Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ทฤษฎีการพยาบาลของโอเร็ม (Orem's Self care Theory) ) art_554845,…
ทฤษฎีการพยาบาลของโอเร็ม
(Orem's Self care Theory)
)
แนวคิดหรือหลักการที่สำคัญ
เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับบุคคลในการ
ดำรงชีวิตสุขภาพและความผาสุก
การดูแลตนเองเป็นการกระทำที่จงใจ
การดูแลตนเองสามารถเรียนรู้ได้จากที่
บ้าน
โรงเรียน
การใช้ชีวิตประจำวัน
ประสบการณ์ต่างๆ
บุคคลมีความจำเป็นในการพัฒนาความรู้
ทักษะ มีทัศนะคติที่ดีต่อการดูแลตนเองและสุขภาพ
ทฤษฎีย่อย 3 ทฤษฏี
ทฤษฎีการดูแลตนเอง
การดูแลตนเองที่จำเป็นโดยทั่วไป (Self-care : SC)
ความต้องการในการดูแลตนเองทั้งหมด (Therapeutic self care demand : TSCD)
ความสามารถในการดูแลตนเอง (Self - care agency : SCA)
2.ทฤษฎีการบกพร่อง
ในการดูแลตนเอง
ความต้องการมากกว่าความสามารถ TSCD > SCA
ความต้องการที่สมดุล TSCD = SCA
ความต้องการที่น้อยกว่าความสามารถ TSCD < SCA
ทฤษฏีระบบการพยาบาล
ระบบการพยาบาลสนับสนุนและให้ความรู้
ระบบทดแทนบางส่วน
ระบบทดแทนทั้งหมด
ผู้ที่ไม่สามารถจะปฏิบัติในกิจกรรมที่จะกระทำอย่างจงใจ ไม่ว่ารูปแบบใดๆ
ผู้ที่รับรู้และอาจจะสามารถสังเกต ตัดสินใจเกี่ยวกับดูแลตนเองได้
ผู้ที่ไม่สนใจหรือเอาใจใส่ตนเอง ไม่สามารถตัดสินใจอย่างมีเหตุผลในการดูแลตนเอง
ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
ผู้ก่อตั้งคือDr.Dorothea E. Orem
เริ่มพัฒนาตั้งแต่ปี ค.ศ 1958
จากประสบการณทำงานพบว่า
การจัดหลักสูตรมีความยากลำบาก
ในการกำหนดขอบเขต
พยาบาลไม่สามารถบอกความหมายและวัตถุประสงค์ของพยาบาลได้อย่างชัดเจน
ในปี 1962 ได้เขียนหนังสือ The hope of Nursing
ในวารสาร The journal of Nursing Education
ในปี 1995 ได้เพิ่มมิติของการดูแลตนเองเป็นความรับผิดชอบของบุคคล ครอบครัวและชุมชน
มโนมติหลัก/อภิกระบวนทัศน์
Metaparadigm
บุคคล (Peerson)
บุคคลเป็นผู้ที่มีความสามรถในการกระทำอย่างจงใจ (deliberate action)
มีความสามารถในการเรียนรู้ วางแผน จัดระเบียบปฏิบัติกิจกรรมเกียวกับตนเองได้
บุคคลมีลักษณะเป็นองค์รวม ทำหน้าที่ทั้งด้านชีวภาพ ด้านสังคม ด้านการแปลและ
ให้ความหมายต่อสัญลักษณ์ต่างๆ
ระบบเปิด ทำให้บุคคลมีความเป็นพลวัตร คือเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
สุขภาพ(Health)
มีความสมบูรณ์ไม่บกพร่อง คือคนที่มีโครงสร้างที่สมบูรณ์สามารถทำหน้าที่ของตนได้ ทั้งทางสรีระ และจิตใจ
มีความสัมพันธ์ที่ดีกับบุคคลอื่น
บุคคลจะต้องมีการดูแลตนเองในระดับที่เพียงพอและต่อเนื่องจนมีผลทำให้เกิดภาวะสุขภาพดี
สิ่งแวดล้อม(Environment)
คนกับสิ่งแวดล้อมไม่สามารถแยกจากกันได้และมีอิทธิพลซึ่งกันและกัน
สิ่งแวดล้อมที่ดีจะช่วยจูงใจบุลคลให้ตั้งเป้าหมายที่เหมาะสมและปรับพฤติกรรมเพื่อให้ได้ผลตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
มีสิ่งแวดล้อมทั้งทางกายภาพ เคมี ชีวภาพและด้านสังคมวัฒนธรรม
การจัดสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมจะมีส่วนในการพัฒนาความสามารถในการดูแลจนเอง
การพยาบาล (Nursing)
บริการการช่วยเหลือบุคคลอื่นให้สามารถดูแลตนเองได้อย่างต่อเนื่อง
ช่วยให้บุคคลตอบสนองต่อความต้องการการดูแลตนเองในระดับที่เพียงพอและต่อเนื่อง
เป็นการช่วยปฏิบัติกิจกรรมการดูแลแทนบุคคล
เมื่อบุคคลนั้นไม่สามารถกระทำได้
การประยุกต์ใช้ในกระบวนการพยาบาล
ขั้นตอนที่ 1 ขั้นวินิจฉัยและพรรณนา
( Diagnosis and Prescription)
เป็นขั้นที่ต้องระบุถึงความพร่อง
ในการดูแลตนเอง
การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ
ความสามารถในการดูแลตนเอง
พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถกับความต้องการ การดูแลตนเอง
ขั้นที่ 2 ขั้นวางแผน
( Design and Plan)
เป็นขั้นต่อเนื่องเมื่อทราบความพร่องในการดูแลตนเอง
เลือกระบบการพยาบาลให้เหาะสมแล้วนำมาวางแผน
มีการกำหนดเป้าหมายหรือผลลัพท์ทางการพยาบาล
ขั้นตอนที่ 3 ขั้นปฏิบัติการพยาบาลและควบคุม ( Regulate and Control)
เป็นขั้นตอนที่พยาบาลนำกิจกรรมไปลงมือปฏิบัติตามแผนการพยาบาล
จุดมุ่งหมาย คือ การบรรลุความต้องการการดูแลตนเองทั้งหมด (TSCD)
การประเมินผลลัพท์การการพยาบาลว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่
ปกป้องหรือพัฒนาความสามารถหรือไม่
นำข้อมูงย้อนกลับเข้าสู่การปนะเมินอีกครั้ง
จุดเน้น/ข้อตกลงเบื้องต้น
Assumptins
ให้ความช่วยเหลือบุคคลที่มีความบกพร่องในการดูแลตนเองที่เกี่ยวกับภาวะสุขภาพ
1.การกระทำให้/การกระทำ
พยาบาลต้องช่วยผู้ป่วยในการหาข้อมูลตัดสินใจ วางแผน กระทำและจะต้องบอกผู้ป่วยใน
การหาผลรายงานว่ามีอะไรบ้างแก่พยาบาล
2.การชี้แจง
เป็นวิธีการช่วยเหลือที่เหมาะในกรณีที่ผู้ป่วยสามารถตัดสินใจเลือกได้
3.การสนับสนุน
เป็นวิธีการส่งเสริมความพยายามให้ผู้ป่วยสามารถดูแลตนเองได้
4.การสอน
โดยสอนในสิ่งที่ผู้ป่วยต้องการเรียนรู้มีความพร้อมและมีการวางแผนเป้าหมายเลือกวิธีการดูแลร่วมกัน
นางสาวสิริรัตน์ ชมเกษร เลขที่ 18
รหัสนักศึกษา 1162122010504