Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยาระบบทางเดินอาหาร, วิตามิน, ยาบำรุงโลหิต, ยาถ่ายพยาธิ - Coggle Diagram
ยาระบบทางเดินอาหาร
ยาขับลม
Simethicone
รูปแบบ
ยาเดี่ยวชนิดเม็ด ขนาด 40, 80, 120 มิลลิกรัม
ยาเดี่ยวชนิดแคปซูลนิ่ม ขนาด 150 มิลลิกรัม
ยาเดี่ยวชนิดน้ำสำหรับเด็กเล็ก ขนาด 40 มิลลิกรัม/0.6 มิลลิลิตร
ยาผสมชนิดเม็ด ขนาด 25, 30, 40, 50, 60, 100, 500 มิลลิกรัม/เม็ด
ยาผสมชนิดแคปซูล ขนาด 300 มิลลิกรัม
ยาผสมชนิดน้ำ ขนาด 60, 75, 100, 125, 150 มิลลิกรัม/15 มิลลิลิตร
กลไกการออกฤทธิ์
ยาไซเมกิโคนมีกลไกการออกฤทธิ์โดยเป็นสารลดแรงตึงผิว (Tension) ของฟองแก๊ส ทำให้ฟองแก๊สเล็ก ๆ ในกระเพาะอาหารที่รวมตัวกันอยู่ถูกทำลายหรือแตกออกโดยการบีบตัวของกระเพาะ (ทำให้รู้สึกเรอและสบายท้อง) ฟองแสเหล่านั้นจึงถูกขับออกจากทางเดินอาหารได้เร็วยิ่งขึ้น (ชมกิโคนไม่สามารถช่วยลดหรือป้องกันการรวมตัวของแก็สในระบบทางเดินอาหารได้ แต่มันจะช่วยเพิ่มอัตราการระบายออกจากร่างกาย)
ข้อบ่งใช้
ใช้บรรเทาอาการจุกเสียดแน่นท้อง อันเนื่องมาจากแก๊สที่มีปริมาณมากเกินไป ภาวะอาหารไม่ย่อย และจากการมีแก๊สหลังการผ่าตัดกระเพาะหรือลำไส้
ใช้กับผู้ป่วยก่อนทำการตวจอัลตราชาวนดีในช่องท้อง เพื่อลดแสที่อาจไปบดบังภาพของการตรวจอัลตราซาวนด์
ใช้รักษาและบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อันเนื่องมาจากมีแก๊สหรือลมที่เกิดขึ้นในกระเพาะอาหารและลำไส้
ขนาดและวิธีใช้
ผู้ใหญ่
ผู้ใหญ่ ส้าหรับยาเม็ดให้รับประทานโดยการเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนยาครั้งละ 1-2 เม็ด วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร หรือวันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน หรือรับประทานเมื่อมีอาการ (ส้าหรับยาแคปซูลชนิดนิ่ม ห้ามบดหรือเคี้ยว และให้รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 3-4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน)
เด็กอายุมากกว่า 3-6 ขวบ
ให้รับประทานครั้งละ 40 มิลลิกรัม ทุก 6-8 ชั่วโมง พร้อมอาหาร
เด็กทารกถึงเด็กอายุ 3 ขวบ
ให้รับประทานครั้งละ 20 มิลลิกรัม ทุก 6-8 ชั่วโมง พร้อมอาหาร
ผลข้างเคียงของยา
ยังไม่ค่อยพบผลข้างเคียงจากการใช้ยานี้ หากใช้ยาตามขนาดที่ก้าหนด แต่หากหลังรับประทานไปแล้วมีอาการแพ้ เช่น ผื่นคัน หายใจติดขัด/หายใจล้าบาก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาทันที
ชื่อทางการค้า
อเบลลา (Abella)
แอดแม็ก (Admag),
แอร์-เอ็กซ์ (Air-X),
Mixt. Carminative
รูปแบบ
ยาน้้าส้าหรับรับประทาน
กลไกการออกฤทธิ์
มาจากสารส้าคัญในสูตรต้ารับยาที่มีฤทธิ์กระตุ้นขับลม ท้าให้มีการหลั่งน้้าลายเพิ่มขึ้น เพิ่มการเคลื่อนตัวของกระเพาะอาหาร ล้าไส้ให้ดีขึ้น
ข้อบ่งใช้
ยาขับลมแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยลดแก๊สในกระเพาะอาหาร โดยมีส่วนประกอบของ Capsicum
tincture, Compound cardamom tincture, Strong ginger tincture และ Camphor สูตรต้ารับจะเป็นลักษณะยาน้้าชนิดรับประทาน แต่ไม่นิยมใช้กับเด็กด้วยเหตุผลจากอาการข้างเคียงและรสชาติของยา
ขนาดและวิธีการใช้
ผู้ใหญ่: รับประทานครั้งละ 15 - 30 มิลลิลิตรวันละ 3 - 4 ครั้ง
เด็ก: ไม่ควรใช้ยานี้แต่อย่างไรก็ตามขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีไป
ฤทธิ์ข้างเคียงและอาการที่ไม่พึงประสงค์
ระคายเคืองในทางเดินอาหาร ท้าให้มีเหงื่อออกมาก หน้าแดง แสบร้อนกลางอก ระคายเคืองในช่องปาก การ
รับประทานยานี้มากเกินไปอาจส่งผลกระทบถึงการท้างานของตับและของไต มีภาวะหายใจล้าบากหรือกระตุ้นให้เกิดภาวะชักได้
ข้อควรระวัง
ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
ห้ามใช้ยานี้กับสตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร และเด็ก โดยไม่มีค้าสั่งจากแพทย์ผู้รักษา
หากพบอาการผิดปกติหลังใช้ยานี้เช่น อึดอัดหายใจไม่ออก/หายใจล้าบาก หรือมีผื่นคันขึ้นตามร่างกาย ให้ หยุดการใช้ยานี้แล้วรีบไปพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน
คำแนะน้า
ควรเขย่าขวดทุกครั้งก่อนรับประทานยานี้
ไม่ควรรับประทานยานี้เป็นเวลานานเกินกว่า 2 สัปดาห์ นอกจากแพทย์สั่ง
ยานี้ไม่ใช่ยารักษาโรคกระเพาะ เพียงแต่ช่วยบ้าบัดอาการให้ดีขึ้นเท่านั้น
ชื่อทางการค้า
Stomachic Mixture, Mixture Stomachica
ยาแก้อาเจียน
Domperidone
รูปแบบ
ยาเม็ดขนาด 10 มก.
ยาน้ำ 5 มก./ 5 มล. ( 1มก./มล)
กลไกการออกฤทธิ์
ลดการ ไหลย้อนของน้ำย่อยจากกระเพาะอาหาร
ข้อบ่งใช้
ช่วยบรรเทาอาการจุกเสียด แน่นหน้าอก คลื่นไส้ อาเจียนท้องอืด แน่นท้องหลังอาหาร
ขนาดและวิธีใช้
ผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด หรือ 2-4 ช้อนชา
เด็ก มากกว่า 1 ปี รับประทาน 1⁄4 ช้อนชา / น้ำหนักตัว 5 กก. วันละ 3 - 4 ครั้ง
ฤทธิ์ข้างคียงและอาการไม่พึงประสงค์
ยานี้อาจทำให้ปวดเกร็งท้อง
อาจเกิดอาการแพ้ยาโดยเป็นผื่นแดง คัน หายใจถี่ หรือหน้าบวม
ข้อควรระวัง
ไม่ควรใช้ยานี้ร่วมกับยาต้านโคลิเนอร์จิก
ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีภาวะล้าไส้อุดกั้น โรคลมชัก เนื้องอกต่อมหมวกไต
ค้าแนะน้า
ควรรับประทานยานี้ก่อนอาหารประมาณ 15-30 นาที ไม่ควรนั่งหรือนอนทันทีหลังรับประทาน อาหารเสร็จ
ชื่อการค้า
Motilium, Motilium – M, Molax
Dimenhydrinate
รูปแบบ
ยาเม็ด,ยาฉีด
ฤทธิ์ข้างคียงและอาการไม่พึงประสงค์
อาการง่วง มึนซึม ปวดศีรษะ การท้างานของอวัยวะต่าง ๆ ไม่สัมพันธ์กันตามัว กระสับกระส่าย นอน ไม่หลับ ใจสั่น ความดันโลหิตต่้า ปากคอแห้ง
ขนาดและวิธีการใช้
