Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่4, นางสาว ณัฐธกานต์ ศรีสวัสดิ์ รุ่น 36/1 เลขที่ 37 รหัสนักศึกษา…

- - - - ระดับที่ 2 (Second degree burn)
        
        บาดแผลระดับที่ 2 ชนิดตื้น (Superficial partialthickness burns)
        
        บาดแผลที่มีการทำลายของหนัง กำพร้าทั้งชั้นผิวนอกและชั้นในสุด
        
        ยังมีเซลล์ที่สามารถเจริญขึ้นมา ทดแทนส่วนที่ตายได้ จึงหายได้เร็วภายใน 2-3 สัปดาห์ และ มักไม่ทำใหเ้กิดแผลเป็น
        
        บาดแผลระดับที่ 2 ชนิดลึก (Deep partialthickness burns)
        
        บาดแผลชนิดนี้มีโอกาสทำให้เกิดแผลเป็น ได้แตไม่มาก ถ้าไม่มีการติดเชื้อซ้ำเติม โดยแผล มักจะหายไดภ้ายใน 3-6 สัปดาห์
      - ระดับที่ 3 (Third degree burn)
        
        มีการทำลายของหนัง กำพร้าและหนังแท้ทั้งหมด รวมทั้งต่อมเหงื่อ ขุมขน และเซลล์ประสาท และอาจกินลึกถึงชั้น กล้ามเนื้อหรือกระดูก
      - ระดบัที่ 1 (First degree burn)
        
        บาดแผลที่มีการทำลายของ เซลล์หนังกำพร้าชั้นผิวนอกเท่านั้น หนังกำพร้าชั้นในยังไม่ถูกทำลาย
  - - - ทำให้ร่างกายสุญเสีย โปรตีน และเกลือแร่ ถึงกับเกิด ภาวะช็อกได้ และอาจมีโอกาสติดเชื้อ
  - - - ไฟ
        
        เตาไฟ ตะเกียง พลุ ประทดัด บุหรี่
      - วัตถุที่ร้อน
        
        เตารีด จานชามที่ใส่ของ ร้อน
      - น้ำร้อน
        
        กระติกน้ำ กาน้ำ ไอน้ำ หม้อน้ำ
    - - ไฟฟ้กช๊อต
    - - กรด ด่าง
    - - แสงแดด (แสงอัลตราไวโอเลต), รงังสี โคบอลต์, รังสีเรเดยีม, รังสีนิวเคลยีร์, ระเบิด ปรมาณู
  - - - นิยมใช้ กันมากที่สุดคือ 1% ซิลเวอร์ซัลฟาไดอะซีน (Silver sulfadiazine) เพราะมีฤทธิ์กว้าง-ภาวะแทรกซ้อนใน ระยะ 2-3 วันแรก คือ ภาวะขาดน้ำและช็อก
    - - บาดแผลมีขนาดกว้างก็ จะมีโอกาสติดเชื้อรุนแรง และโดยทั่วไป
        
        บาดแผลระดับที่ 2 ที่มีขนาดมากกว่า 30%
        
        บาดแผลระดับที่ 3 ที่มีขนาดมากกว่า 10% ถือเป็น บาดแผลรุนแรง
    - - แนะนำให้ใส่ผ้ายืด (Pressure garment) เพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็น นูนหนา
      - Hypertrophic scar บรเิวณ ข้อต่อต่าง ๆ ของร่างกาย
        
        ข้อมือ นิ้วมือ
        
        ข้อพับแขน ข้อศอก ข้อเท้า
        
        คอ ไหล่ ที่มีแผลค่อนข้างลึก ซึ่งอาจทำให้เกิด แผลเป็นดึงรั้ง
- - - - 3.พลิกเด็กให้หงายบนแขนอีกข้าง จึงวางบนหน้าตัก โดยให้ศีรษะอยู่ต ่าเช่นกันแล้วกดหน้าอกโดยใช้2นิ้วของผู้ช่วย กดบนกระดูกหน้าอกในต่ำแหน่งที่กว่าเสั้นลาก ระหว่างหัวนม ทั้งสองข้างลงมา หนึ่งความกว้างนิ้วมือ
      - 4.ทำซ้ำจนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะหลุดออกมา
      - เคาะหลัง 5ครั้งติดต่อกันโดยเคาะแถวๆกึ่งกลางระหว่าง กระดูกสะบักทั้งสองข้าง
      - 1.วางเด็กคว่ำลงบนแขน และวางแขนนั้นลงบนหน้าตัก โดย ให้ศีรษะของเด็กอยู่ต่ำ
      - 5.หากเด็กหมดสติให้ทำการประเมนิการหายใจ การเต้นชีพจรและให้การช่วยยเหลือการหายใจสลับกับการเคาะหลัง และ กดหน้าอก
    - - 3.กดซ้ำจนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะหลุดออกมา
      - หากเด็กหมดสติให้ประเมินการหายใจ การเต้นของชีพจรและให้การช่วยเหลือการหายใจสลับกับการกดท้อง
      - 5.การกดท้องในเด็กหมดสติทำโดยใหเ้ดก็อยู่ในท่านอน ราบ ผู้ช่วยนั่งคร่อมตัวเด็ก วางสันมือบนท้องเด็กตำแหน่งสูง กว่าสะดือเด็ก กดในทิศทางเข้าด้านในและเฉียงขึ้น กด 5ครั้ง แล้วเปิดปากสำรวจดูว่ามีสิ่งแปลกปลอมหลุดออกมาหรือไม่ กึ่งกลางท้องเด็ก
      - ถ้าเด็กไม่สามารถพูด หรือมีอาการหนักอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น หายใจลำบาก ซีด เขียว ให้ทำการกดท้อง โดยผู้ช่วยยืน ด้านหลังเด็ก แล้วอ้อมแขนมาด้านหน้า กำมือเป็นกำปั้นและ วางกำปั้นด้านข้าง(ด้านหัวแม่มือ)บนกึ่งกลางหน้าท้องเหนือ สะดือเด็ก กดโดยให้แรงมีทิศทางเข้าด้านใน และเฉียงขึ้นบน
      - กระตุ้นให้เด็กไอเอง
  - - - ต่ำแหน่งกึ่งกลางท่นล่างกระดูกหน้าอก
      - ลึก5ซม. กดโดยใช้มือข้างเดียว อีกข้างให้เปิดทางเดินหายใจ
      - 100-120 ครั้ง/นาที
    - - ต่ำแหน่งกึ่งกลางท่นล่างกระดูกหน้าอก
      - ลึก4ซม. กดโดยใช้นิ้วมือสองนิ้วมืออีกข้างให้ทำการเปิดทางเดินหายใจ
      - 100-120 ครั้ง/นาที
    - - 100-120 ครั้ง/นาที
      - ต่ำแหน่งกึ่งกลางท่นล่างกระดูกหน้าอก
      - ลึก5-6ซม. กดโดยใช้2มือ
- - - - นำส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการล้างท้อง
      - ทำให้ผู้ป่วยอาเจียน เพื่อเอาสารพิษออกจากกระเพาะอาหาร
      - ทำให้สารพิษเจือจาง กืนนม
    - - อาการและอาการแสดง ของผู้ที่ได้รับ ยาพาราเซตามอล ยานี้จะถูกดูดซึมเร็วมาก โดยเฉพาะในรูปของ สารละลาย ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ง่วงซึม เหงื่อออกมาก
      - อาการและอาการแสดง ของผู้ที่ได้รับ ยาแอสไพริน หูอื้อ เหมือนมีเสียงกระดิ่งในในหู การได้ยินลดลง
      - การปฐมพยาบาล
        
        ทำให้สารพิษเจือจาง
        
        ทำให้อาเจียน
        
        ให้สารดูดซับสารพิษ ที่อาจหลงเหลือในระบบทางเดินอาหาร
    - - ก๊าซที่ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน เกิดอาการ วิงเวียน หน้ามืด เป็นลมหมดสติ ถึงแกค่วามตายได้
        
