Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค - Coggle Diagram
การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค
วัคซีนป้องกัดหัด
Measles vaccine -live :MVV-L
ชนิดของวัคซีน
วัคซีนป้องกันหัดเป็นวัคซีนมีชีวิต สามารถกระตุ้นให้ร่างกาย
สร้างภุมิคุ้มกันในระดับเดียวกับการเป็นโรคเอง
ขนาดและวิธีใช้
ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ขนาดที่แต่ละบริษัทกำหนดเอง
โดยฉีด 2 ครั้ง
อายุที่ควรได้รับวัคซีน
เมื่ออายุ 9-12 เดือน และ 4-6 ปี
ปฎิกิริยาหลังฉีดวัคซีน
อาจมีไข้ระหว่างวันที่ 5-12 หลังจากได้รับวัคซีน
ไข้มักจจะหายไปเองวันที่ 2-5วัน เด็กที่มีประวัติชัดจากไข้สุงอาจชักได้ บางรายอาจมีผื่นพร้อมกับไข้เป็นผื่นแดงคล้ายหัด และหายเองภายใน 2วัน
คำแนะนำ
1.ไม่ควรฉีดวัคซีนนี้แก่หญิงตั้งครรภ์
2.ห้ามให้กับเด็กป่วยที่เป็นวัณโรค
3.เด็กที่เป็นไข้ควรเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปจนกว่าไข้จะลดลง
วัคซีนป้องการหัดเยอรมัน (Rubella virusvaccine - Live)
: RVV-L
ชนิดของวัคซีน
เตรียมจากเชื้อไวรัส rubella มีชีวิต
ที่ทำให้ฤทธิ์อ่อนลง
ขนาดและวิธีการใช้
ฉีดเข้าผิวหนัง ขนาด 0.5 มิลลิลิตร
อายุที่ควรได้รับวัคซีน
ฉีดได้ตั้งแต่อายุ 15 เดือนขึ้นไป
ปฏิกิริยาจากการฉีดวัคซีน
ประมารร้อยละ 2-5 ของผู้รับวัคซีนอาจมีไข้ต่ำๆ ปวดตามข้อ ในวันที่ 8-12 หลังฉีดวัคซีน อาการจะคงอยู่ประมาณ 24 ชั่วโมงแล้วหายไป บางรายอาจมีต่อมน้ำเหลืองบริเวณต้นคอโต และมีผื่นจางๆร่วมด้วย
คำแนะนำ
ห้ามให้วัคซีนนี้แก่ผู้ที่แพ้ neomycin หรืออยู่ในระยะที่เจ็บป่วยอาการรุนแรง มีไข้สูง และห้ามให้ในหญิงตั้งครรภ์
วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน (Measles Mumps and Rubella Vaccine: MMR)
ชนิดของวัคซีน
วัคซีน MMR เป็นวัคซีนมีชีวิตอ่อนฤทธิ์ (live attenuated vaccine) ชนิดผงแห้ง (lyophilized)ซึ่งต้องผสมในน้ำยาละลาย (diluent) ก่อนฉีด
ขนาดและวิธีใช้
ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ขนาด 0.5 มล. บริเวณกึ่งกลางต้นขาด้านหน้าค่อนไปด้านนอก หรือต้นแขน
อายุที่ควรรับวัคซีน
เด็กทุกคนที่แข็งแรงดี ควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมันอย่างน้อย 2 ครั้งกำหนดให้ฉีดครั้งแรกเมื่ออายุ 9-12 เดือน ส่วนเข็มที่สองแนะนำให้ฉีดเมื่ออายุ 2 ปีครึ่ง
ปฏิกิริยาจากวัคซีน
ผลข้างเคียงหลังฉีด MMR วัคซีน ได้แก่ ไข้ พบได้ประมาณร้อยละ 5 มักเกิด 5-12 วันหลังฉีดวัคซีน
และมีไข้นาน 1-2 วัน
คำแนะนำ
การตั้งครรภ์ ในหญิงมีครรภ์ไม่ควรฉีดวัคซีน MMR
การเจ็บป่วยรุนแรงผู้ที่กกำลังมีไข้
วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบชนิดเจอี
(Japanese Encephalitis Vaccine: JE)
ชนิดของวัคซีน
วัคซีนเชือตาย
วัคซีนเชือมีชีวิตอ่อนฤทธ