ผู้ใหญ่ 50-100 มิลลิกรัม วันละ 3-4 ครั้ง ขนาดยาสูงสุดต่อวัน คือ 400 มิลลิกรัม
เด็ก อายุ 2-5 ปี คือ 12.5-25 มิลลิกรัม ทุก 6-8 ชั่วโมง ขนาดยาสูงสุดต่อวัน คือ 75 มิลลิกรัม
เด็ก อายุ 6-12 ปี คือ 25-50 มิลลิกรัม ทุก 6-8 ชั่วโมง ขนาดยาสูงสุดต่อวัน คือ 150 มิลลิกรัม
ข้อควรระวัง
ไม่ใช้ยาในผู้ป่วยที่มีการแพ้ยานี้
ระวังการใช้ยาในผู้ป่วยที่มีอาการชัก
ระวังการใช้ยาในผู้ป่วยต้อหินมุมปิด
ระวังการใช้ยาในผู้ป่วยต่อมลูกหมากโต
ข้อบ่งใช้
แก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน มึนงง และเวียนศีรษะ
คำแนะนำ
1.หากให้ในผู้ป่วยที่ฉายแสงให้รับประทานก่อนฉายแสง 30 นาที เพื่อป้องกันอาการคลื่นไส้ อาเจียน จากการฉายแสง
2.ระวังผู้ป่วยตกเตียงโดยใส่ไม้กั้นเตียงหรือยกไม้กั้นเตียงขึ้น แนะน้าผู้ป่วยให้ระมัดระวังในการเปลี่ยน ท่าเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการง่วง ซึม เนื่องจากผลข้างเคียง
กลไกการออกฤทธิ์
ปิดกั้น H1 receptor
ชื่อการค้า
Denim ,Dimeno ,Dimin ,Dramamine ,Gravol, Motivan
ยาแก้ท้องผูก
Magnesium hydroxide
รูปแบบ
ยาน้้าแขวนตะกอน (มีลักษณะคล้ายน้้านม) ขนาด 400 มิลลิกรัม/5 มิลลิลิตร และ 8,000 มิลลิกรัม/100 มิลลิลิตร
ยาเม็ด ขนาด 300 มิลลิกรัม
กลไกการออกฤทธิ์
เนื่องจากยาแมกนีเซียมไฮดรอกไซด์มีฤทธิ์เป็นด่าง จึงช่วยลดความเป็นกรดในกระเพาะได้ ส้าหรับการออกฤทธิ์เป็นยาระบาย ยาแมกนีเซียมไฮดรอกไซด์จะออกฤทธิ์โดยการไปช่วยเพิ่มปริมาณของน้้าในล้าไส้จนเกิดการกระตุ้นให้ล้าไส้บีบตัวและขับถ่ายอุจจาระได้
ข้อ่บ่งใช้
ใช้รักษาอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืดแน่นท้อง ใช้เป็นยาลดกรด (ต้านฤทธิ์ของกรดในกระเพาะ) รักษาโรคกรดไหลย้อน บรรเทาอาการปวดแสบในท้อง แก้อาการเรอเหม็นเปรี้ยว ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร กระเพาะอาหารอักเสบ และใช้ป้องกันมิให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะจากยาต่าง ๆ
ใช้เป็นยาระบายแก้อาการท้องผูก เพราะยานี้จะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้น้อย ตัวยามักจะอยู่ในล้าไส้และออกฤทธิ์เฉพาะที่กระเพาะอาหาร แล้วดูดน้้าไว้ใกล้ ๆ ตัว ท้าให้มีน้้าในล้าไส้มากขึ้นจนเกิดการกระตุ้นให้ล้าไส้บีบตัวและเกิดการขับถ่าย
ขนาดและวิธีใช้
อาการท้องผูก
ผู้ใหญ่
ยารับประทานชนิดน้้าปริมาณ 30-60 มิลลิลิตรต่อวัน อาจแบ่งกินเป็นวันละหลายครั้งได้
ยารับประทานชนิดเม็ดเคี้ยวจ้านวน 8 เม็ดต่อวัน อาจแบ่งกินเป็นวันละหลายครั้งได้
เด็ก
ยารับประทานชนิดน้้า
อายุ 1 ปีหรือต่้ากว่านั้น ปริมาณ 0.5 มิลลิลิตรต่อน้้าหนักตัว 1 กิโลกรัม ต่อครั้ง
อายุ 2-5 ปี ปริมาณ 5-15 มิลลิลิตรต่อน้้าหนักตัว 1 กิโลกรัม วันละครั้ง หรือแบ่งให้เป็นวันละหลาย ๆ ครั้ง