        คารบ์อนไดออกไซด
        
        ไฮโดรเจน
        
        คารบ์อนมอนนอกไซด์
        
        ไนโตรเจน
      - ก๊าซที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ คอ หลอดลม และปอด ถ้าได้รับัในปริมาณมากอาจทำให้ตายได้
      - ก๊าซที่ทำให้อันตรายทั่วร่างกาย ได้แก่ ก๊าซอารซ์นี ไม่มี สีกลิ่นคล้ายกระเทียม
      - การปฐมพยาบาล
        
        กลั้นหายใจและรีบเปิดประตูหน้าต่าง ๆ เพื่อให้อากาศถ่ายเท มีอากาศบริสุทธิ์ เข้า มาในหอ้ง
        
        นำผู้ป่วย ออกจากบริเวณที่เกิดเหตุไปยังที่ มีอากาศบริสุทธิ์
        
        ประเมินการหายใจและการเต้นของหัวใจ ถ้าไม่หายใจให้ผายปอดและนวดหัวใจ นำส่งโรงพยาบาล
    - - ได้แก่
        
        น้ำมันก๊าด เบนซิน ยาฆ่าแมลงชนิดน้ำมัน
      - การปฐมพยาบาล
        
        รีบนำส่งโรงพยาบาล
        
        ห้ามทำให้อาเจียน
        
        ระหวา่งนำส่งโรงพยาบาล ถ้าผู้ป่วยอาเจียนให้จัดศีรษะต่ำเพื่อป้องกันการสำลักน้ำมันเข้าปอด
    - - อาการและอาการแสดง
        
        ไหม้พอง ร้อนบเริเวณริมฝีปาก ปาก ลำคอและท้อง
      - การปฐมพยาบาล
        
        อย่าทำให้อาาเจียน
        
        ถ้าารู้สึกตัวดีให้ดื่มนม
    - - อย่าใช้ยาแก้พิษทางเคมี เพราะความร้อนที่ เกิดจากปฏิกิริยาอาจทำให้เกิดอันตรายมาก ขึ้น
      - ล้างด้วยน้ำสะอาดนาน ๆอย่างน้อย ๑๕ นาที
      - ปิดแผล แล้วนำส่งโรงพยาบาล
      - บรรเทาอาการปวดและรักษาช็อค
    - - ปิดตา แล้วนำส่งโรงพยาบาล
      - อย่าใช้ยาแก้พิษทางเคมี เพราะความร้อน ที่เกิดจากปฏิกิริยาอาจทำให้เกิดอันตราย มากขึ้น
      - ล้างตาด้วยน้ำนาน ๑๕ นาที่ โดยการเปิด น้ำก๊อกไหลรินค่อย ๆ
      - บรรเทาอาการปวดและรักษาช็อค
- - - - น้ำเค็ม(Hypertonic solution)
        
        ทำให้เกิดภาวะ pulmonary edema ปริมาตรน้ำที่ไหลเวียนใน ร่างงกายลดลง
        
        เกิดภาวะ hypovolemia ระดับเกลือ แร่ในร่างกายสูงขึ้น
    - - น้ำจืด (Hypotonic solution)
        
        ซึมผ่านเข้าสู่ระะบบ ไหลเวียนโลหิตของปอดอย่างรวดเร็ว
        
        เกิด hypervolemia ทำให้ระดับเกลือแรในเลือดลดลง
    - - การปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ไม่ถูกหลัก
        
        อุ้มเด็กพาด บ่าแล้วเขย่ากระทุ้งบริเวณหน้าท้อง หวังให้น้ำ ที่เด็กสำลักเข้าไปออกมาจากร่างกาย
      - วิธีช่วยเด็กจมน้ำที่ดีที่สุด
        
        เด็กรู้สึกตัว
        
        ให้รีบเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า
        
        ใช้ผ้าคลุมตัวเพื่อ ทำใหเ้กิดความอบอนุ่
        
        จัดให้นอนในท่าตะแคง กึ่งคว่ำ แล้วนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
        
        เด็กหมดสติ
        
        เช็กว่ายังมีลม หายใจอยู่ไหม หัวใจเต้นหรือปล่า
        
        ถ้าไม่ให้ โทร. เรยีกหน่วยรถพยาบาลหรือหน่วยกู้ภัย โดยด่วน