Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

G2P1A0L1 Elderly pregnancy, จากการบันทึก Partograph พบว่า มีความผิดปกติ …

- - - - ทารกดิ้นน้อยลง
      - การตั้งครรภ์ใกล้ครบกำหนด/เกินกำหนด
      - ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า
      - น้ำคร่ำน้อย
      - มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวานชนิดที่ 1 เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ความดันโลหิตสูง ธาลัสซีเมีย
    - - ผลปกติ(reactive) : FHSเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป
        จุดสูงสุดของการเพิ่มขึ้นอยู่เหนือ baseline ตั้งแต่ 15 bpm ขึ้นไป ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มจนสู่กลับสู่ baseline นาน มากกว่าหรือเท่ากับ 15 bpm
        
        คำแนะนำหลังการตรวจ
        
        มีความเสี่ยงต่ำให้นับลูกดิ้นต่อทุกวัน
        
        มีข้อบ่งชี้ ให้ตรวจ NST ซ้ำ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์
        
        สงสัยทารกเติบโตช้าในครรภ์/น้ำคร่ำน้อย ตรวจเพิ่มเติมด้วยวิธีอื่นเช่น BPP,Umbilical artery doppler
        
        BPP
        
        Fetal biophysical profile
        *กรณีศึกษาได้ 8 คะแนน
        
        การแปลผลและการพยาบาล
        *8/10 คะแนน ปกติ ไม่มีการรักษาเพิ่มเติมD/C
      - ผลผิดปกติ(non reactive)FHR ไม่เพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ของ reactive ภายในระยะเวลาของการตรวจนาน 40 นาที กรณีศึกษาผลเป็น Non reactive
        
        คำแนะนำหลังการตรวจ NST
        ควรตรวจประเมินสุขภาพทารกในครรภ์ด้วยวิธีอื่น
        เข่น CST ,BPP เพิ่มเติม
- - - - การตั้งครรภ์นอกมดลูก
      - การแท้งบุตร
      - การคลอดก่อนกำหนด/หลังกำหนด
      - รกเกาะต่ำ
      - โรคเบาหวาน
      - โรคความดันโลหิตสูง
    - - ความผิดปกติทางโครโมโซมของทารก เช่น Down syndrome
      - การตายปริกำเนิด
      - ทารกน้ำหนักตัวน้อย
  - - - ข้อบ่งห้ามของการตัดชิ้นเนื้อรก
        
        มารดามีเลือดออกทางช่องคลอด
        
        มารดามีการติดเชื้อของระบบสืบพันธุ์
        
        มดลูกอยู่ในตำแหน่งคว่ำ หน้าหรือคว่ำหลังมาก
        
        มารดามีรูปร่างอ้วนมากทำ ให้ภาพคลื่นเสียงความถี่สูงขณะทำ หัตถการไม่ชัดเจนเพียงพอ
      - คือการตรวจความผิดปกติทางโครโมโซมของทารกโดย
        ตัดชิ้นเนื้อรก (Chorionic Villus Samping)และทำเมื่ออายุ
        อายุครรภ์ที่เหมาะสม 10-13 สัปดาห์
    - - อายุครรภ์ที่เหมาะสม 16-20 สัปดาห์
      - ข้อดีการตรวจ amniocentesis
        
        ทำง่ายโอกาสประสบความล้มเหลวในการตรวจน้อย
        
        ภาวะแทรกซ้อน0. 5% (1: 200) น้อยกว่าวิธีอื่นๆ แพทย์จึงนิยมทำวิธีนี้
      - ข้อจำกัดการตรวจ amniocentesis
        
        ใช้ได้สำหรับกรณีที่มีข้อมูลที่ระดับยีนหรือโครโมโซมเท่านั้น
        
        อาจมีภาวการณ์ปนเปื้อนของเซลล์จากมารดาทำให้อาจอ่านผลคลาดเคลื่อน
    - - ภาวะแทรกซ้อนของทารกในครรภ์
        
        ทารกเสียชีวิตหรือแท้งร้อยละ 1.4
        
        เลือดออกจากหลอดเลือดสายสะดือร้อยละ 50
        
        ก้อนเลือดคั่งบริเวณสายสะดือร้อยละ 16
        
        เลือดออกจากทารกไปยังมารดาร้อยละ 40
        
        หัวใจทารกเต้นช้าลงพบร้อยละ 3-12
      - ข้อดีการตรวจ Cordocentesis
        
        สามารถทำในกรณีที่อายุครรภ์มากตั้งแต่ 22 สัปดาห์ ได้ผลเร็ว
        
        สามารถนำเลือดทารกมาตรวจได้หลายอย่าง
      - ข้อจำกัดการตรวจ Cordocentesis
        
        โอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน 1.5-2% ขึ้นกับความชำนาญของผู้ทำ
        
        มีโอกาสประสบความล้มเหลวในการตรวจ
        
        มีโอกาสเกิดภาวะการปนเปื้อนของเซลล์จากมารดา
    - - อธิบายให้ทราบถึงวัตถุประสงค์วิธีการทำและการปฏิบัติตนภายหลังทำ
      - ดูแลจัดท่านอนให้หญิงตั้งครรภ์
      - . วัดสัญญาณชีพ
      - ให้กำลังใจและอยู่เป็นเพื่อนหญิงตั้งครรภ์ขณะแพทย์ทำการตรวจ
      - ขณะที่แพทย์ตรวจช่วยดูดเลือดหรือจับหัวตรวจคลื่นเสียงความถี่สูง
      - จัดเตรียมภาชนะที่ใส่พร้อมฉลากที่เขียนชื่อสกุล HN วันเวลาที่เจาะ
      - ภายหลังตรวจเสร็จดูแลให้หญิงตั้งครรภ์นอนพัก 15-30 นาที
      - แนะนำให้งดทำงานหนัก24-72 ชม. และงดการมีเพศสัมพันธ์ภายใน 10-14 วัน ถ้ามีอาการผิดปกติหลังทำ เช่น ปวดท้องรุนแรง มีเลือดออก ให้รีบมาโรงพยาบาลทันที
- - - - 1.power แรงเบ่ง (inadequate voluntary expulsive force)
        
        สาเหตุ
        
        เบ่งไม่ถูกวิธี
        
        เหนื่อยล้า/อ่อนเพลีย
        
        การดูแลรักษา/การพยาบาล
        
        ดูแลจัดท่า/ ดูแลให้พักผ่อน
        
        แนะนำวิธีการเบ่งคลอดที่ถูก
      - passages
        
        การพยาบาล
        
        พิจารณาการทำ C/S
        
        เลี่ยงยากระตุ้น UC แคบไม่มากคลอดเอง
        
        ระวังมดลูกแตก ในคลอดหลัง
        
        เฝ้าคลอดอย่างใกล้ชิด
        
        เลี่ยงยากระตุ้น UC
      - passengers
        
        สาเหตุ
        
        ส่วนนำผิดปกติ เช่น ส่วนนำเป็นก้น หน้า หรือส่วนนำผสม เช่น ศรีษะและสายสะดือ หรือศรีษะมือ
        
        การพยาบาล
        
        ติดตามความก้าวหน้าในการคลอด+เฝ้าระวัง
        
        ทารกสามารถดึงกลับเข้าไปเองแต่หากไม่ผู้ดูแลอาจใช้นิ้วดันส่วนที่ยื่นลงมาขึ้นไป พร้อมกับกดที่ยอดมดลูกเพื่อให้ศีรษะลงมาในช่องเชิงกราน
        
        ถ้าสายสะดือย้อย, fetal distress ให้ประเมิน FHS+ ให้ O2 + เตรียม C/S
      - Position
        
        การเปลี่ยนท่า
        
        การเดิน
        
        ท่านั่งยองๆ
        
        ท่าศรีษะสูง
        
        การบรรเทาความเจ็บปวดด้วยวิธีอื่นๆโดยไม่ใช้ยา
        เช่น การกดจุ การนวด เป็นต้น
      - physiological
        
        ดูแล On IV
        
        Monitor FHS ในระยะคลอด
        
        C/S
        
        F/E, V/E
      - psychological
        
        การพยาบาล
        
        ให้คำแนะนำเบ่งคลอดที่ถูกวิธี
        
        ปลอบประโลม ให้กำลังผู้คลอด
        
        Monitor FHS
    - - คลอดยาก
        
        การพยาบาล
        
        การประเมินสภาพ
        
        การซักประวัติ เช่น ประวัติการคลอด, ทารกตายในครรภ์ เป็นต้น
        
        การตรวจหน้าท้อง ทารกตัวโต,ครรภ์แฝด, หรือท่าผิดปกติ การหดรัดตัวไม่ดี ความนานของการหดรัดตัวน้อยกว่า 45 วินาที ระยะห่างมากกว่า 3 วินาที ความตึงตัวของกล้ามเนื้อ
        
        ตรวจทางช่องคลอด ischial spine แคบกว่า 10.5 cm มุมกระดูกหัวหน่าวแคบกว่า 85 องศา ประเมินความก้าวหน้าของการคลอดอาจพบดังนี้
        
        3.1 ระยะปากมดลูกเปิดช้า (latent phase) นานกว่า 20 ช.ม. ครรภ์แรก นานกว่า 14 ช.ม. ครรภ์หลัง
        ระยะปากมดลูกเปิดเร็ว (Active phase) นานกว่า 5 hr. ครรภ์แรก และนานกว่า 2.5 hr. ครรภ์หลัง การถ่างขยายของปากมดลูกไม่สัมพันธ์กับการหดรัดตัวของมดลูก
        
        3.2 ในระยะที่สองของการคลอด ครรถ์แรกนานกว่า 1 hr. ครรภ์หลังนานกว่า 30 นาที
        
        ผู้คลอดเบ่งคลอไม่ถูกวิธีหรือมีแรงเบ่งน้อย
        
        มารดาพักผ่อนได้น้อย เครียด ความวิตกกังวลสูง
        
        Fetal distress
        
        อาการ
        
        FHR < 110 bpm / > 160 bpm
        
        มีขี้เทาปนในน้ำคร่ำ
        
        1. Thin/Mild meconium stained มีขี้เทาปนเล็กน้อย มีสีเหลือง
        
        2. Moderate meconium stained มีขี้เทาปนปานกลาง มีสีเขียวปนเหลือง
        
        3. Thick meconium stained มีขี้เทาปนมาก มีสีเขียวคล้ำและข้น
        
        ทารกดิ้นน้อยลง
        
        ทารกมีภาวะเลือดเป็นกรด
        
        สาเหตุ
        
        Umbilical cord compression คือ ภาวะที่สายสะดือถูกกดขณะมดลูกมีการหดรัดตัวทำให้ทารกในครรภ์ขาดออกซิเจน
        
        Uteroplacental insufficiency (UPI) คือ ภาวะที่การไหลเวียนเลือดไปสู่รกไม่เพียงพอทำให้ทารกในครรภ์ขาดออกซิเจนโดยสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะ uteroplacental insufficiency ได้แก่
        
        Uterine hyperactivity
        
        Maternal hypotension
        
        Placental dysfunction
        
        การวินิจฉัย
        
        Category I
        
        Baseline rate: 110–160 beats per minute (bpm)
        
        Baseline FHR variability: moderate
        
        Late or variable decelerations: absent
        
        Early decelerations: present or absent
        
        Accelerations: present or absent
        
        Category II
        
        เป็นกลุ่ม FHR ก้ำกึ่ง (intermediate) ทำนายสภาวะกรดด่างได้ไม่ดีนัก ประกอบด้วยลักษณะที่ไม่เข้ากับกลุ่มที่ I และกลุ่มที่ III
        
        Category III
        
        Repetitive late deceleration
        
        Repetitive severe variable deceleration
        
        Prolonged deceleration
        
        Bradycardia
        
        Sinusoidal pattern
        
        การพยาบาล
        
        จัดท่านอนมารดาโดยให้นอนตะแคงซ้าย
        
        ประเมินและบันทึก FHR อย่างต่อเนื่องด้วย EFM
        
        ให้ออกซิเจน
        
        หยุดให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
        
        ให้สารละลายทางหลอดเลือดดำเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
        
        . เตรียมผู้คลอดสำหรับทำการเติมน้ำในโพรงมดลูก (amnioinfusion) และช่วยเหลือแพทย์ในการทำหัตถการ
        
        เตรียมผู้คลอดสำหรับช่วยคลอดด้วยสูติศาสตร์หัตถการหรือผ่าตัดคลอด
        
        รายงานแพทย์และเตรียมอุปกรณ์ช่วยฟื้นคืนชีพทารก
        อธิบายให้ผู้คลอดและครอบครัวทราบถึงภาวะที่เกิดขึ้น ภาวะแทรกซ้อนและแผนการรักษา เพื่อลดความวิตกกังวล
        
        สูติศาหัตถการ
        
        Vacuum extraction
        
        ความหมาย
        
        คือสูติศาสตร์หัตถการที่ใช้เครื่องดูดสุญญากาศในการเสริมแรงจากการหดรัดตัวของมดลูกและแรงเบ่งของมารดาเพื่อให้ทารกได้คลอดทางช่องคลอด
        
        ข้อบ่งชี้
        
        ด้านมารดาการคลอดระยะที่สองยาวนาน station ตั้งแต่ 0 ลงมามารดามีโรคที่ออกแรงมากไม่ได้
        
        ด้านทารก ทารกยังมีชีวิตอยู่ fetal disteress ที่ไม่รุนแรง
        
        ทารกท่าหน้าท่าขวาง
        มีการผิดสัดส่วนระหว่างศีรษะและช่องเชิงกรานอย่างชัดเจน
        คลอดก่อนกำหนด
        สายสะดือย้อย
        Fetal distress ที่ปากมดลูกยังไม่เปิดหมด
        
        การพยาบาล
        
        ประเมินสภาพ ซักประวัติอดีตด้านการคลอด การคลอดติดขัดหรือว่าการใช้สูติศาสตร์หัตถการ ตรวจร่างกายตรวจหน้าท้องประเมินท่าและขนาดของทารกประเมินสภาวะติดใจให้ความรู้ในการปฏิบัติตัวขณะคลอด
        
        หลัหลังจากผู้คลอดใส่สายสุญญากาศแล้วผู้ช่วยลดความดันครั้งละ 0.2 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตรทุก 2 นาทีจนถึง 0.6 ถึง 0.8 ซึ่งใช้เวลาหกถึง 8 นาที
        
        ประเมิประเมินสภาพทารกลักษณะทั่วไป
        สัญญาณชีพและภาวะแทรกซ้อนของการใช้สูติศาสตร์หัตถการ เช่นรอยถลอกหรือมีเลือดออกที่เยื่อหุ้มศรีษะ
        ประเมินอาการเสียเลือดของมารดาการติดค้างของต้องช่างคอด
        
        Cesarean section
        
        ความหมายการทำคลอดทารกผ่านทางรอยผ่าตัดทางหน้าท้องโดยทารกต้องมีน้ำหนักมากกว่า 1000 กรัม
        
        ข้อบ่งขี้
        
        Meehanical dystocia
        การคลอดยากที่เกิดจากกลไกการคลอดผิดปกติ
        
        ความผิความผิดปกติของทารกความผิดปกติของมดลูก
        
        รกเกาะต่ำรกเกาะต่ำ
        
        มะเร็งปากมดลูก
        
        มีมีลูกแทรกซ้อนทางอายุรศาสตร์
        
        Fetal distress
        
        ข้อห้าม ทารกตายยกเว้นมารดามีตกเลือดก่อนคลอด
        
        ชนิดของการผ่าตัด
        
        Classic cesarean section
        เป็นการผ่าตัดแบบดั้งเดิมผ่าตามแนวตั้งที่ส่วนของมดลูกส่วนบนวิธีนี้มีข้อเสียคือเสียเลือดมากแผลติดไม่ดีติดเชื้อง่ายและมีการใช้น้อยในปัจจุบัน
        
        Low cervical cesarean section
        เป็นที่นิยมทำในปัจจุบัน
        
        Cesarean hysterectomy
        เป็นการผ่าตัดนำทารกออกทางหน้าท้องและผ่าตัดมดลูกออก
        
        Extraperitoneal cesarean section
        เป็นการผ่าตัดทารกออกทางหน้าท้องโดยไม่ผ่านเข้าภายในช่องท้อง
        
        ภาวะแทรกซ้อน
        
        ลักน้ำและอาหารเข้าปอด
        กดการหายใจจากการใช้ยาระงับความรู้สึก
        ติดเชื้อตกเลือด
        
        การพยาบาล
        
        ประเมินสภาพจากประวัติการ จากประวัติการคลอดที่ผิดปกติในอดีตตรวจร่างกายประเมินน้ำหนักและถ้าของทารกประเมินด้านจิตสังคมประเมินด้านความวิตกกังวล
        
        ดูแลงดน้ำงดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนทำการผ่าตัด
        ทำความสะอาดบริเวณผิวหนังบริเวณที่จะผ่าตัด
        ตรวจเลือดตามความเข้มข้นของเลือดเพื่อเตรียมเลือด
        ดูแลให้ถอดฟันปลอมเครื่องประดับและประเมินสัญญาณชีพ
        
        Version
        
        ความหมาย
        
        เป็เป็นสูติศาสตร์หัตถการทำเพื่อเปลี่ยนท่าของทารกที่อยู่ในท่าที่ไม่มีศรีษะเป็นส่วนนำเปลี่ยนเป็นให้มีศรีษะเป็นส่วนนำเพื่อให้สามารถคลอดทางช่องคลอดได้
        
        ข้อบ่งชี้ด้านมารดา
        
        ด้านมารดาการคลอดระยะที่สองยาวนานหรือหยุดชะงัก การหดรัดตัวของมดลูกน้อยลง มารดามีโรคประจำตัวที่ไม่สามารถเบ่งคลอดแรงได้ มีภาวะแทรกซ้อนในระหว่างตั้งครรภ์ กาหดรัดตัวของมดลูกไม่ดี
        
        ด้านทารก ศีรษะของทารกไม่หมุนตามกลไกการคลอดปกติ
        มีภาวะ fetal distress คลอดแฝดคนที่สอง
        
        การพยาบาล
        
        เตรียมมารดาทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
        เตรีเตรียมเครื่องมือในการทำคลอดให้พร้อม
        พยาบาลควรอยู่เป็นเพื่พยาบาลควรอยู่เป็นเพื่อนมารดาตลอดเวลา
        ฟังและบันทึกเสียงหัวใจของทารกถ้าผิดปกติให้รายงานแพทย์
        ประเมิประเมินการหดรัดตัวของมดลูก
        หากขณะทำมารดาเจ็บครรภ์มากกว่าปกติให้หยุดทำ
        
        Forceps extraction
        
        ความหมาย
        
        สูติศาสตร์หัตถการที่ใช้คีมดึงศรีษะทารกออกจากช่องคลอดโดยไม่มีการทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อมารดาและทารกในครรภ์ได้วิธีนี้นิยมทำน้อยเนื่องจากเกิดอันตรายได้หากผู้ทำคลอดขาดประสบการณ์
        
        ข้อบ่งชี้
        
        ด้านมารดา มารดาอ่อนเพลีย ไม่มีแรงเบ่ง ไม่ให้ความร่วมมือในการเบ่ง ระยะที่สองของการคบอดยาวนาน มดลูกหดรัดตัวไมดี ปากมดลูกเปิดหมด ถุงน้ำคร่ำแตก
        
        ด้านทารกทารกอยู่ในภาวะ fetal distress คลอดท่าก้น
        ศรีษะไม่ผิดสัดส่วนกันช่องทางคลอด ทารกยังมีชีวิตอยู่
        
        ภาวะแทรกซ้อน
        
        ด้านมารดามีการฉีกขาดของช่องทางคลอด อันตรายต่อท่อปัสสาวะ กล้ามเนื้อหย่อน และฉีกขาด ตกเลือด ติดเชื้อ
        
        ด้านทารกอันตรายต่อศรีษะ กะโหลกแตก เลือดออกในเยื่อหุ้มศรีษะ ในสมอง
        
        การยาบาล
        
        ประเมินสภาพ ซักประวัติการคลอดในอีต ตรวจร่างกาย ประเมินทาทารก จิตสังคมประเมินความวิตกกังวล
        
        ทารกคลอด ระเมินสภาพ สังเกตภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น เช่น รอยถลอก ฟกช้ำ
        
        ประเมินการฉีกขาดของช่องทางคลอด การตกเลือดจองมารดา
        
        ชนิดของ forceps
        
        Piper forceps
        
        Barion forceps
        
        Barton forceps
        
        Kielland forceps
        
        Elliot forceps
        
        Breech delivery
        
        ความหมายสูติศาสตร์หัตถการอย่างหนึ่งที่จะช่วยเหลือให้ทารกที่อยู่ในครรภ์ในท่าก้นสามารถดำเนินการคลอดได้โดยปลอดภัย
        
        ชนิดของท่าก้น
        
        ท่าก้นสมบูรณ์ทารกจะอยู่ในท่างสะโพกและหัวเข่า
        ทั้งสองข้างอยู่ในท่าขัดสมาธิหรือกอดอก
        
        ท่าก้นไม่สมบูรณ์ส่วนใดส่วนหนึ่งของขาอยู่ต่ำกว่ากระดูกก้นกบเช่นถ้าก้นที่ขาและเข่าตรงขนานกับลำตัวท่าก้นที่มีขายืดออกมาข้างเดียวและแบบสองข้าง
        
        การคลอดท่าก้น
        
        Spontaneous breech delivery
        
        Parital breech extraction
        
        Total breech extraction
        
        ภาวะแทรกซ้อน
        
        เกิดการติดเชื้อกับมารดาการฉีกขาดของช่องทางคลอดการตกเลือดหลังคลอดกระดูกหักข้อเคลื่อนอันตรายต่ออวัยวะภายในช่องท้องของทารกมีเลือดออกในสมองขาดออกซิเจนจากสายสะดือกดทับ
        
        การพยาบาล
        
        ประเมินสภาพจากประวัติการ จากประวัติการคลอดที่ผิดปกติในอดีตตรวจร่างกายประเมินน้ำหนักและถ้าของทารกประเมินด้านจิตสังคมประเมินด้านความวิตกกังวล
        
        ดูแลไม่ให้เกิด fetal distress จากสายสะดือพลัดต่ำจากถุงน้ำคร่ำแตก
        ให้นอนตะแคงไม่รู้เดินประเมิน FHS ทุก 15 ถึง 30 นาทีที่น้ำคร่ำแตก
        
        Induction of labor
        
        ความหมาย
        
        การทำให้สภาวะการตั้งครรภ์สิ้นสุดลงเมื่ออายุเกิน 28 สัปดาห์หรือทารกในครรภ์มีน้ำหนักเกิน 1000 กรัมด้วยวิธีการต่างๆซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
        
        ข้อบ่งชี้
        
        ด้านมารดามีมีภาวะแทรกซ้อนทางสูติติกรรมความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
        ตกเลือดก่อนคลอดถุงน้ำคร่ำแตกเจ็บครรภ์คลอดคันเกินกำหนดคันแฝดน้ำเบาหวานตาย
        
        ด้านทารกทารกตายในครรภ์ ทารกตายในครรภ์มีประวัติการตายในครรภ์โดยไม่ทราบสาเหตุทารกพิการเลือดRhไม่เข้ากัน
        
        ข้อห้าม
        
        ส่วนนำของทารกกับช่องเชิงกรานไม่ได้สัดส่วน
        เคยได้รับการผ่าตัดที่ผนังมดลูก
        เคยผ่าคลอดมากกว่าห้าครั้ง
        ติดเชื้อทางช่องคลอด
        ท่าทารกผิดปกติ
        Fetal distress
        
        ปัจจัยที่มีผลต่อการขักนำการคลอด
        
        การใช้ยา
        
        ออกซิโตซิน
        
        พรอสตาแกรนดิน
        
        2 more items...
        
        ไม่ใช้ยา
        
        การเลาะแยกถุงน้ำคร่ำ
        
        การเจาะถุงน้ำคร่ำ
        
        การพยาบาล
        
        อธิอธิบายให้ผู้คลอดเข้าใจถึงความหมายและเหตุผลในการทำหัตถการ
        ดูแลให้ผู้คลอดหลังได้รับการชักนำการคลอดแต่ละวิธี
        ประเมินความสำเร็จในการชักนำการคลอดและความก้าวหน้าประเมินสภาพทารกฟังเสียงหัวใจของทารกทุก 15 นาที
        ประเมินภาวะแทรกซ้อนของการชักนำการคลอดแต่ละวิธีเช่นมดลูกหดรัดตัวเร็วไม่คลายตัว