อายุ 6-12 ปี ปริมาณ 15-30 มิลลิลิตรต่อน้้าหนักตัว 1 กิโลกรัม วันละครั้ง หรือแบ่งให้เป็นวันละหลาย ๆ ครั้ง
อายุ 13-18 ปี ปริมาณ 30-60 มิลลิลิตรต่อน้้าหนักตัว 1 กิโลกรัม วันละครั้ง หรือแบ่งให้เป็นวันละหลาย ๆ ครั้ง
ยารับประทานชนิดเม็ดเคี้ยว
อายุ 3-5 ปี จ้านวน 2 เม็ด วันละครั้ง หรือแบ่งให้เป็นวันละหลาย ๆ ครั้ง
อายุ 6-11 ปี จ้านวน 4 เม็ด วันละครั้ง หรือแบ่งให้เป็นวันละหลาย ๆ ครั้ง
อายุ 12-18 ปี จ้านวน 8 เม็ด วันละครั้ง หรือแบ่งให้เป็นวันละหลาย ๆ ครั้ง
อาการอาหารไม่ย่อย
ผู้ใหญ่
ยารับประทานชนิดน้้าปริมาณ 5-15 มิลลิลิตร วันละ 1-4 ครั้ง เมื่อมีอาการ
ยารับประทานชนิดเม็ดจ้านวน 1-3 เม็ด วันละ 1-4 ครั้ง เมื่อมีอาการ
ยารับประทานชนิดเม็ดเคี้ยวจ้านวน 2-4 เม็ด ทุก ๆ 4 ชั่วโมง เมื่อมีอาการ (ใน 1 วันสูงสุดไม่เกิน 4 ครั้ง)
เด็กอายุ 12-18 ปี
ยารับประทานชนิดเม็ดเคี้ยวจ้านวน 2-4 เม็ด ทุก ๆ 4 ชั่วโมง เมื่อมีอาการ (ใน 1 วันสูงสุดไม่เกิน 4 ครั้ง)
ผลข้างเคียงของยา
ผู้ใช้ส่วนมากไม่ค่อยปรากฏอาการที่รุนแรงจากผลข้างเคียงของยา อย่างไรก็ตาม ควรไปพบแพทย์ในทันทีหากพบว่าตนเองมีอาการแพ้ เช่น มีอาการบวมบริเวณใบหน้า ลิ้น ล้าคอ หรือมีผื่นผิวหนังและคัน หรือมีอาการอื่น ๆ เช่น ระดับแมกนีเซียมสูง เช่น หัวใจเต้นผิดปกติ กล้ามเนื้ออ่อนแรง หายใจตื้น ภาวะขาดน้้า เช่น ปากแห้ง เวียนศีรษะ หิวน้้าจัด หรือปัสสาวะน้อยลง ภาวะเกี่ยวกับทางเดินอาหารผิดปกติ เช่น ปวดท้องมากหรือถ่ายเป็นเลือด เลือดออกทางทวารหนัก
ข้อควรระวัง
ห้ามใช้ยานี้ในเด็กอายุต่้ากว่า 2 ปี ผู้ป่วยโรคไต (เพราะแมกนีเซียมจะถูกก้าจัดออกจากร่างกายทางไต จึงอาจไปกระตุ้นให้เกิดไตวายได้) และผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ (เพราะตัวยาอาจถูกดูดซึมเข้าร่างกายและเกิดพิษต่อหัวใจได้)
ควรระมัดระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับการผ่าตัดล้าไส้ (โดยเฉพาะการผ่าตัดล้าไส้ใหญ่) เพราะผลข้างเคียงจากยาอาจท้าให้เกิดอาการท้องเสียและส่งผลต่อแผลผ่าตัดได้ เพราะฉะนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานี้เสมอ
ยานี้อาจก่อให้เสียสมดุลของเกลือแร่ในร่างกายจากการท้องเสียได้
ค้าแนะน้าในการใช้ยา
ส้าหรับยาเม็ดชนิดเคี้ยว ควรเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน ส่วนยาน้้าแขวนตะกอน ให้เขย่าขวดก่อนรับประทานยาทุกครั้ง
ควรรับประทานยานี้ตามวิธีใช้ที่ระบุไว้บนฉลากยาอย่างเคร่งครัด ห้ามใช้ยาในขนาดที่น้อยกว่าหรือมากกว่าที่ระบุไว้ หากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
ห้ามรับประทานยานี้ติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 2 สัปดาห์ เว้นแต่แพทย์จะสั่งให้รับประทานยานี้ต่อไป
ชื่อทางการค้า
อัลมา (Alma)
อัลแมก (Almag)
อีมัลแลกซ์ เอ็ม.โอ.เอ็ม. (Emulax M.O.M.)
