Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่3 3.4กฎหมายอาญาที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงค…

- - - - ผู้ใดล่วงรู้หรือได้มาซึ่งความลับของผู้ป่วยโดยเหตุที่เป็นโดยเหตุที่ประกอบอาชีพเป็นแพทย์เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่
      - แล้วเปิดเผยความลับนั้นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษเช่นกัน
    - - ผู้ใดมีหน้าที่ตามกฎหมายหรือตามสัญญาต้องดูแลผู้ซึ่งพึ่งตนเองมิได้เพราะอายุ ความเจ็บป่วยกายพิการ หรือจิตพิการทอดทิ้งผู้ซึ่งพึ่งตนเองมิได้นั้นเสียโดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต
      - ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    - - ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพชื่อเสียง
      - ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    - - ผู้ใดเห็นผู้อื่นตกอยู่ในภยันตรายแห่งชีวิตซึ่งตนอาจช่วยได้โดยไม่ควรกลัวอันตรายแก่ตนหรือผู้อื่น
      - ความผิดมาตรานี้ ได้แก่ การปฏิเสธไม่ช่วยเหลือผู้ป่วยที่เข้ามาขอรับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาล
    - - กระทำโดยประมาท ได้แก่ กระทำความผิดมิใช่โดยเจตนา แต่กระทำโดยปราศจากความระมัดระวัง
      - ความผิดตามมาตรานี้ ได้แก่ การฉีดยาที่สะโพกผิดเทคนิค ทำให้เส้นประสาท SCIATIC ได้รับบาดเจ็บผู้ป่วยมีอัมพาตของขา
    - - ผู้ใดในการประกอบการงานในวิชาแพทย์กฎหมาย บัญชี หรือวิชาชีพอื่นใด ทำคำรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ
      - โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนต้อง
        ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    - - ผู้ใดทำให้หญิงแท้งลูกโดยหญิงนั้นยินยอมต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
      - เมื่อเกิดความจำเป็นในลักษณะข้างต้น กฎหมายอาญา
        อนุญาตให้แพทย์ทำแท้งให้กับหญิงได้
- - - - กฎหมายที่รวบรวมการกระทำผิดสำคัญๆและบังคับใช้
      - ความผิดบานลักทรัพย์ รับของโจร วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์
    - - กฎหมายที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเฉพาะเรื่องนอกจากที่ได้กล่าวไว้
      - เช่น
        
        พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ.2528
        
        พระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ.2479
        
        จะนำหลักเกณฑ์ที่สำคัญตามประมวลกฎหมายอาญามาใช้
- - - - นอกจากตัวบุคคลที่ได้รับความเสียหายจะดำเนินคดีฟ้องร้องผู้กระทำผิดได้ด้วยตนเอง
      - รัฐจำเป็นต้องเข้าไปดำเนินคดี เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองได้ด้วย
      - ความผิดที่สำคัญและร้ายแรง มีผลกระทบต่อ ผู้ได้รับความเสียหายและส่งผลกระทบกระเทือนแก่สังคม
    - - ความผิดที่ไม่ร้ายแรงและมีผลกระทบกระเทือนต่อผู้ที่ได้รับความเสียหายแต่ฝ่ายเดียว
      - ความผิดประเภทนี้ตัวผู้ได้รับความเสียหายเท่านั้นที่จะฟ้องร้องได้เอง
      - บุคคลอื่นไม่อาจดำเนินการแจ้งความดำเนินคดี(เว้นแต่จะได้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหาย)
- - - - 1.การกระทำนั้นเป็นการกระทำที่ไม่เจตนากระทำผิด
      - 2.ได้กระทำไปโดยปราศจากความระมัดระวัง ซึ่งบุคคลในภาวะ เช่นนั้น ต้องมีตามวิสัย และพฤติการณ์
      - 3.ผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังได้ แต่หาได้ใช้เพียงพอไม่
  - - - การกระทำที่ไม่ทั้งประสงค์ต่อผลหรือเล็งเห็นผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำ
      - การกระทำโดยไม่เจตนานี้ผู้กระทำจะต้องได้รับโทษทางอาญาหากเป็นการกระทำซึ่งกฎหมายบัญญัติว่าต้องรับโทษแม้ไม่เจตนา
      - “ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่าแต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่เสียชีวิต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงห้าปี”
  - - - ต้องกระทำโดยรู้สึกในการกระทำ
      - ต้องกระทำโดยประสงค์ต่อผลหรือเล็งเห็นผล
  - - - บทบัญญัติของกฎหมายนี้ถือว่าการที่บุคคลใดมีหน้าที่ที่จะต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันผลร้ายอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น
      - ต้องถือบุคคลผู้มีหน้าที่นั้นเป็นผู้กระทำให้เกิดผลร้ายแรงเอง
  - - - รีเฟล็กซ์(REFLEX)
      - อาการชักกระตุก(CONVULSION)
      - หรือไม่รู้สึก(UNCONSCIOUS)
      - ไม่ถือเป็นการกระทำอันเป็นองค์ประกอบที่จะต้อง รับโทษทางอาญา
- - - - ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่น
      - ให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย
      - ถ้ากระทำพอสมควรแก่เหตุการณ์กระทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกำหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด
    - - ภยันตรายนั้นเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง
      - ต้องเป็นการกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่นให้พ้นจากภยันตรายนั้น
      - ต้องเป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย
  - - - การอนุญาตให้กระทำได้ เป็นการปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขึ้นโดยไม่ขัดขวาง
      - ความยินยอมที่จะยกขึ้นเป็นเหตุยกเว้นความรับผิดได้ต้องมีลักษณะครบองค์ประกอบ
    - - ต้องยินยอมโดยบริสุทธิ์ใจมิได้เกิดขึ้นจากความหลอกลวงขู่เข็ญหรือสำคัญผิดในข้อเท็จจริง
      - ความยินยอมต้องมีอยู่ในขณะกระทำผิด
      - ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนเช่น การยอมให้ฆ่าไม่อาจกระทำได้เพราะผิดกฎหมาย
    - - บุคคลที่กระทำผิดตามธรรมดาก็ย่อมต้องรับโทษตามกฎหมายกระทำความผิดการกระทำนั้นเป็นความผิดแต่ไม่ต้องรับโทษเพราะมีเหตุยกเว้นโทษตามกฎหมาย
- - - - กักขัง
      - ปรับ
      - จำคุก
      - ริบทรัพย์สิน
      - ประหารชีวิต