Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พระราชบัญญัติการประกอบอาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ - Coggle Diagram
พระราชบัญญัติการประกอบอาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
หมวด ๕ การควบคุมการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
มาตรา ๒๗ ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล หรือมิไดเ้ป็นผู้ประกอบ วิชาชีพการ ผดุงครรภ์ หรือมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ กระทำการพยาบาล หรือการ ผดุงครรภ์ หรือแสดงด้วยวิธีใด ๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าว โดย มิได้ข้ึนทะ เบียนและรับใบอนุญาต เว้นแต่ในกรณีอย่างใดอย่างหน่ึง ดังต่อไปน้ี
๑) การพยาบาลหรือการผดุงครรภ์ที่กระทำต่อตนเอง
(๒) การช่วยเหลือหรือเยียวยาแก่ผู้ป่วยตามหน้าที่ตามกฎหมายหรือตามธรรมจรรยาโดยมิได้ รับ ประโยชน์ตอบแทน แต่การกระทำดังกล่าวต้องมิใช่เป็นการฉีดยาหรือสารใด ๆ เข้าไปในร่างกายของผู้ ป่วยหรือการให้ยาอันตราย ยาควบคุมพิเศษ วัตถุออกฤทธ์ิต่อจิตและประสาทหรือยาเสพติดให้โทษ ตาม กฎหมายว่าด้วยการน้ัน
(๓)นักเรียนนักศึกษาหรือผู้รับการฝึกอบรมในความควบคุมของสถาบันการศึกษาวิชาการ พยาบาลหรือ การผดุงครรภ์ของรัฐ หรือที่ได้รับใบอนุญาตจากทางราชการให้จัดตั้งหรือสถาบันการศึกษาที่คณะ กรรมการรับรองทั้งนี้ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ผู้ฝึกหัดหรือผู้ให้การฝึกอบรมซึ่งเป็นผปู้ระกอบวิชาชีพ การพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
(๔) บุคคลซึ่งกระทรวง ทบวง กรม กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล สุขาภิบาล องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นอื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือ สภากาชาดไทยมอบหมายให้กระทำการพยาบาลหรือการผดุงครรภ์ ในความควบคุมของเจ้าหน้าท่ีซึ่ง เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ตามระเบียบที่ รัฐมนตรีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
(๕) ผู้ประกอบโรคศิลปะ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ตามข้อจำกัดและเงื่อนไข ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบวิชาชีพน้ัน
(๖) การพยาบาลหรือการผดุงครรภข์องที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญของทางราชการหรือผู้สอน ในสถาบัน การศึกษา ซึ่งมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาล และการ ผดุงครรภ์ของต่างประเทศ ทั้งนี้ให้เป็นไปตามข้อบังคับของสภาการพยาบาล
(๗) บุคคลซึ่งปฏิบัติงานเก่ียวกับการพยาบาลหรือการผดุงครรภ์ เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็น ผู้ ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ในกรณีที่มีสาธารณภัย หรือเกิดภัยพิบัติอย่างร้ายแรง
(๘) บุคคลซึ่งช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยในสถานพยาบาลในความควบคุมของผู้ประกอบวิชาชีพ การพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ตามระเบียบซึ่งรัฐมนตรีกำหนด โดย ประกาศในราช กิจจานุเบกษา
มาตรา ๓๐ ผู้มีสิทธิข้ึนทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพตามมาตรา ๒๙ ต้องมีความรู้ดังน้ี คือ
(๑) ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์หรือผู้ประกอบวิชาชีพ การพยาบาล และการผดุงครรภ์ ช้ันหน่ึง ต้อง
(ก) ได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาในสาขาการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ จากสถาบันการศึกษาใน ประเทศไทยที่คณะกรรมการรับรอง และสอบความรู้แล้ว หรือ
(ข) ได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาในสาขาการพยาบาล การ ผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ จากสถาบันการศึกษาในต่างประเทศ และได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพในประเทศที่ตนได้รับปริญญาหรือ ประกาศนียบัตร ซึ่งคณะกรรมการได้ตรวจสอบหลักฐานการศึกษาและสอบความรู้แล้ว แต่ถ้าเป็นผู้ทีมีสัญชาติไทยไม่ต้องเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพใน ประเทศที่ผู้นั้นได้รับปริญญา หรือประกาศนียบัตรก็ได้