Bisacodyl
รูปแบบ
ยารับประทาน
ยาเหน็บทวารหนัก
กลไกการออกฤทธิ์
กระตุ้นการท้างานของกล้ามเนื้อผนังล้าไส้เล็กและล้าไส้ใหญ่ ท้าให้อุจจาระเคลื่อนที่และเกิดการขับถ่ายในที่สุด ใช้เพื่อรักษาอาการท้องผูก โดยแพทย์อาจน้ามาใช้ระบายท้องผู้ป่วยก่อนเข้ารับการรักษา เช่น การผ่าตัด การส่องกล้อง การเอกซเรย์ หรือการรักษาอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับล้าไส้ เป็นต้น
ข้อบ่งใช้
ก่อนใช้ยา ควรอ่านฉลากยาทุกครั้ง ใช้ยาตามวิธีการและปริมาณที่ระบุไว้บนฉลาก หรือตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ไม่ควรปรับปริมาณยาด้วยตนเอง หรือใช้ยานานเกินกว่าระยะเวลาที่แพทย์แนะน้า เนื่องจากยาอาจท้าให้ล้าไส้ท้างานผิดปกติ หรืออาจท้าให้ล้าไส้เคยชินต่อยา จนร่างกายไม่สามารถขับถ่ายเองได้
-ไม่ควรรับประทานยาลดกรดหรือผลิตภัณฑ์จากนมหลังใช้ยาเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เนื่องจากส่วนประกอบของยาลดกรดหรือนมอาจท้าลายสารเคลือบยา อาจท้าให้ท้องเสียและปวดท้อง
-หลีกเลี่ยงการรับประทานยาชนิดอื่นก่อนหรือหลังใช้ยานี้เป็นเวลา 2 ชั่วโมง และห้ามหัก บด หรือเคี้ยวยา โดยยา Bisacodyl ชนิดรับประทานจะออกฤทธิ์ภายใน 6-12 ชั่วโมง
ชนิดรับประทาน
เด็กอายุ 4-10 ปี รับประทานยา 5 มิลลิกรัม ก่อนนอน
ผู้ใหญ่ รับประทานยา 5-10 มิลลิกรัม สูงสุดไม่เกิน 20 มิลลิกรัม ก่อนนอน
ชนิดเหน็บทวาร
เด็กอายุต่้ากว่า 10 ปี ใช้ยาเหน็บทวาร 5 มิลลิกรัม ในตอนเช้า
ผู้ใหญ่ ใช้ยาเหน็บทวาร 10 มิลลิกรัม ในตอนเช้า
ฤทธิ์ข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Bisacodyl ที่พบได้ทั่วไป ได้แก่ ปวดท้อง ท้องอืด มวนท้อง เวียนศีรษะ รู้สึกแสบที่ช่องทวารหนัก เป็นต้น
ข้อควรระวัง
ผู้ที่มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ หรืออาเจียน ไม่ควรใช้ยาชนิดนี้
หากไม่ได้รับค้าแนะน้าจากแพทย์ ห้ามใช้ยานี้กับเด็กอายุต่้ากว่า 2 ปี เด็ดขาด ส่วนผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรืออยู่ในภาวะต่อไปนี้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาทุกครั้ง
ชื่อทางการค้า
Dulcolax
Gencolax
Kadolax
Laxcodyl
ยาต้านกรด
Aluminium hydroxide and magnesium hydroxide
รูปแบบ
ยาเม็ดและยาน้ำ
กลไกการออกฤทธิ์
การนำความเป็นด่างของยาสะเทินกับกรดในกระเพาะอาหาร หรือล้าไส้เพื่อลดความเป็นกรด เมื่อความเป็นกรดลดลงการกัดกร่อนของกรดที่จะท้าให้เกิดแผลหรือการท้าให้ แผลที่มีอยู่ระคายเคืองจึงลดลงและให้ผลในการบรรเทาอาการ
ข้อบ่งใช้
บรรเทาอาการแสบท้องกลางอก ท้องอืด แน่นท้องหรืออาหารไม่ย่อย
ฤทธิ์ข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์
