Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หญิงตั้งครรภที่เป็นโรคเบาหวาน - Coggle Diagram
หญิงตั้งครรภที่เป็นโรคเบาหวาน
การวินิจฉัย
1.การซักประวัติ
อาการของโรคเบาหวาน เช่น ปัสสาวะบ่าย หิวน้ำบ่อย น้ำหนักตัวลด,ประวัติเคยเป็นเบาหวานมาก่อน,ประวัติครอบครัว
2.การตรวจร่างกาย
รูปร่างอ้วน มีน้ำหนักตัวเกิน,ตรวจครรภ์พบครรภ์ใหญ่กว่ปกติ
3.การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ตรวจพบน้ำตาลในปัสสาวะ,การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด
การพยาบาล
ระยะหลังคลอด
1.ในรายที่เป็น overt DM จำเป็นต้องเน้นการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
2.การคุมกำเนิด หลีกเลี่ยงยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีเอสเตอโรนอย่างเดียว
3.การเลี้ยงลูกด้วยนมมารดา สามารถให้ได้แต่ควรให้มารดารับประทานอาหารเพิ่มอีกประมาณ 400 กิโลแคลอรี่
ระยะคลอด
1.ระยะเวลาคลอดที่ดีที่สุดคือครรภ์ใหล้ครบกำหนด ในรายที่ควบคุมเบาหวานได้ดีควรทำคลอดเมื่ออายุครรภ์ครบ 38 สัปดาห์
2.ในกรณีที่มีการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด อาจพิจารณายับยั้งการเจ็บครรภ์คลอดทั่วไป และหลีกเลี่ยงการให้ beta-sympathomimatic
3.ในรายที่ผลการตรวจสุขภาพทารกในครรภ์บ่งบอกว่าทารกอยู่ในภาวะอันตราย ควรให้คลอดทันที
4.ควบคุมน้ำตาลในระยะคลอด ทั้งการคลอดทางช่องคลอดหรือผ่าคลอด มารดาได้รับน้ำและน้ำตาลอย่างเพียงพอ
ระยะตั้งครรภ์
1.ตรวจหาภาวะเบาหวานในระยะตั้งครรภ์ เช่น
ประเมินอาการและอาการแสดง และดูแลให้ได้รับการตรวจคัดกรอง
เบาหวาน
2.การปฎิบัติตัวเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในระยะตั้งครรภ์ เช่น
ควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัด
สาเหตุ
เบาหวานขณะตั้งครรภ์อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในระหว่างที่ตั้งครรภ์ ทำให้หญิงตั้งครรภ์บางรายเกิดภาวะร่างกายต่อต้านอินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญที่ผลิตขึ้นจากเซลล์ในตับอ่อนและทำให้ร่างกายเผาผลาญกลูโคสเป็นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากร่างกายมีระดับอินซูลินต่ำหรือร่างกายดื้อต่ออินซูลิน จะส่งผลให้ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ
ผลกระทบ
ผลของโรคเบาหวานต่อการตั้งครรภ์และการคลอด
1.การแท้ง โดยทั่วไปแล้วไม่เพิ่มขึ้น ยกเว้นในรายที่เป็นเบาหวานและมีความผิดปกติของหลอดเลือดที่มาเลี้ยงอุ้งเชิงกรานหรือในรายที่ควบคุมน้ำตาลในเลือดไม่ดี
ภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ พบอุบัติการณ์เพิ่มขึ้นประมาณ 2-4 เท่าโดยเฉพาะในรายที่มีความผิดปกติของหลอดเลือดและไต
3.ครรภ์แฝดน้ำ พบได้ประมาณร้อยละ 18 ของหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นเบาหวาน
4.การติดเชื้อง่าย โดยการติดเชื้อเฉพาะในทางเดินปัสสาวะ
5.การคลอดก่อนกำหนด
6.การคลอดยากและการบาดเจ็บต่อช่องทางคลอด เนื่องจากทารกตัวโตกว่า
7.การตกเลือดหลังคลอด พบได้มากขึ้นเนื่องจากทารกตัวโตกว่าปกติและครรภืแฝดน้ำ
8.อัตราการตายของมารดาเพิ่มขึ้นจากภาวะแทรกซ้อนของเบาหวาน
ผลของโรคเบาหวานต่อทารกในครรภ์และทารกแรกคลอด
การตายของทารกในครรภ์สูงกว่าปกติ 3-8 เท่าของครรภ์ปกติ
การตายของทารกหลังคลอดสูงขึ้น 7 เท่าจากภาวะ (RDS hypoglycemia, hypocalcemia, hyperbilirubinemia และการติดเชื้อ
ความพิการแต่กำเนิด (Congenital defect)
ทารกตัวโตกว่าปกติ (macrosomia) เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้นของมารดา
ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์ (IUGR) พบได้น้อยว่าทารกตัวโตมากกว่าปกติมักเกิดในรายที่มารดามีความผิดปกติของหลอดเลือดจากเบาหวานท
อัตราการเกิด RDS สูงขึ้น 5-6 เท่าจากพัฒนาการของปอดล่าช้า
อาการ
รู้สึกหิว
กระหายน้ำมากกว่าปกติ
ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ
รู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลีย