Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ทารกในครรภ์อยู่ในภาวะคับขัน (fetal distress), ภาวะฉุกเฉินทางสูติศาสตร์,…
ทารกในครรภ์อยู่ในภาวะคับขัน
(fetal distress)
ความหมาย
ทารกในครรภ์ที่อยู่ในภาวะอันตราย
หากไม่ได้รับการช่วยเหลือที่ทันเวลาอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
สาเหตุ
แบ่งเป็น 2 สาเหตุ
Umbilical cord compression
เป็นสาเหตุของการเกิด fetal distress ที่พบบ่อยที่สุด
พบในรายที่มีภาวะน้ำคร่ำน้อย หรือสายสะดือพลัดต่ำ
ภาวะที่สายสะดือถูกกดขณะมดลูกมีการหดรัดตัว
ทารกในครรภ์ขาดออกซิเจน
Uteroplacental insufficiency
การไหลเวียนเลือดไปสู่รกไม่เพียงพอ
ทารกในครรภ์ขาดออกซิเจน
สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะ uteroplacental insufficiency
Uterine hyperactivity
ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด
การได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
Maternal hypotension
ภาวะตกเลือด
supine position
sympathetic paralysis ที่เกิดจากการได้รับยาระงับความรู้สึก
Placenta dysfunction
หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง
การตั้งครรภ์เกินกำหนด
การสูบบุหรี่ในขณะตั้งครรภ์
อาการและอาการแสดง
Abnormal FHR pattern
น้อยกว่า 110 คร้ัง/นาที หรือมากกว่า 160 คร้ัง/นาที ร่วมกับอาการผิดปกติอื่นๆ
หรือมีรูปแบบการเต้นของหัวใจแบบ late deceleration หรือ variable deceleration
Meconium stained of amniotic fluid
ลักษณะขี้เทาปนในน้ำคร่ำแบ่งความรุนแรงได้ 3 ลักษณะ
ขี้เทาปนในน้ำคร่ำปานกลาง (moderate meconium stained) น้ำคร่ำจะมีสีเขียวปนเหลือง
ขี้เทาปนในน้ำคร่ำมาก (thick meconium stained) น้ำคร่ำจะมีสีเขียวคล้ำและข้น
ขี้เทาปนในน้ำคร่ำเล็กน้อย (thin/mild meconium stained) น้ำคร่ำจะมีสีเหลือง
ทารกดิ้นน้อยลง
ทารกมีภาวะเลือดเป็นกรด
การประเมินและวินิจฉัย
ซักประวัติ
การดิ้นของทารก การแตกของถุงน้ำคร่ำ ลักษณะสี ปริมาณของน้ำคร่ำ
ตรวจร่างกาย
ตรวจครรภ์ >>> พบเสียงหัวใจทารก เร็วหรือช้ากว่าปกติ
หากบันทึกอัตราการเต้นของหัวใจทารกด้วย electronic fetal monitoring >>> พบรูปแบบการเต้นของ
หัวใจทารกแบบ late deceleration หรือ variable deceleration ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของภาวะขาดออกซิเจน
หากทารกได้รับการช่วยเหลือไม่ทัน ทารกอาจเสียชีวิต >>> ไม่ได้ยินเสียงหัวใจของทารก
การตรวจทางห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษ
การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง > การทำ Doppler ultrasound : วัดอตัราการไหลเวียนของเลือดที่มดลูกและรก
การประเมินสุขภาพของทารกในครรภ์ด้วยการทำ non-stress test (NST), contraction stress test (CST) หรือ oxytocin challenge test (OCT) และ biophysical profile (BPP)
การเจาะเลือดทารก (scalp blood sampling): วินิจฉัยภาวะเลือดเป็นกรด
การประเมินอัตราการเต้นของหัวใจทารกด้วยเครื่อง electronic fetal monitoring สามารถจำแนกความเสี่ยงตาม FHR pattern
Normal FHR pattern คือ FHR 110-160 bpm มี minimal (<5 bpm) to moderate (6-25 bpm) variability และมี/ไม่มี acceleration
Fetal stress หมายถึง FHR ที่บ่งชี้ว่าผิดปกติ แต่ยังไม่ถือว่ารุนแรงจนเกิด fetal distress จะพบ tachycardia (FHR > 160 bpm),
moderate to severe variable deceleration หรือ late deceleration และมี minimal to moderate variability หรือมี sinusoidal FHR pattern
Fetal distress คือ มี moderate to severe variable deceleration หรือ late deceleration และไม่มี variability หรือพบ bradycardia (FHR < 110 bpm)
Reassuring variable deceleration คือ พบ FHR deceleration แต่สามารถกลับเข้าสู่ baseline ได้อย่างรวดเร็ว และ baseline ของ FHR ไม่เพิ่มขึ้น baseline FHR variability ไม่ลดลง
Non-reassuring variable deceleration คือ มีภาวะ fetal stress ร่วมกับ fetal distress จะพบ tachycardia หรือ bradycardia,
variable deceleration หรือ late deceleration ลดลง หรือหายไป
การวินิจฉัย fetal distress ที่แน่นอน ควรได้จาก scalp blood pH
ในทางปฏิบัติมีเพียงน้อยรายที่จำเป็นต้องตรวจ
ส่วนใหญ่วินิจฉัยทางอ้อมจาก FHR pattern
เมื่อผล electronic fetal monitoring ปกติ >>> ถือว่าทารกอยู่ในสภาพปกติสมบูรณ์
สามารถทนการคลอดได้อย่างปลอดภัยในขณะนั้น แต่ต้องเฝ้าสังเกตต่อไป
การพยาบาล
การป้องกันทารกในครรภ์อยู่ในภาวะคับขัน
ระยะคลอด: ดูแลให้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ และจัดท่านอนศีรษะสูง
ดูแลให้ได้รับสารละลายทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษา
แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์มาตรวจตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
ประเมินและบันทึกการหดรัดตัวของมดลูกและเสียงหัวใจทารกในครรภ์
แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์สังเกตอาการผิดปกติ (fetal distress) ที่ต้องพบแพทย์ทันที
ดูแลการได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกตามแผนการรักษา
แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์สังเกต และนับการดิ้นของทารก
รายที่มีการแตกของถุงน้ำคร่ำ
ประเมินลักษณะน้ำคร่ำ
ตรวจภายใน
ประเมินเสียงหัวใจทารกทันที เพื่อประเมินภาวะสายสะดือ
พลัดต่ำหรือภาวะขาดออกซิเจนของทารกในครรภ์
ให้นอนพักบนเตียงในรายที่ส่วนนำยังไม่เข้าสู่ช่องเชิงกราน
ประเมินและวินิจฉัยความเสี่ยง
ดูแลให้การคลอดดำเนินไปตามปกติ และป้องกันการคลอดล่าช้า:
กระตุ้นให้ปัสสาวะ จัดท่า Upright position เปลี่ยนท่าบ่อยๆ สอนการเบ่งคลอดอย่างถูกต้อง
การพยาบาลเมื่อทารกในครรภ์อยู่ในภาวะคับขัน
หยุดยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
เตรียมทำ amnioinfusion และช่วยเหลือแพทย์ในการทำหัตถการ
ดูแลให้ออกซิเจนและสารละลายทางหลอดเลือดดำ >>> FHS ผิดปกติ หรือ meconium
เตรียมช่วยคลอดด้วยสูติศาสตร์หัตถการหรือการผ่าตัดคลอด
ประเมินและบันทึกเสียงหัวใจทารกอย่างต่อเนื่องด้วย electronic fetal monitoring
รายงานกุมารแพทย์ และเตรียมอุปกรณ์ช่วยฟื้นคืนชีพทารกให้พร้อมใช้
จัดให้นอนตะแคงซ้าย
อธิบายภาวะที่เกิดขึ้น ภาวะแทรกซ้อนและแผนการรักษา
การรักษา
การทำ intrauterine resuscitation หรือ conservative management
หยุดให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
ให้สารละลายทางหลอดเลือดดำ
ให้ออกซิเจน nasal cannula 4 lit/min หรือ O2 mask with bag 8-10 lit/min
การเติมน้ำในโพรงมดลูก (amnioinfusion)
จัดท่านอนตะแคงซ้าย
ระยะคลอด พิจารณาช่วยคลอดด้วยสูติศาสตร์หัตถการ เช่น ใช้คีมหรือเครื่องดูดสุญญากาศ
การให้ทารกคลอดโดยเร็วที่สุด
ทารกที่มี abnormal FHR pattern อาจกลับมามี normal FHR pattern ได้ ในภายหลังควรให้
การรักษาโดยการทำ intrauterine resuscitation ช่วยส่งเสริมการไหลเวยีนเลือดไปเลี้ยงรก และทารก
ผลกระทบต่อภาวะสุขภาพ
ไม่มีผลต่อร่างกายโดยตรง แต่จะมีผลด้านจิตใจทำให้เกดิความกลัวหรือวิตกกังวล เกี่ยวกับภาวะสุขภาพทารกในครรภ์
อาจทำให้เกิดภาวะทุพลภาพอย่างถาวรหรือรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต
พยาธิสรีรภาพ
สายสะดือถูกกด / การไหลเวียนเลือดไปสู่รกไม่เพียงพอ
ทารกในครรภ์ขาดออกซิเจน
ร่างกายทารกจะตอบสนองโดยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ
เพื่อให้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง และเซลล์ ของอวัยวะสำคัญในร่างกายอย่างเพยีงพอ
ขาดออกซิเจนยืดเยื้อเป็นเวลานาน
ทารกจะมีการเผาผลาญแบบไม่ใช้ออกซิเจน
เกิดภาวะกรดคั่งในร่างกาย
aortic chemoreceptor ถูกกระตุ้น
1 more item...
หากไม่ได้รับการแก้ไข >>> การไหลเวียนเลือดจะช้าลง + หัวใจเต้นช้าลงหรือหยุดเต้น
เสียชีวิต
ภาวะขาดออกซิเจนกระตุ้น vagal reflex
เพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้ และกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักเกิดการคลายตัว
ทารกถ่ายขี้เทาออกมา
ระดับความมั่นใจในภาวะสุขภาพทารก
กลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มที่ให้ความมั่นใจสูงว่าปกติ
FHR ปกติสัมพันธ์กับสภาวะกรดด่างที่ปกติ ประกอบด้วย
ไม่พบ Late or variable deceleration
Early deceleration (มีหรือไม่มีก็ได้)
Baseline FHR variability: moderate
Acceleration (มีหรือไม่มีก็ได้)
Baseline rate: 110-160 bpm
กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่ม non-reassuring ที่ต้องติดตามใกล้ชิด
ทำนายสภาวะกรดด่างได้ไม่ดีนัก
ประกอบด้วยลักษณะที่ไม่เข้ากับกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 3
FHR ก้ำกึ่ง (intermediate)
กลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่ม non-reassuring ที่ต้องแก้ไขโดยด่วน เพราะใกล้เคยีง fetal distress มากที่สุด
FHR ผิดปกติสัมพันธ์กับสภาวะกรดด่างที่ผิดปกติ ต้องแก้ไขโดยรีบด่วน
ไม่พบ baseline FHR variability และภาวะดังต่อไปนี้
Recurrent late decelerations
Recurrent variable decelerations
Bradycardia
Sinusoidal pattern
ภาวะฉุกเฉินทางสูติศาสตร์
นางสาวเกตน์นิภา เกทะโล
รหัส 603901003 เลขที่ 2
นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3