Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเขียนโครงร่างและรายงานการวิจัย, ความถูกต้องและทันสมัยของเนื้อหา,…
การเขียนโครงร่างและรายงานการวิจัย
การเขียนโครงร่างการวิจัย (Research proposal)
หลักการเขียนโครงร่างวิจัย
การเขียนโครงร่างการวิจัย ควรมีองค์ประกอบ ดังนี้
ชื่อเรื่องวิจัย (Research Topic or The Title)
ควรตั้งให้ดึงดูดและน่าสนใจ
เป็นประโยคบอกเล่า
สั้นกะทัดรัด ชัดเจน และสื่อความหมายครอบคลุมเนื้อเรื่องทั้งหมด
ความยาวไม่เกิน 2 บรรทัด
ชื่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษสอดคล้องกัน
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา (Background and significance of the Problem)
สภาพปัญหาในปัจจุบัน มีข้อมูล/สถิติ
ผลกระทบของปัญหา ความรุนแรงของปัญหา
อธิบายแนวคิด/ทฤษฏีของตัวแปรที่ศึกษา
ความจำเป็นที่ต้องศึกษาจากประชากรกลุ่มที่สนใจ
มีความเชื่อมโยงกันในแต่ละย่อหน้า
คำถามวิจัย (Research question)
• คำถามการวิจัยชัดเจนจะช่วยผู้วิจัยกำหนดวัตถุประสงค์ ตั้งสมมุติฐาน นิยามตัวแปร
• สัมพันธ์กับเรื่องที่ศึกษามีคำถามหลักและหรือคำถามรอง
• รูปประโยคคำถาม
วัตถุประสงค์การวิจัย (Research objective)
• ประโยคบอกเล่า
• ต้องกำหนดวัตถุประสงค์ทั่วไปและวัตถุประสงค์เฉพาะ
• กำหนดเป้าหมายวิจัยให้ชัดเจน
• มีความเฉพาะเจาะจง ไม่คลุมเครือ
• สอดคล้องกับชื่อเรื่องและคำถามการวิจัย
สมมติฐานการวิจัย (Research hypothesis)
• คาดคะเนหรือการทายคำตอบปัญหาอย่างมีเหตุผล
• เขียนความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระกับตัวแปรตามโดยระบุขนาดและทิศทาง
• งานวิจัยบางเรื่องไม่จำเป็นต้องมีสมมุติฐาน
ขอบเขตการวิจัย (Scope of the study)
ระบุให้ครอบคลุมประเด็นที่ศึกษา
ประชากร
กลุ่มตัวอย่าง
ตัวแปร
คำนิยามศัพท์ หรือคำจำกัดความในการวิจัย (Definition of terms)
• นิยามคำศัพท์ที่ใช้ในการวิจัยเป็นคำศัพท์เชิงปฏิบัติการ
นิยามศัพท์ตัวแปรต้องให้คำจำกัดความอย่างชัดเจนที่สามารถสังเกตและวัดได้
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ (Significance of finding)
ผลที่ค้นพบจะนำไปใช้ประโยชน์อะไร
ต่อใคร แก้ปัญหาใด
ด้านบริหาร บริการ และวิชาการ
กลุ่มตัวอย่างวิจัย ครอบครัว ชุมชน องค์กรวิชาชีพ หน่วยงาน และประเทศชาติ
กรอบแนวคิดการวิจัย (Conceptual Framework)
คำอธิบายความสัมพันธ์เชิงเหตุและผลของปรากฏการณ์ต่างๆ
แปลงข้อมูลจากนามธรรมมาเป็นสิ่งที่วัดได้ และสังเกตได้
เป็นการตรวจสอบความถูกต้องของทฤษฎี
จำเป็นต้องสร้างตามกรอบแนวคิดนิยมทำเป็นแผนภูมิ
วิธีดำเนินการวิจัย (Research Methodology)
• การออกแบบการวิจัย
• ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
• เครื่องมือวิจัยและการตรวจสอบคุณภาพ
• การพิทักษ์สิทธิ์กลุ่มตัวอย่างวิจัย
• การรวบรวมข้อมูล
• การวิเคราะห์ข้อมูล
รายการอ้างอิง หรือบรรณานุกรม (Reference and Bibliography)
การอ้างอิงแบบแทรกในเนื้อหา
(ผู้แต่ง,ปีที่พิมพ์,เลขหน้า)
2.ผู้แต่ง (ปีที่พิมพ์,เลขหน้า)
ปีที่พิมพ์ ผู้แต่ง (เลขหน้า)
งบประมาณ (Budget) ๑๓) แผนการดำเนินการวิจัย (Research Plan)
• กิจกรรมในการทำวิจัยใช้ทรัพยากรอะไรบ้าง จำนวนเท่าไหร่ ควรชี้แจงรายละเอียด
• ค่าตอบแทน
• ค่าใช้จ่าย
• ค่าวัสดุ
13.แผนการดำเนินการวิจัย
• เขียนแผนการดำเนินงานตั้งแต่เริ่มแรกจนสิ้นสุดโครงการ
• เขียนเป็น Gantt chart
• กำหนดกิจกรรมต่างในงานวิจัยให้ระบุช่วงเวลา
ความหมายโครงร่างการวิจัย
โครงร่างการวิจัย หมายถึง แบบแปลนที่เขียนขึ้นในการแสวงหาความรู้ โดยแสดงให้เห็น ความสำคัญ และความเป็นไปได้ในการดำเนินการวิจัยให้บรรลุตามจุดมุ่งหมายได้และใช้เป็นแนวทางในการดำเนิน