ขนาดและวิธีใช้
วัคซีน IXIAROTM ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 0.5 มล. 2เข็มห่างกัน 4 สัปดาห์ วัคซีน JEVACTM ฉีดเข้าใต้ผิวหนังหรือฉีดเข้าในกล้ามเนื้อ 0.5 มล. ฉีด 2 เข็มแรกห่างกัน 1-4 สัปดาห์
และฉีดเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มที่ 2 ประมาณ 1 ปีใช้ได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน
อายุที่ควรรับวัคซีน
โดยเริ่มฉีดเข็มแรกที่อายุ 9-12 เดือ และฉีดกระตุ้นเข็มที่ 2 ตามคำแนะนำของวัคซีนชนิดนั้นๆ
ปฏิกิริยาจากวัคซีน
วัคซีน IXIAROTM หลังจากฉีด อาจมีอาการแดง บวม
วัคซีน JEVACTM หลังจากฉีด อาจมีอาการปวดบริเวณที่ฉีดวัคซีน CD.JEVAXTM หลังจากฉีดอาจมีอาการแดง บวม หรือเจ็บบริเวณที่ฉีด
คำแนะนำ
ไม่ควรฉีดวัคซีนนี้ ในกรณีต่อไปนี้
ผู้ป่วยที่มีไข้สูงหรือภาวะเจ็บป่วยเฉียบพลัน
หญิงตั้งครรภ์ 3. กรณีผู้ป่ วยเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ ตับ ไต
วัคซีนป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Haemophilus influenza type B : Hib)
ขนาดและวิธีการใช้
ฉีดเข้ากล้ามเนื้อขนาด 0.5 มิลลิลิตร ส่วนกำหนดการฉีดขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีน
ปฎิกิริยาจากการฉีดวัคซีน
โดยทั่วไปพบว่ามีความปลอดภัยสูง มีปฏิกิริยาเพียงเล็กน้อย เช่น ไข้ ปวด บวมเฉพาะที่
คำแนะนำ
ห้ามฉีดในผู้ที่แพ้ส่วนประกอบของวัคซีนได้แก่ aluminium hydroxide , thimerosal
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ (Influenza vaccine)
ชนิดของวัคซีน
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ มีทั้งชนิดเชื้อตาย
และวัคซีนชนิดเชื้อมีชีวิตอ่อนฤทธิ์
ขนาดและวิธีใช้
วัคซีนชนิดเชื้อไม่มีชีวิต ให้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อในเด็กอายุ 6เดือนขึ้นไปและในผู้ใหญ่
ส่วน subunit vaccine วัคซีนชนิดเชือมีชีวิต ้ บริหารโดยการพ่นจมูกปีละ 1 ครั้ง ในผู้ที่อายุ 2-49 ปี
อายุที่ควรได้รับวัคซีน
แนะนำให้ฉีดแก่บุคคลที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไปี่ไม่มีข้อห้ามในการรับวัคซีน
วัคซีนป้องกันเอชพีวี
(Human Papillomavirus Vaccine)
ชนิดของวัคซีน
วัคซีน HPV ประกอบด้วยโปรตีนที่เปลือกหุ้ม(capsid protein) ชนิด L1 ของเชื้อHPVซึ่งผลิต
โดยวิธีวิศวพันธุศาสตร
ขนาดและวิธีการใช้
ฉีด 1 โด๊ส (0.5 มล.) เข้ากล้ามเนื้อ จำนวน 3 ครั้ง
โดยฉีดเดือนที่ 0, 1-2 และ 6
อายุที่ควรรับวัคซีน
ในผู้หญิงและผู้ชายอายุระหว่าง 9-26 ปี เน้นให้ฉีดในช่วงอายุ 11-12 ปีควรให้วัคซีน
ก่อนเริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก
ปฏิกิริยาจากวัคซีน
ส่วนใหญ่เป็นปฏิกิริยาที่ไม่รุนแรง อาจพบปฏิกิริยาเฉพาะที่ได้แก่ อาการปวด บวมแดงและคันบริเวณที่ฉีด