ง/นาที
Baseline fetal heart rate ปกติ 110 – 160
ครั้ง/นาที
Bradycardia < 110 ครั้ง/นาที
Variability
Absent : ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง
Minimal : มีการเปลี่ยนแปลง 0 ถึง 5 beat /min
Moderate : มีการเปลี่ยนแปลง 6 ถึง 25 beat/min
Marked : มีการเปลี่ยนแปลงมากกว่า 25beat/min
Periodic change
acceleration
อายุครรภ์ > 32 สัปดาห์ มากกว่าหรือเท่ากับ15 bpm
อายุครรภ์ < 32 สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 10 bpm
deceleration
Early deceleration
การลดลงของ FHR สัมพันธ์กับการหดรัดตัวของ
มดลูก พบได้ตอนท้ายของการเจ็บครรภ์คลอดเชื่อว่าเป็น reflex เกิดจากการที่ศรีษะทารกถูกกด
Late deceleration
การลดลงของ FHR ไม่สัมพันธ์กับการหดรัดตัวของมดลูกการลดลง ถือเป็นความผิดปกติ เชื่อว่าเกิดจากทารก hypoxia
Variable deceleration
การลดลงของ FHR โดยอาจจะสัมพันธ์กับการหด
รัดตัวของมดลูกหรือไม่ก็ได้ ไม่นานเกิน 2 นาที
Prolonged deceleration
การลดลงของ FHR นานอย่างน้อย 2 นาที แต่ไม่
ถึง 10 นาที
Non-Stress Test (NST)
การแปลผล
Reactive
มี baseline FHS ระหว่าง 120-160 ครั้ง/นาที
มี long term variability ที่ปกติ (6-25 bpm.)
ไม่มี deceleration ของการเต้นของหัวใจทารก
Non-reactive
ผลที่ได้จากการทดสอบ
ไม่ครบตามข้อกำหนดของ reactive NST
Suspicious
มีการเพิ่มของอัตราการเต้นของหัวใจน้อยกว่า 2 ครั้งหรืออัตราการเพิ่มขึ้นน้อยกว่า 15 ครั้ง/นาที และอยู่สั้นกว่า 15 วินาที
Uninterpretable
คุณภาพของการทดสอบไม่สามารถแปลผลได้ตามข้อกำหนด
Contraction Stress test ; CST
การแปลผล
Negative : มี UC 3 ครั้งใน10 นาที โดยไม่มี late
deceleration
Positive : พบ late deceleration ทุกครั้งในระยะ
ช่วงท้ายของการหดรัดตัวของมดลูก
Suspicious : มี late deceleration แต่ไม่เกิดขึ้นทุกครั้งของการหดรัดตัวของมดลูก หรือมีการลดลงของFHS ในช่วงท้ายของการหดรัดตัวของมดลูกร่วมกับมดลูกหดรัดตัวถี่มากเกินไป
Unsatisfactory : เส้นกราฟไม่มีคุณภาพเพียงพอ
หรือ UC ไม่ดีพอ
Negative : ทารกอยู่ในสภาพปกติ แนะนำนับลูก
ดิ้นและตรวจซ้ำใน 1 สัปดาห์
Positive : ทารกอยู่ในสภาพพร่องออกซิเจน
ช่วยเหลือโดย Intrauterine resuscitation
นางสาวธมลวรรณ สุขนิตย์ 602601051 เลขที่50