Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรณีศึกษาที่ 2 ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ - Coggle Diagram
กรณีศึกษาที่ 2
ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
สาเหตุของการเกิดโรค
กรณีศึกษา
จากกรณีศึกษาเกิดจากการกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน
ทฤษฎี
ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ เชื้อที่พบบ่อย คือ Escherichain coli (E.coli) อาจเกิดจากกาอุดกั้นของท่อทางเดินปัสสาวะหรือมีปัจจัยส่งเสริมต่อการติดเชื้อ เช่น ลักษณะท่อทางเดินปัสสาวะของเพศหญิงที่สั้นและอยู่ใกล้กับทวารหนัก จึงมีโอกาสสัมผัสกับเชื้อโรคได้ง่ายกว่า การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของททางเดินปัสสาวะในขณะตั้งครรภ์จากผลของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ได้แก่ กระเพาะปัสสาวะยืดขยาย ทำให้มีปัสสาวะคั่ง เกิดการติดเชื้อและมีการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะและอาจลุกลามไปที่ไตหรือกรวยไต
อาการและอาการแสดง
กรณีศึกษา
กลั้นปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแสบขัด ปวดท้องน้อย ปวดหน่วงท้องน้อย ปัสสาวะกระปริบกระปรอย ปัสสาวะแสบขัดตอนถ่ายสุด
ทฤษฎี
ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแสบขัด (dysuria) โดยเฉพาะตอนใกล้จะสุด กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปวดหลังหรือปวดหัวหน่าว มีไข้ต่ำๆ ปัสสาวะสีขุ่นอาจมีเลือดปน ปัสสาวะออกช้า (hesitancy) ปัสสาวะไม่พุ่ง (poor stream)
การตรวจวินิจฉัยและการแปลผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
กรณีศึกษา
การตรวจร่างกาย
ไม่ได้ระบุการตรวจร่างกาย
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
Urine Analysis
WBC 10-20 cells/HPF
Squamous epithelial cell 1-2 cells/HPF
Bacteria numerous
การซักประวัติ
หญิงตั้งครรภ์ให้ประวัติว่า 2 วัน ก่อนมา มีอาการปวดหน่วงท้องน้อย ปัสสาวะกระปริบกระปรอย ปัสสาวะแสบขัดตอนถ่ายสุด ปัสสาวะไม่มีเลือดปน ไม่มีไข้
ทฤษฎี
การตรวจร่างกาย
จะพบอุณหภูมิร่างกายมากกว่า 37.5 องศา มีอาการปวดท้องน้อย ปวดเหนือหัวหน่าว ปวดหลัง
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การเก็บปัสสาวะส่งตรวจหรือส่งเพาะเชื้อ จะพบว่ามีค่าถ่วงจำเพาะสูง พบเซลล์เม็ดเลือดขาว (WBC) มากกว่า 105 cell/ml3 ย้อมติดสีแกรมลบ พบเชื้อ E.coli มากกว่า 105 colonies/ml
การซักประวัติ
อาการและอาการแสดงของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
การรักษา
กรณีศึกษา
ไม่ได้ระบุแผนการรักษา
ทฤษฎี
1.ให้ยาปฏิชีวนะ ได้แก่ ยา ampicillin 500 mg วันละ 3-4 ครั้ง นาน 7-10 วัน แต่รายที่มีอาการรุนแรงควรให้ ampicillin 1 mg ฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ ทุก 4-6 ชั่วโมง นาน 3 วัน และติดตามผลการตรวจเพาะเชื้อเป็นระยะ
2.รายที่มีการติดเชื้อรุนแรง ควรรักษาภาวะขาดน้ำและภาวะไม่สมดุลของสารน้ำและอิเลคโทรไลต์ โดยให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ผลของการตั้งครรภ์ต่อโรคผลของโรคต่อการตั้งครรภ์และทารกในครรภ์
การแท้ง ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า การคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักทารกแรกเกิดน้อยหรือพิการแต่กำเนิด
วางแผนการพยาบาลมารดาและทารกที่มีปัญหาสุขภาพ
ระยะตั้งครรภ์
5.ให้หญิงตั้งครรภ์สังเกตและนับลูกดิ้นของทารกในครรภ์ทุกวัน
6.เน้นให้หญิงตั้งครรภ์เห็นความสำคัญของการมาตรวจครรภ์ตามแพทย์นัดอย่างสม่ำเสมอ
4.รักษาความสะอาดของร่างกาย โดยการอาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกทุกครั้งภายหลังการขับถ่าย สวมใส่เสื้อผ้าที่แห้ง สะอาดโดยเฉพาะกางเกงชั้นใน
3.ไม่ควรกลั้นปัสสวาะและสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะลำบาก มีไข้ ปวดเหนือหัวหน่าวหรือหลัง เป็นต้น ถ้ามีอาการควรรีบพบแพทย์
2.รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่อย่างเพียงพอ เพิ่มอาหารประเภทโปรตีน วิตามินและเกลือแร่ โดยเฉพาะวิตามันซีและธาตุเหล็ก ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ไม่น้อยกว่า 8-10 แก้วต่อวัน
7.รายที่มีอาการติดเชื้อรุนแรงต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลควรดูแล ดังนี้
7.1 ดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษา
7.2 จัดให้นอนท่าตะแคง เพื่อลดการกดทับที่ท่อไตจากมดลูกและเลือดไหลวียนไปเลี้ยงทารกและรกได้ดีขึ้น
7.3 ประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง ถ้ามีไข้มากกว่า 38.5 องศาเซลซียส ให้เช็ดตัว และให้ยาลดไข้ตามแผนการรักษา
7.4 ประเมินอัตราการเต้นของหัวใจทารกอย่างใกล้ชิด ถ้าพบอัตราการเต้นของหัวใจทารกเต้นเร็วผิดปกติ ควรรายงานแพทย์
7.5 ดูแลให้หญิงตั้งครรภ์พักผ่อนอย่างเพียงพอ
1.รับประทานยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
ระยะคลอด
ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
แนะนำให้ผู้ป่วยงดน้ำงดอาหาร เพื่อเตรียมการผ่าตัด
ให้ยาฆ่าเชื้อตามแผนการรักษา
ระยะหลังคลอด
รักษาความสะอาดของร่างกาย โดยการอาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกทุกครั้งภายหลังการขับถ่าย สวมใส่เสื้อผ้าที่แห้ง สะอาดโดยเฉพาะกางเกงชั้นใน
ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ให้ยาฆ่าเชื้อตามแผนการรักษา
ดูแลให้หญิงตั้งครรภ์พักผ่อนอย่างเพียงพอ
แนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ
อ้างอิง
อกสารประกอบการสอน วิชาการพยาบาลมารดาทารกและการผดุงครรภ์ 2 เล่ม 1
กนกพร นทีธนสมบัติ. การติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะในสตรีตั้งครรภ์. วารสาร มฉก.วิชาการ. 16 (32).
http://journal.hcu.ac.th/pdffile/jn1632/2010.pdf