(ข) ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์หรือผู้ประกอบวิชาชีพ การพยาบาล และการผดุงครรภ์ ช้ันสอง ต้อง
(ก) ได้รับประกาศนียบตัรในสาขาการพยาบาลการผดุงครรภ์หรือการพยาบาลและ การ ผดุงครรภ์ ระดบั ตน้ จากสถาบนั การศึกษาในประเทศไทยที่คณะกรรมการ รับรองและสอบความรู้แล้ว หรื อ
(ข) ได้รับประกาศนียบัตรในสาขาการพยาบาลการผดุงครรภ์หรือการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ จากสถาบันการศึกษาในต่างประเทศและได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ ประกอบวิชาชีพในประเทศท่ีตนได้รับประกาศนียบัตรซึ่งคณะกรรมการได้ตรวจสอบ หลักฐานการศึกษาและสอบความรู้แล้วแต่ถ้าเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทยไม่ต้องเป็นผู้ได้รับ อนุญาตให้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพในประเทศที่ผู้น้ันได้รับ ประกาศนียบัตรก็ได้
มาตรา ๔๓ ภายใต้บังคับมาตรา ๒๗ ห้ามมิให้ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการ พยาบาลและการผดุงครรภ์ ซึ่งอยู่ในระระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือซึ่งถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพดังกล่าวหรือแสดงด้วยวิธีใด ๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าว นับแต่วันที่ทราบคำสั่งสภาการพยาบาลที่สั่งพักใช้ใบอนุญาต หรือสั่งเพิกถอนใบอนุญาตน้ัน
มาตรา ๔๔ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลการผดุงครรภ์หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ซึ่งอยู่ในระ หว่างถูกส่ังพักใช้ใบอนุญาต ผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนมาตรา ๔๓ และถูกลงโทษจำคุกตาม มาตรา ๔๖ โดยคำ พิพากษาถึงที่สุด ให้คณะกรรมการสั่งเพิกถอนใบอนุญาตของผู้นั้นตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด
มาตรา ๔๕ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลการผดุงครรภ์หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ซึ่ถูกสั่งเพิกถอน ใบอนุญาตอาจขอรับใบอนุญาตอีกได้เมื่อพ้นสองปีนับ แต่วันท่ีถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาต ถ้าคณะกรรมการได้ พิจารณาคำขอรับใบอนุญาตและปฏิเสธการออกใบอนุญาตผู้นั้นจะยื่นคำขอรับใบอนุญาตได้อีกต่อเมื่อสิ้น ระยะเวลาหน่ึงปี นับแต่วันที่คณะกรรมการปฏิเสธการออกใบอนุญาต ถ้าคณะกรรมการปฏิเสธการออกใบ อนุญาตเป็นคร้ังท่ีสองแล้วผู้นั้นเป็นอันหมดสิทธิขอรับใบอนุญาตอีกต่อไป
หมวด ๔ การดำเนินกิจการของคณะกรรมการ
มาตรา ๒๔ การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหน่ึงของจำนวน กรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม มติของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหน่ึงมีเสียงหน่ึงเสียง ในการลงคะแนน ถ้าคะแนน เสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มข้ึนอีกหน่ึงเสียงเป็นเสียงชี้ขาด มติของที่ประชุมในกรณีให้สมาชิกสามัญพ้นจากสมาชิกภาพ เนื่องจากขาดคุณสมบัติตาม มาตรา ๑๑ (ค) (ง) และ (จ) ให้ถือคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการทั้งคณะ การประชุมคณะอนุกรรมการให้นำความในวรรคหน่ึงและวรรคสองมาใช้บังคับโดยอนุโลม
หมวด ๓ คณะกรรมการ
มาตรา ๑๔ ให้มีคณะกรรมการสภาการพยาบาล ประกอบด้วยผู้แทนกระทรวงสาธารณสุขห้าคน ผู้แทนกระทรวงกลาโหมสามคน ผู้แทนกระทรวงมหาดไทยหน่ึงคน ผู้แทนทบวงมหาวิทยาลัยสี่คน ผู้แทนกรุงเทพมหานครหน่ึงคน ผู้แทนสภากาชาดไทยหน่ึงคน นายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย พระบรมราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมาชิกสามัญสภาการพยาบาลอีกสิบหกคน ซึ่งได้รับเลือกตั้งโดยสมาชิกสามัญของสภาการพยาบาล เป็นกรรมการและให้เลขาธิการเป็นกรรมการและ เลขานุการ