การวิจัย
วัตถุประสงค์ของการเขียนโครงร่างการวิจัย
เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ ในโครงร่างการวิจัย
เพื่อนำเสนอต่อหน่วยงาน องค์กร สถาบัน บุคคล เพื่อขอรับทุนสนับสนุน
นำเสนอต่อผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิ (reviewer)หรือเพื่อนนักวิจัย (peer reviewer) เพื่อให้ข้อเสนอแนะช่วยเหลือปรับปรุงให้มีความชัดเจน เหมาะสมและดียิ่งขึ้น
เพื่อใช้เป็นแนวทางระหว่างผู้วิจัยและผู้ร่วมวิจัยให้เข้าใจ และดำเนินการวิจัยไปในทิศทางเดียวกันตามที่ระบุในโครงร่างการวิจัย
รายงานการวิจัย
เอกสารที่รายงานการดำเนินการวิจัยและผลการวิจัยที่ค้นพบ และนำมาเรียบเรียงอย่างเป็นระเบียบเรื่องราวที่นำมาเขียนต้องเป็นข้อเท็จจริงเกิดจากการรวบรวมข้อมูลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้า
อย่างเป็นระบบ
วัตถุประสงค์การเขียนรายงานการวิจัย
1.เพื่อเสนอข้อเท็จจริง หรือความรู้ที่เกิดจากการศึกษาค้นคว้าอย่างเป็นระบบ
2.เพื่อพัฒนาความคิด ด้านการคิดริเริ่มการวิเคราะห์ การประมวลความคิดอย่างมีระบบ และถ่ายถอดความคิดเป็นภาษาที่ชัดเจนสละสลวย
3.เพื่อส่งเสริมการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม ในการรวบรวมข้อมูลประกอบการอ้างอิง เป็นวิธีการหาความรู้ด้วยตนเอง
หลักการเขียนรายงานการวิจัย
รูปแบบถูกต้อง
ความเหมาะสมและความถูกต้องด้านภาษา
ความมีจรรยาบรรณของนักวิจัย
• ความซื่อสัตย์และคุณธรรมทางวิชาการ
• เคารพศักดิ์ศรีและสิทธิของกลุ่มตัวอย่าง
• นำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์ในทางที่เหมาะสม
องค์ประกอบที่สำคัญ 3 ส่วน
ส่วนต้น (Preliminary section)
ปกหน้า (Title Page)
หน้าประกาศคุณูปการ (Acknowledgement Page)
บทคัดย่อ (Abstract)
สารบัญ (Table of Contents)
บัญชีตาราง (List of Tables)
บัญชีภาพประกอบ (List of Figures)
ส่วนเนื้อหารายงาน (Body of the report)
บทที่ 1 บทนำ
1.1 ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหา
1.2 วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1.3 สมมติฐานของการวิจัย
1.4 ขอบเขตของการวิจัย
1.5 นิยามศัพท์ที่ใช้ในการวิจัย
1.6 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวของ
เนื้อหาเกี่ยวข้องกับปัญหาการวิจัย แนวคิดและทฤษฏีทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับตัวแปรที่ศึกษา รวมทั้งกรอบแนวคิดการวิจัย
บทที่ 3 การดำเนินการวิจัย
3.1 การออกแบบการวิจับ
3.2 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
3.3 เครื่องมือวิจัยและการตรวจสอบคุณภาพ
3.4 การพิทักษ์สิทธิ์กลุ่มตัวอย่างวิจัย
3.5 การรวบรวมข้อมูล
3.6 การวิเคราะห์ข้อมูล
บทที่ 5 สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
5.1 สรุปย่อสาระสำคัญต่างๆ จากบทที่ 1, 3 และ 4
5.2 สรุปผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์
5.3 อภิปรายผลการวิจัย
5.4 ข้อเสนอแนะการนำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์
5.5 ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป
บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
เป็นการนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล โดยนำเสนอในรูปตาราง หรือกราฟตามความเหมาะสมของสาระที่นำเสนอ โดยมีคำอธิบายประกอบตารางที่นำเสนอ
ส่วนท้าย/อ้างอิง (Referent report)
ภาคผนวก
รายการอ้างอิง/ บรรณานุกรม
ประวัติผู้วิจัย
ความถูกต้องและทันสมัยของเนื้อหา
ความเรียบร้อยของรายงาน
นางสาวญาณิศา มลาชู รหัสนักศึกษา 613101026 เลขที่ 26