Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 4การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค - Coggle Diagram
บทที่ 4การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค
แบบแผนการให้ภูมิคุ้มกันโรค
การสร้างภูมิคุ้มกันโรค
หมายถึง การทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคมี 2 วิธี
ทางตรง
เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นเองโดยการให้แอนติเจน หรือ
การให้วัคซีนเข้าไปในร่างกาย เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโรค
ทางอ้อม
เป็นสารที่มีภูมิคุ้มกันโรคอยู่แล้วมีผลป้องกันได้ทันทีที่เข้าไปในร่างกายจะอยู่ในระยะสั้นๆ
ทำไมต้องมีการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโดยการให้วัคซีน
ป้องกันการเกิดโรค เมื่อสัมผัสกับเชื้อโรคนั้นๆ
ถ้าเกิดเป็นโรคนั้น จะทาให้ความรุนแรงน้อยลง
เป็นการควบคุมโรคที่สามารถป้องกันได้โดยวัคซีน เช่น ไข้ทรพิษหมดจากโรค เมื่อปี พ.ศ. 2522
ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
วัคซีนแบ่งออกเป็น 3ประเภท
1 ท็อกซอยด์
นาพิษของแบคทีเรียมาทาให้หมดฤทธิ์แต่ยังกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้
คอตีบ บาดทะยัก
2วัคซีนเชื้อตาย
ใช้เชื้อโรคทั้งตัวที่ตายแล้ว ทาให้อ่อนฤทธิ์ลงจนไม่สามารถทาให้เกิดโรค แต่ยังกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้
โรคพิษสุนัขบ้า ตับอักเสบเอ ตับอักเสบบี ไข้หวัดใหญ่ ฮิบ ไข้สมองอักเสบJE ไอกรน IPV
3วัคซีนเชื้อเป็น
เป็นวัคซีนที่ทาจากเชื้อที่มีชีวิตอยู่ ถูกทาให้อ่อนฤทธิ์ลง แต่ยังสามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้
OPV หัดคางทูมหัด เยอรมัน วัณโรค อีสุกอีใส
วัณโรค
สาเหตุจาก : แบคทีเรีย
อาการและอาการแสดง
ไอเรื้อรังนานเกิน 3 สัปดาห์ ไอมีเสมหะและอาจมีเลือดปนเบื่ออาหาร น้าหนักลด มีไข้ต่ำ
การติดต่อ
การหายใจรับเชื้อ ละอองฝอยขนาดเล็ก ที่ผู้ป่วย ไอ จาม ห
วัคซีนป้องกันวัณโรค
วัคซีนบีซีจีแบคทีเรียเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์
ปฏิกิริยาหลังรับวัคซีน:เป็นฝีในชั้นใต้ผิวหนัง ต่อมน้าเหลือง
ข้อควรระวัง/ข้อห้ามฉีด BCG
1) ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมถึงผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
2) หญิงตั้งครรภ์
3) ผู้ที่เจ็บป่วยเฉียบพลัน
4) มีแผลติดเชื้อ หรือ แผลไฟไหม้บริเวณที่จะฉีด
การเก็บวัคซีน
ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิ +2ถึง+8 C
ไม่ควรให้ถูกแสง เพราะจะทาให้เสื่อม สภาพเร็ว
ผสมแล้วควรใช้ให้หมด ภายใน 2ชั่วโมง
โรคตับอักเสบบี
สาเหตุจาก : เชื้อไวรัส
อาการและอาการแสดง
1.แบบเฉียบพลัน อ่อนเพลีย มีไข้ เบื่ออาหาร อาเจียน ปวดใต้ ชายโครงขวา ปัสสาวะสีเข้ม ตาเหลือง ตัวเหลือง