มาตรา ๑๘ กรรมการนอกจากปลัดกระทรวงสาธารณสุขและกรรมการที่ปรึกษาต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปน้ี
(๑) เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์หรือ การพยาบาลและการผดุงครรภ์
(๒) ไม่เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
(๓) ไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
มาตรา ๑๙ ให้กรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งและรับเลือกตั้งมีวาระอยู่ในตาแหน่งคราวละสี่ปี และ อาจได้รับแต่งตั้ง หรือรับเลือกตั้งใหม่ได้แต่จะดำรงตาแหน่งเกินสองคราวติดต่อกันไม่ได้
มาตรา ๒๐ นอกจากการพ้น จากตาแหน่งตามวาระ กรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งและรับเลือกตั้งพ้นจากตาแหน่ง เมื่อ
(๑) สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามมาตรา ๑๓
(๒) ขาดคุณสมบัติตามมาตรา๑๘
(๓) ลาออก
มาตรา ๒๒ ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปน้ี
(๑) บริหารกิจการสภาการพยาบาลให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ที่กำหนดตามมาตรา ๗
๒) แต่งต้งัคณะอนุกรรมการจริยธรรม คณะอนุกรรมการ สอบสวนและคณะอนุกรรมการอื่น เพื่อทำกิจการหรือพิจารณาเรื่องต่างๆ อันอยู่ในขอบเขตแห่ง วัตถุประสงค์ของสภาการพยาบาล
๓) ออกข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วย
(ก) การเป็นสมาชิก (ข) การกำหนดโรคตามมาตรา ๑๑ (ค) การกำหนดค่าจดทะเบียนสมาชิกสามัญ ค่าบารุง และค่าธรรมเนียมอื่นนอกจากที่ กำหนดไว้ในอัตราค่าธรรมเนียมท้ายพระราชบัญญัตินี้ (ง) การเลือกและการเลือกตั้งกรรมการ และการแต่งตั้งกรรมการที่ปรึกษาตามมาตรา ๑๗ (จ) หลักเกณฑ์การข้ึนทะเบียนและการออกใบอนุญาต แบบ และประเภทใบอนุญาต (ฉ) หลักเกณฑ์การออกหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรเกี่ยวกับความรู้หรือความชานาญเฉพาะทาง และหนังสือแสดงวุฒิอื่นในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ช) ข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ซ) การรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฌ) การประชุมคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ (ญ) หลักเกณฑ์การรับรองสถาบันการศึกษาวิชาการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฎ) หลักเกณฑ์ว่าด้วยการสอบความรู้ตามอำนาจหน้าที่ของสภาการพยาบาล (ฏ) หลักเกณฑ์ว่าด้วยการสืบสวนหรือสอบสวนในกรณีมีการกล่าวหาหรือกล่าวโทษว่ามี ผู้ประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฐ) เรื่องอื่นๆ ที่อยู่ภายในวัตถุประสงค์ของสภาการพยาบาลหรืออยู่ภายในอำนาจหน้าที่ ของสภาการพยาบาลตามกฎหมายอื่น ข้อบังคับสภาการพยาบาล เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
หมวด ๖ บทกำหนดโทษ
มาตรา ๔๖ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๗ หรือมาตรา ๔๓ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือ ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๔๗ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๑ วรรคสาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหน่ึงพันบาท
มาตรา ๔๘ ผู้ใดไม่มาใหถ้อยคำหรือไม่ส่งเอกสารหรือวัตถุใดๆ ตามที่เรียกหรือแจ้ง ให้ส่งตาม มาตรา ๓๘ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหน่ึงเดือน หรือปรับไม่เกินหน่ึง พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หมวด ๒ สมาชิก
มาตรา ๑๑ สภาการพยาบาลประกอบด้วยสมาชิกสองประเภท คือ
(๑) สมาชิกสามัญได้แก่ ผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปน้ี
ก) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์
(ข) มีความรู้ในวิชาชีพการพยาบาลหรือการผดุงครรภโดยได้รับปริญญา ประกาศนียบัตร เทียบเท่าปริญญา หรือประกาศนียบัตรในสาขาการ พยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ที่สภาการ พยาบาลรับรอง
(ค) ไม่เป็นผู้ประพฤติเสียหาย ซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าจะนำมาซึ่งความ เสื่อมเสีย เกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
(ง) ไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงท่ีสุด หรือคำสั่งที่ชอบด้วย กฎหมายให้จำคุกในคดีที่คณะกรรมการเห็นว่าจะนำมาซึ่งความเสือมเสีย เกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
(จ) ไม่เป็นผู้มีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือไม่เป็นโรคที่กำหนดไว้ในข้อ บังคับสภาการพยาบาล
(
(๒) สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่ง สภาการพยาบาลเชิญให้เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์
มาตรา ๑๒ สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกสามัญมีดังต่อไปน้ี
(๑) ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือ การพยาบาลและ การผดุงครรภ์ และขอหนังสืออนุมัติ หรือวุฒิบัตรเกี่ยวกับความรู้หรือความชำนาญ เฉพาะทางหรือหนังสือแสดง วุฒิอื่นในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ โดยปฏิบัต้ตามข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยการน้ัน
(๒) แสดงความเห็นเป็นหนังสือเกี่ยวกับกิจการของสภาการพยาบาลส่งไปยังคณะกรรมการเพื่อพิจารณาและ ในกรณีที่สมาชิกสามัญร่วมกันตั้งแต่ห้าสิบคนข้ึนไปเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาเรื่องใดท่ีเกี่ยวกับกิจการ ของสภาการพยาบาล คณะกรรมการต้องพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้เสนอ ทราบโดยมิชักช้า
(๓) เลือกตั้งรับเลือกตั้ง หรือรับเลือกเป็นกรรมการ
(๔) ผดุงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพและปฎิบัติตนตามพระราชบัญญัติน้ี
มาตรา ๑๓ สมาชิกภาพของสมาชิกสามัญสิ้นสุดลง เมื่อ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๑๑
หมวด ๑ สภาการพยาบาล
มาตรา ๖ ให้มีสภาการพยาบาล มีวัตถุประสงค์และ อำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติน้ี ให้สภาการพยาบาล เป็นนิติบุคคล
มาตรา ๘ สภาการพยาบาลมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปน้ี
๑) รับข้ึนทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการ พยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
๒)สั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการ พยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
(๓) ให้ความเห็นชอบหลักสูตรการศึกษาวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ในระดับอุดมศึกษาของสถาบันการศึกษาท่ีจะทำการสอนวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ เพื่อเสนอต่อทบวงมหาวิทยาลัย
๔) รับรองหลักสูตรต่างๆ สำหรับการศึกษาในระดับประกาศนียบัตรของสถาบันที่ จะทำการ สอนวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
(๕) รับรองหลักสูตรต่างๆ สำหรับการฝึกอบรมในวิชาชีพการพยาบาลและการ ผดุงครรภ์ของสถาบนัการศึกษาท่ีจะทาการฝึกอบรมในวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์
๖) รับรองวิทยฐานะของสถาบันที่ทำการสอนและฝึกอบรมตาม ( ๔ ) และ ( ๕ )
(๗) รับรองปริญญา ประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญา ประกาศนียบัตรหรือ วุฒิบัตรในวิขาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์ของสถาบันต่างๆ
(๘) ออกหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรเกี่ยวกับความรู้หรือความชำนาญเฉพาะทาง และหนังสือ แสดงวุฒิอื่นในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ให้แก่ผู้ ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
(๙) ดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสภาการพยาบาล
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯใหประกาศว่าโดยท่ีเป็นการสมควรให้มีกฎหมายว่าด้วย วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ตราพระราชบัญญัตข้ึนไวโดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภาดังต่อไปน้ี
มาตรา ๑ พระราชบัญญัติน้ีเรียกว่า “พระราชบัญญัติวิชาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์พ.ศ. ๒๕๒๘ ”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวัน ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ บรรดาบทกฎหมาย กฎ และข้อบังคับอื่นในส่วนที่มี บัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัติน้ี หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับบท แห่งพระราชบัญญัตินี้ให้ใช้พระราชบัญญัติน้ีแทน
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์” หมายความว่า วิชาชีพเก่ียวกับการพยาบาลและ การผดุงครรภ์
“การพยาบาล” หมายความว่า การกระทำต่อมนุษย์เกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือ เมื่อเจ็บป่วย การฟื้นฟูสภาพ การป้องกันโรค และการส่งเสริมสุขภาพ รวมทั้งการช่วย เหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค ทั้งน้ีโดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์และศิลปะการพยาบาล
“การผดุงครรภ์” หมายความว่า การกระทำเกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือหญิง มีครรภ์ หญิงหลังคลอด และทารกแรกเกิด รวมถึงการตรวจ การทำคลอด การส่งเสริม สุขภาพและป้องกัน ความผิดปกติในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลังคลอดรวมทั้ง การช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค ทั้งนี้โดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์และศิลปะ การผดุงครรภ์
“การประกอบวิชาชีพการพยาบาล” หมายความว่า การปฏิบัติหน้าที่การพยาบาลต่อ บุคคล ครอบครัว และชุมชน โดยการกระทำต่อไปน้ี
(๑) การสอน การแนะนา การให้คำปรึกษาและการแก้ปัญหาเกี่ยวกับ สุขภาพอนามัย
(๒) การกระทาต่อร่างกายและจิตใจของบุคคล รวมทั้ง การจัดสภาพ แวดล้อม เพื่อการแกปัญหา ความเจ็บป่วย การบรรเทาอาการของโรค การลุกลามของโรค และการฟื้นฟูสภาพ
(๓) การกระทาตามวิธีที่กาหนดไว้ในการรักษาโรคเบื้องต้น และการให้ ภูมิคุ้มกันโรค
(๔) ช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค
การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์” หมายความว่า การปฏิบัติหน้าที่การผดุงครรภ์ต่อ หญิงมีครรภ์ หญิงหลงั คลอด ทารกแรกเกิดและครอบครัว โดยการกระทาต่อไปน้ี
(๑) การสอน การแนะนำ การให้คำปรึกษาและการแก้ ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย
๒) การกระทำต่อร่างกายและจิตใจของหญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอดและทารกแรกเกิดเพื่อป้องกันความผิด ปกติในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลังคลอด
(๓) การตรวจ การทำคลอด และการวางแผนครอบครัว
๔) ช่วยเหลือแพทย์ กระทำการรักษาโรค
“ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล” หมายความว่า บุคคลซึ่งได้ข้ึนทะเบียนและรับใบ อนุญาต เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลจากสภาการพยาบาล
“ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์” หมายความว่า บุคคลซึ่งได้ข้ึนทะเบียนและรับใบ อนุญาต เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์จากสภาการพยาบาล
“ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์” หมายความว่า บุคคลซึ่งได้ข้ึน ทะเบียน และรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์จากสภา การพยาบาล
ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์” หมายความว่า บุคคลซึ่งได้ข้ึนทะเบียนและรับใบ อนุญาต เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์จากสภาการพยาบาล
“ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์” หมายความว่า บุคคลซึ่งได้ข้ึนทะ เบียน และรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์จากสภาการ พยาบาล
“ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล” หมายความว่า บุคคลซึ่งได้ข้ึนทะเบียนและรับใบ อนุญาต เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลจากสภาการพยาบาล