Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

3.3 กฏหมายแพ่งที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์,…

- - - - 2.กระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ กระทำโดยจงใจ
        
        กระทำโดยรู้สำนึกและในขณะเดียวกันก็รู้ว่าจะทำให้เกิดความเสียหาย
        
        เช่น เจตนาฆ่า หรือเจตนาทำร้ายร่างกาย
      - 3.ทำให้บุคคลอื่นเสียหาย คือ การกระทำนั้นก่อให้เกิดความเสียหายขึ้น อาจเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อร่างกายหรือทรัพย์สินก็ได้
      - 1.กระทำโดยบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย =>การประทุษกรรมต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย ด้วยการฝ่าฝืนต่อกฎหมายที่ห้ามไว้
    - - เกิดจากการกระทำละเมิดให้กับผู้เสียหายตามกฎหมายแพ่ง เรียกว่า ค่าสินไหมทดแทน
      - เพื่อชดใช้ให้กับผู้เสียหาย ให้สามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้
      - หลักเกณฑ์ในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
        
        กรณีผู้เสียหายถึงแก่ความตาย
        
        ป.พ.พ.มาตรา 443 ค่าสินไหมทดแทนที่จะต้องชดใช้ให้กับทายาท
        
        1.ค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการปลงศพ
        
        2.ค่าขาดไร้อุปการะเลี้ยงดู
        
        3.ค่าขาดแรงงาน
        
        4.ค่ารักษาพยาบาลและค่าขาดประโยชนฝืทำมาหาได้ก่อนตาย(ถ้ามี)
        
        กรณีผู้เสียชีวิตไม่ถึงแก่ความตาย เพียงแต่ได้รับอันตรายแก่กาย เช่น ได้รับบาดเจ็บหรือพิการ
        
        2.ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ในระหว่างเจ็บป่วย
        
        3ค่าสูญเสียความสามารถในการประกอบอาชีพทั้งในเวลาปัจจุบันและอนาคต.
        
        1.ค่ารักษาพยาบาลอันจำเป็นแก่อาการ
        
        4.ค่าเสียหายอื่นอันมิใช่ตัวเงิน เรียกว่า ค่าทำขวัญ ตามป.พ.พ.มาตรา446 คือค่าเสียหายเฉพาะตัวผู้เสียหายเท่านั้นและไม่ตกทอดไปยังทายาท
        
        กรณีสินทรัพย์เสียหาย
        
        ป.พ.พ มาตรา 438 วรรคสอง ค่าสินไหมทดแทน ได้แก่ การคืนสินทรัพย์ที่ผู้เสียหายสูญเสียไป
    - - นายจ้างกับลูกจ้าง
        
        ป.พ.พ.มาตรา425 กฎหมายกำหนดให้นายจ้างต้องรับผิดชอบกับลูกจ้างในผลของละเมิดที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติของลูกจ้างในทางการจ้าง
        
        บิดามารดากับผู้เยาว์ หรือผู้อนุบาลกับคนวิกลจริต
        
        ป.พ.พ.มาตรา429 กฎหมายกำหนดให้บิดามารดาหรือผู้อนุบาลต้องร่วมรับผิดชอบต่อผลของละเมิดที่เกิดขึ้นจากการกระทำของผู้เยาว์หรือคนวิกลจริตที่อยู่ในความดูแลของตน เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังแล้วตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น
      - ครูอาจารย์กับผู้ที่อยู่ในความดูแลของตน
        
        ป.พ.พ.430 กฎหมายกำหนดให้ครูอาจารย์ รับผิดชอบต่อผลของการกระทำละเมิดของบุคคลที่อยู่ในความดูแลของตน ซึ่งได้กระทำลงขณะที่ผู้นั้นอยู่ในความดูแลของตน
      - ตัวการร่วมรับผิดชอบกับตัวแทน
        
        ป.พ.พ.มาตรา427 กฎหมายกำหนดให้ตัวการรับผิดต่อผลการกระทำของตัวแทน
        
        ซึ่งได้กระทำไปในขอบอำนาจของตัวแทนซึ่งได้รับมอบหมายจากตัวการ
      - การร่วมกันทำละเมิด
        
        ป.พ.พ.มาตรา432 ถ้าบุคคลหลายคนก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น โดยร่วมกันทำละเมิดท่านว่าบุคคลเหล่านั้นจะต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น
  - - - การใดๆอันทำลงโดยชอบด้วยกฎหมายและด้วยใจสมัครมุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล
      - เพื่อจะก่อเปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ
    - - มีการกระทำ จะเป็นการกระทำใดๆได้ทั้งสิ้น เช่น ด้วยการบอกกล่าวด้วยวาจาเป็นลายลักษณ์อักษร หรือกระทำโดยสัญลักษณ์
      - การกระทำนั้นโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่ขัดต่อกฎหมาย
    - - 1.นิติกรรมฝ่ายเดียว
        
        เกิดขึ้นโดยแสดงเจตนาของบุคลากรฝ่ายหนึ่งฝ่ายเดียว
        
        เช่น การทำพินัยกรรม
      - 2.นิติกรรมสองฝ่าย
        
        เกิดขึ้นโดยการแสดงเจตนาของบุคคลตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไป
        
        ฝ่ายหนึ่งแสดงเจตนาเป็นคำเสนอ และอีกฝ่ายหนึ่งแสดงเจตนาเป็นคำสนอง
        
        เมื่อคำเสนอและคำสนองตรงกัน จึงเกิดมีนิติสัมพันธ์ขึ้นหรือเรียกว่า สัญญา
        
        เช่น สัญญาว่าจ้าง สัญญาซื้อขาย
    - - คนไร้ความสามารถ
        
        คนวิกลจริตที่ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ
        
        โดยศาลจะแต่งตั้งให้คู่สมรสหรือผู้สืบสันดานหรือบุพการีของคนวิกลจริตเป็นผู้อนุบาล
        
        ผู้อนุบาลจะเป็นผู้ทำนิติกรรมแทนคนไร้ความสามารถ
      - คนเสมือนไร้ความสามารถ
        
        บุคคลที่ไม่สามารถจัดการงานของตนเองได้
        
        1.กายพิการหรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ
        
        2.ประพฤติสุรุ่ยสุร่าย เสเพลเป็นอาจิณ
        
        3.ติดสุรายาเมา
      - ผู้เยาว์
        
        บุคคลที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (อายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์)
- - - - 1.นิติกรรมที่ทำขึ้นโดยสำคัญผิดในคุณสมบัติของคู่สัญญา
        
        เช่น ทำสัญญาว่าจ้างแพทย์ผ่าตัดเปลี่ยนไตโดยสำคัญผิดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญโรคไต แต่แท้จริงเป็นสูติแพทย์
      - 2.นิติกรรมทำขึ้นโดยคู่สัญญาหย่อนความสามารถในการทำนิติกรรม
  - - - ต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย
        
        เช่น ทำสัญญารับจ้างฆ่าคน
        
        คือ กฎหมายห้ามกระทำ
      - เป็นการพ้นวิสัย
        
        คือ เป็นการกระทำในสิ่งที่ไม่สามารถกระทำได้
        
        เช่น ทำสัญญา ชุบชีวิต คนตายให้ฟื้นกลับมา
      - ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน เช่น ตกลงให้ยาแก่ผู้ป่วยโรคเอดส์ระยะรุนแรงให้ตายเพื่อให้พ้นทุกข์ทรมาน