บวมที่ใบหน้า เปลือกตา ริมฝีปาก ลมพิษ
หน้ามืด เป็นลม แน่นหน้าอก หายใจล้าบาก
ผื่นแดง ตุ่มพอง ผิวหนังหลุดลอก มีจ้ำตามผิวหนังหรือเลือดออกผิดปกติ อาการปวดเค้นหัวใจ
ข้อควรระวัง
ห้ามใช้ในผู้ที่เป็นโรคหัวใจหรือโรคไต ไม่ควรรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 2 สัปดาห์ นอกจากแพทย์สั่ง
คำแนะนำ
ยาน้้าเมื่อเปิดใช้แล้วไม่ควรเก็บไว้นานเกิน 3 เดือน ไม่ควรใช้ต่อไปแม้ยังไม่ถึงวันหมดอายุ
ชื่อทางการค้า
แอนตาซิล (Antacil) มาล็อกซ์ (Maalox) อะลัมมิลค์ (Alum milk)
ขนาดและวิธีการใช้
ขนาด
เด็กอายุ 3-6 ปี รับประทานครั้งละ ครึ่ง -1 ช้อนชา
เด็กอายุ 6 ปี รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนชา หรือ ครึ่ง -1 เม็ด
เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป และผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ หรือ 1-2 เม็ด
วิธีการใช้
โดยทั่วไปให้รับประทานก่อนอาหาร ครึ่งชั่วโมง หรือหลังอาหาร 1 ชั่วโมง หรือเมื่อมีอาการ
ยาน้ำให้เขย่าขวดก่อนรับประทานทุกครั้ง
ยาเม็ดให้เคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน
ยาลดการสร้างกรด
Ranitidine
รูปแบบ
ยาเม็ด 150 และ 300 มิลลิกรัม
ยาฉีด 50 มิลลิกรัม/หลอด (2 มิลลิกรัม)
กลไกการออกฤทธิ์
ป้องกัน ไม่ให้สารฮิสตามีนไปกระตุ้นการหลั่งกรดของกระเพาะอาหาร
ข้อบง่ใช้
ก่อนใช้ยารานิทิดีน เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยารานิทิดีน สิ่งที่ผู้ป่วยควรแจ้งให้แพทย์คือการแพ้ยาทุกชิด
ขนาดและวิธีใช้
ใช้รักษาแผลในกระเพาะอาหารและล้าไส้
ใช้ลดการสร้างกรดในผู้ป่วยอาหารไม่ย่อย รักษาอาการกรดไหลย้อน
ใช้ป้องกันและบ้าบัดอาการอาหารไม่ย่อ
ฤทธิ์ข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์
ตับอักเสบ ตับอ่อนอักเสบ เม็ดเลือดขาวต่้า
รู้สึกตื่นเต้น อยู่นิ่งไม่ได้ กระวนกระวาย กระสับกระส่าย ซึมเศร้า ประสาท หลอน เต้านมมีขนาดใหญ่ขึ้น
ลมพิษ มีไข้ ความดันโลหิตต่้า หลอดลมเกร็งท้าให้หายใจล้าบาก
ข้อควรระวัง
ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่แพ้ยารานิทิดีนห้ามใช้และเก็บยาหมดอายุควรระวังการใช้ยารานิทิดีนใน หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร เด็กทารก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีประวัติการแพ้แสงแดด
ค้าแนะน้า
ควรใช้ยานี้ตามวิธีใช้ที่ระบุไว้บนฉลากยาหรือภายใต้ค้าแนะน้าของแพทย์หรือเภสัชกร
ชื่อทางการค้า
อะซิแคร์ (Acicare), อะซิล็อก (Aciloc), ฮิสแท็ก (Histac), ราแม็ก (Ramag), รานิซิด (Ranicid), รานิด (Ranid), รานิดีน (Ranidine), รานิน-25 (Ranin-25),
ยาลดอาการปวดเกร็ง
Hyoscine-n-Butylbromide
ขนาดและวิธีใช้
ยาเม็ด ในผู้ใหญ่ ให้รับประทานยาครั้งละ 10-20 มิลลิกรัม ส่วนในเด็กอายุต่้ากว่า 1 ปี ให้ รับประทานยาครั้งละ 1⁄4-1⁄2 ช้อนชา, เด็กอายุ 1-4 ปี ให้รับประทานยาครั้งละ 1⁄2-1 ช้อนชา, เด็กอายุ 4-7 ปี ให้ รับประทานยาครั้งละ 1-2 ช้อนชา หรือ 1⁄2-1 เม็ด และในเด็กอายุ 7-12 ปี ให้รับประทานยาครั้งละ 2 ช้อนชา หรือ 1 เม็ด โดยทั้งหมดนี้ให้รับประทานยาเมื่อมีอาการ และรับประทานยาซ้้าได้ทุก ๆ 6-8 ชั่ว โมง (ไม่เกินวัน ละ 4 ครั้ง ในผู้ใหญ่ และไม่เกินวันละ 3 ครั้ง ในเด็ก)
ฤทธิ์ข้างคียงและอาการไม่พึงประสงค์
อาการปวดศีรษะ, วิงเวียน, มึนงง, ง่วงนอน, อ่อนเพลีย, ความจ้าเสื่อม, ปากแห้ง, กลืนล้าบาก, มีอาการหน้าแดง, รูม่านตาขยาย (ตาพร่ามัว),
ข้อบ่งใช้
ผู้ใหญ่ ยาในรูป hydrobromide ความเข้มข้น 0.25% หยอด 1 ถึง 2 หยด 1 ชั่วโมงก่อนการท้าหัตถการ
เด็ก ยาในรูป hydrobromide ความเข้มข้น 0.25% หยอด 1 หยด วันละสามครั้ง
ข้อควรระวัง
้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคต้อหิน, โรคต่อมลูกหมากโต, ผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นเร็วหรือเต้นผิดจังหวะ,
กลไกการออกฤทธิ์
โดยการเข้าไปแข่งขันและยับยั้งการท้างานของตัวรับ (Receptor) ที่ชื่อว่า มัสคารินิก (Muscarinic receptors) ท้าให้เกิดผลแสดงออกที่ระบบประสาทส่วนกลาง และระบบประสาทส่วนปลาย ส่งผลให้กล้ามเนื้อเรียบของอวัยวะภายในเกิดการคลายตัว
คำแนะนำ
ส้าหรับยาเม็ด โดยทั่วไปให้รับประทานยาวันละ 3 ครั้ง หลังอาหารเช้า กลางวัน เย็น โดยให้กลืนยา ทั้งหมด ห้ามบดหรือเคี้ยวเม็ดยา
รูปแบบ
ยาเม็ด ขนาด 10 มิลลิกรัม/เม็ด
ยาน้้าเชื่อม ขนาด 5 มิลลิกรัม/ช้อนชา (5 มิลลิลิตร)
ชื่อทางการค้า
ยาไฮออสซีน (ชื่อสามัญ) มีชื่อทางการค้า เช่น แอมโคแพน (Amcopan), แอนตี้สปา (Antispa), บาโคแทน (Bacotan), บัสโคโน (Buscono), บุสโคพาน / บัสโคแพน (Buscopan), บูทิล (Butyl),
ยาแก้ท้องเสีย
Oral Rehydration Salts
ขนาดและวิธีการใช้
ผู้ใหญ่และเด็กโต ให้ดื่มกินบ่อย ๆ ครั้งละ 1⁄2 - 1 แก้ว (1 แก้ว = 250 มิลลิลิตร) ประมาณวันละ 6-9 แก้วหรือมากกว่าขึ้นอยู่กับอาการ
เด็กเล็ก ควรเน้นแก้ไขภาวะขาดน้้าในช่วง 4-6 ชั่วโมงแรกหลังจากเด็กมีอาการท้องเสีย ด้วยการ ให้สารละลายผงเกลือแร่หรือโออาร์เอสที่ผสมแล้วดังกล่าว โดยให้เด็กจิบดื่มแทนน้้าทีละน้อย
ฤทธิ์ข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์
หลอดอาหารอักเสบ เกิดภาวะแพ้ แสงแดดในบริเวณหน้าอก และผิวหนังอักเสบ
ข้อบ่งใช้
รักษาโรคท้องร่วง/ท้องเสียเฉียบพลัน รักษาและบรรเทาอาการของผู้ป่วยมีแผลไหม้หรือแผลไฟไหม้ ขนาดใหญ่ที่เป็นสาเหตุให้ร่างกายสูญเสียน้้าจากทางบาดแผล
ข้อควรระวัง