2.แบบเรื้อรัง อาการไม่ชัดเจน มีภาวะตับอักเสบเฉียบพลัน เกิดภาวะตับแข็ง ตัวบวม ท้องบวม ตัวเหลือง ตาเหลือง เลือดออกง่าย
การติดต่อ
สัมผัสกับเลือด หรือสารคัดหลั่งของผู้ป่วย
มีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีเชื้อ
จากมารดาที่เป็นผู้ติดเชื้อ แพร่เชื้อให้ลูกระหว่างคลอด
วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
เป็นไวรัสเชื้อตาย
อายุที่ได้รับ
เด็กแรกเกิดทุกคน ให้ครั้งที่ 1 ภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด
2 กรณีที่มารดาเป็น ผู้ติดเชื้อไวรัสตับ อักเสบบีเรื้อรัง ทารกควรได้รับเร็วที่สุดภายใน 12 ชั่วโมงหลังคลอด
คอตีบ
สาเหตุจาก เชื้อแบคทีเรีย corynebacteriumdiphtheriae
อาการและอาการแสดง
ระยะแรก: มีอาการคล้ายหวัด มีไข้ต่าๆไอเสียงก้อง พบแผ่น เยื่อสีขาวบริเวณทอนซิลและลิ้นไก่ หายใจลาบาก
รายที่รุนแรง: เกิดการอุดตันของทางเดินหายใจส่วนบนกล้ามเนื้อหัวใจและ ปลายประสาทอักเสบ อาจเสียชีวิตได้
การติดต่อ
รับเชื้อจากละอองเสมหะ น้ามูก น้าลายของผู้ป่วยจากทางการหายใจ ไอ จามรดกัน ใช้ภาชนะ
4.ไอกรน
สาเหตุจาก: เชื้อแบคทีเรีย Bordetella pertussis
อาการและอาการแสดง
1-2 สัปดาห์แรกมีอาการคล้ายหวัด ต่อมามีไอกรน ไอมากจนเด็กหน้าเขียวหายใจไม่ทัน อาจเสียชีวิต
การติดต่อ
จากการไอ จามารดาโดยตรง
2.จากการรับเชื้อที่อยู่ในละอองเสมหะ น้ามูกน้าลายของผู้ป่วย
5.บาดทะยัก
สาเหตุจาก เชื้อแบคทีเรีย Clostridium tetani
อาการแสดง
1.ในทารกแรกเกิด เด็กดูดนม ลาบาก หน้าแบบยิ้มแสยะ ร้องคราง แขน ขาเกร็ง หลังแข็งและแอ่น ร้องเสียงดั
2.ในเด็กโตหรือผู้ใหญ่ ขากรรไกรแข็ง อ้าปากไม่ได้ คอแข็ง มีอาการหลัง แขน ขา เกร็ง
การติดต่อ
1.ทารกมักติดเชื้อทาง สายสะดือที่ตัดด้วย กรรไกรหรือที่ไม่สะอาด
2.บุคคลทั่วไป ได้รับเชื้อ บาดทะยักผ่านทาง บาดแผลที่ผิวหนัง
วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน
ท็อกซอยด์แบคทีเรียและ ไวรัสเชื้อตาย
อายุที่ได้รับ
เด็กทุกคน ครั้งที่ 1 อายุ 2 เดือน , ครั้งที่ 2 อายุ 4 เดือน ,ครั้งที่ 3อายุ 6เดือน
ข้อควรระวัง/ข้อห้าม
ไม่ให้ในเด็กอายุมากกว่า 7ปี และผู้ใหญ่
ไม่ควรฉีดในเด็กที่กาลัง ป่วยเฉียบพลัน หรือกาลัง มีไข้สูง
ไม่ควรฉีดในเด็กที่กาลัง ป่วยเฉียบพลัน หรือกาลัง มีไข้สูง
การเก็บวัคซีน
ควรเก็บไว้ที่ อุณหภูมิ +2 ถึง +8 C
เปิดใช้แล้ว ควรเก็บ ไว้ไม่เกิน 8ชั่วโมง
เยื่อหุ้มสมองอักเสบฮิบ
สาเหตุจาก แบคทีเรียHaemophilus InfluenzaeB เป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบชนิดรุนแรง
อาการ
มีอาการ เป็นไข้ หงุดหงิด งอแง ปวดศีรษะ ชัก คอแข็ง กระหม่อมโป่ง ในเด็กเล็กมีอันตรายถึงชีวิตได้
การติดต่อ
เข้าสู่ร่างกายได้จากการสูดดมละอองที่มาจากการไอและจาม
โปลิโอ
สาเหตุจาก
เชื้อไวรัสPoliovirus Type Poliovirus Type Poliovirus 1, 2, 3
อาการ
1.อาการไม่รุนแรง มีไข้ต่าๆเจ็บคอ อาเจียน ปวดท้อง เบื่ออาหาร และอ่อนเพลีย หายเองใน 3-4วัน
2.อาการรุนแรง ไข้ เจ็บคอ คอแข็ง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ
3.อาการรุนแรงมาก มีอัมพาตแขนขา ปวดกล้ามเนื้อ เกร็ง
การติดต่อ
1.จากการรับเชื้อที่ปนเปื้อนมากับอุจจาระของผู้ป่วยเข้าทางปาก
วัคซีนโปลิโอชนิด รับประทาน
ขนาดที่ใช้ รับประทาน ขนาดโด๊สละ 2-3หยด
อายุที่ได้รับ เด็กทุกคน
ครั้งที่ 1 อายุ 2เดือน
ครั้งที่ 2อายุ 4เดือน
ครั้งที่ 3อายุ 6เดือน
ครั้งที่ 4อายุ 18เดือน
ครั้งที่ 5อายุ 4ปี
การเก็บวัคซีน
ที่มีอุณหภูมิ +2 ถึง +8 C
เปิดใช้แล้ว ควรเก็บ ไว้ไม่เกิน 8 ชั่วโมง
8.โรคอุจจาระร่วง จากไวรัสโรต้า
สาเหตุจากเชื้อไวรัส Rotavirus
อาการ
ส่วนใหญ่พบในเด็กต่ากว่า 5 ปี ท้องเสีย ปวดท้อง ไข้ อาเจียน เกิดภาวะขาดน้า ถ่ายเหลวเป็นน้าอาจมีมูกปน
การติดต่อ
รับเชื้อที่ออกมากับอุจจาระถ่ายทอดไปบุคคลอื่นโดยเข้าทางปาก
วัคซีนโรต้า
ชนิดน้า ขนาด 1 โด๊ส/หลอด
ข้อควรระวัง
เด็กที่มีอาการอาเจียนหลังได้รับวัคซีน ไม่แนะนาให้วัคซีนซ้า
ห้ามให้วัคซีนในเด็กที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
การเก็บวัคซีน
ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิ +2 ถึง +8 C และ ป้องกันแสง ห้ามเก็บ ในช่องแช่แข็ง
หัด
สาเหตุจาก
เชื้อไวรัส Measles virus Measles
อาการ
มีไข้สูง น้ามูกไหล ไอ ตาแดง ตาแฉะ พบจุดขาวๆ เล็กๆที่เยื่อบุในช่องปาก หรือกระพุ้งแก้มใกล้ฟันกรามล่าง เรี
การติดต่อ
รับเชื้อที่อยู่ในละอองเสมหะ น้ามูกน้าลายของผู้ป่วยผ่านทางการหายใจ
10 . คางทูม
สาเหตุจาก
เชื้อไวรัส Mumps virus Mumps
อาการ
มีไข้ ปวดต่อมน้าลายหน้าหู ใต้ขากรรไกรบวมโต
การติดต่อ
1.หายใจเอาละอองฝอยที่มีเชื้อ
2.สัมผัสกับน้าลายของ ผู้ป่วย
11 . หัดเยอรมัน
สาเหตุจาก
เชื้อไวรัสvirusRubella virus Rubella
อาการ
มีไข้ต่าๆมีผื่นสีชมพูจางๆ กระจายห่างๆขึ้นตามใบหน้า
การติดต่อ
จากละอองเสมหะ น้ามูกน้าลายของผู้ป่วย ผ่านทางการหายใจ จากการไอ จาม
วัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม
ไวรัสเชื้อเป็น อ่อนฤทธิ์
ข้อควรระวัง/ข้อห้าม
1.ไม่ควรฉีดในหญิงมีครรภ์
2.ไม่ควรฉีดในผู้ป่วยที่ มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
3.ไม่ควรฉีดในผู้ที่มีประวัติ แพ้
การเก็บวัคซีน
ควรเก็บไว้ใน อุณหภูมิ +2 ถึง +8C
ผสมแล้วต้องใช้ ภายใน 6ชั่วโมง
12 .ไข้สมองอักเสบ เจอี
สาเหตุจาก
เชื้อไวรัส Japanese B encephalitis virus Japanese B
อาการ
มีไข้สูง ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน
ผู้ป่วยที่หาย ร้อยละ 60จะมีความพิการเหลืออยู่ เช่น อัมพาตแบบแข็งเกร็งของแขนขา
การติดต่อ
ยุงราคาญรับเชื้อจากหมูที่เป็นแหล่งรังโรค ถูกยุงราคาญที่ติดเชื้อกัด
วัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบ
ไวรัสเชื้อเป็น อ่อนฤทธิ์
ข้อควรระวัง
1.ห้ามฉีดวัคซีนในผู้ที่มีภูมิคุ้มกัน
2.หญิงตั้งครรภ์
3.สตรีอยู่ในระหว่างให้นมบุตร
การเก็บวัคซีน
ควรเก็บไว้ใน อุณหภูมิ +2 ถึง +8 C
ผสมแล้วต้องใช้ ภายใน 6ชั่วโมง
มะเร็งปากมดลูกจากเชื้อเอชพีวี
สาเหตุจาก
เชื้อไวรัส Human papillomavirus: HPV Human papillomavirus
อาการ
ในระยะแรก ไม่พบอาการผิดปกติ
หากไม่ได้รับการรักษาเซลล์ผิดปกติจะกลายเป็น มะเร็งปากมดลูกระยะลุกลาม
การติดต่อ
มีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อ HPV
จากแม่สู่ลูกขณะคลอด ทาให้เกิดโรคหูดในเด็กทารก
ข้อควรระวัง
1.ห้ามฉีดในผู้ที่เคยมีอาการ
2.หลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีนในหญิงตั้งครรภ์
การเก็บวัคซีน
ควรเก็บไว้ใน อุณหภูมิ +2 ถึง +8 C
เปิดแล้วต้องใช้ ภายใน 8ชั่วโมง
การเตรียมการและการให้บริการวัคซีน
1.หน่วยบริการนอกสถานที่
ควรตั้งอยู่ในที่ร่ม
มีป้ายบอกจุดบริการที่ชัดเจน
จัดเตรียมบริเวณทางเข้าและทางออกคนละทาง
ในจุดบริการควรมีโต๊ะวางอุปกรณ์ต่างๆ
ควรจัดเตรียมเตียงนอนสาหรับเด็กที่มีอาการผิดปกติหลังได้รับวัคซีน
อุปกรณ์ที่ใช้
เข็มสาหรับดูดวัคซีนเบอร์ 21 ขึ้นไป
กระบอกฉีดยา
สาลีแอลกอฮอล์และสาลีแห้ง
พลาสเตอร์
กล่องสาหรับเก็บขวดวัคซีนที่ใช้แล้
กล่องใส่เข็มที่ใช้แล้วเป็นถังพลาสติกหนา
กระติกวัคซีนและฉนวนกันความเย็น
การจัดท่าเด็ก
ทารก ขวบปีแรก 1-3ปี ให้ผู้ปกครองกอดไว้ในท่านั่งโดยจัดให้เด็กนั่งบนตักผู้ปกครอง และหลังพิงแขน แล้วแขนผู้ปกครองโอบด้านบนไว้ ส่วนขาของเด็ก ให้ผู้ปกครองใช้ขาทั้งสองข้างหนีบไว้ และนามืออีกข้างกดเข่าจะทาให้เด็ก
การจัดท่าเด็กโตและผู้ใหญ่เด็กโตจะฉีดที่ต้นแขน ให้นั่งเอาแขนแนบลาตัว จัดสถานที่ให้มิดชิด และให้เข้ามารับวัคซีน
การให้คาแนะนำในการปฏิบัติภายหลังการรับวัคซีน
มีตุ่มหนองรักษาบริเวณตุ่มหนองให้สะอาด โดยใช้สาลีชุบน้าต้มสุกที่เย็นแล้ว
อาการปวด บวมแดง หรือมีก้อนแข็งบริเวณที่ฉีดวัคซีน หากมีอาการปวดมาก ให้รับประทานยาแก้ปวดพาราเซตามอล
ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดวัคซีนในวันแรก หลัง 24ชั่วโมงไปแล้วให้ประคบอุ่น
การกำจัดอุปกรณ์ที่ใช้แล้ว
วัสดุทั่วไป
ซองสาหรับบรรจุกระบอกฉีดยา หรือซองเข็มฉีดยา ให้แยกทิ้งในถังขยะทั่วไป รวมกับขยะปกติทั่วไป
กระบอกฉีดยา และเข็มฉีดยา
ไม่ควรปลดหัวเข็มออกจาก กระบอกฉีดยา เมื่อใช้เสร็จแล้วให้ทิ้งลงในพลาสติกหนา ที่เข็มไม่สามารถแทงทะลุได้
ขวดวัคซีนที่ใช้หมด
วัคซีนหมดอายุ ก็ต้องจัดเป็นขยะติดเชื้อเช่นเดียวกัน