ห้ามใช้กับผู้ที่มีประวัติการแพ้ผงเกลือแร่หรือโออาร์เอส
ห้ามใช้กับผู้ที่อยู่ในภาวะอาเจียนอย่างรุนแรง ผู้ป่วยที่ร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรงและ
ผู้ป่วยที่ไตท้างานผิดปกติ
กลไกการออกฤทธิ์
ชดเชยเกลือโซเดียมและเกลือโพแทสเซียม ที่สูญเสียไปกับอาการท้องเสียให้กับร่างกาย และค่อย ๆ สร้างสมดุลของเกลือแร่ในร่างกายให้กลับมาเป็นปกติ
คำแนะนำ
ผงเกลือแร่ส้าเร็จรูป อย่าใช้ละลายในน้ำร้อน ควรละลายในน้ำสะอาด หรือน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว เมื่อละลายใช้แล้ว หากทิ้งไว้เกิน 24 ชั่วโมง ยาจะบูด จึงไม่ควรใช้
รูปแบบ
ชนิดใส่ซองส้าเร็จรูป (รูปแบบชนิดผงเพื่อละลายน้ำ
น้ำเกลือผสมเอง
ชื่อการค้า
ผงเกลือแร่องค์การเภสัชกรรม (ORS GPO)
วิตามิน
Multivitamin
ขนาดและวิธีใช้
รับประทานวิตามินรวมตามปริมาณและระยะเวลาที่แพทย์ก้าหนดและปฏิบัติตามฉลากก้ากับการใช้ อย่างเคร่งครัด
ควรรับประทานวิตามินบีรวมร่วมกับน้ำเปล่า1แก้ว
ฤทธิ์ข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์
มีผื่นลมพิษ
หายใจล้าบาก
อาการบวมที่ใบหน้า ล้าคอ ปาก ริมฝีปาก หรือลิ้น
ข้อบ่งใช้
ใช้ชดเชยการขาดวิตามินของร่างกายของผู้สูงอายุ
เป็นยาร่วมรักษาโรคเรื้อรังต่างๆ
สนับสนุนและช่วยเพิ่มความต้านทานโรคให้กับร่างกาย
ข้อควรระวัง
ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยาหรือแพ้ส่วนประกอบในวิตามินรวม
ห้ามใช้วิตามินรวมที่มีองค์ประกอบของธาตุเหล็กกับผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหาร
ห้ามปรับขนาดการรับประทานยานี้ด้วยตนเอง
กลไกการออกฤทธิ์
ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระที่ คอยท้าลายหรือก่อให้เกิดความเสื่อมต่อเซลล์ของร่างกายช่น ธาตุทองแดง, สังกะสี, แมงกานิส
คำแนะนำ
ถเก็บรักษายามัลติวิตามินภายใต้อุณหภูมิห้องที่เย็น ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น เก็บ ยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อนและความชื้น
รูปแบบ
วิตามินเสริมที่ประกอบด้วยวิตามินหลากหลายชนิดซึ่งพบได้ในอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน โดยจะ น้ามาใช้ในกรณีที่อาจได้รับวิตามินจากอาหารไม่เพียงพอ
ชื่อทางการค้า
Blackmores Multivitamins + Minerals (แบล็คมอร์ มัลติวิตามิน + มิเนอรัล) - Multivitamin Asian Union (มัลติวิตามิน เอเชียน ยูเนียน)
Multivitamin GPO (มัลติวิตามิน จีพีโอ)
Multivitamin Greater Pharma (มัลติวิตามิน เกร๊ทเตอร์ฟาร์ม
Vitamin B Complex
ขนาดและวิธีใช้
เนื่องจากวิตามินบีรวมในแต่ละยี่ห้อ มีปริมาณของวิตามินบีแต่ละชนิดที่แตกต่างกัน แนะน้าให้ รับประทานตามค้าแนะน้าและวิธีใช้บนฉลาก
ฤทธิ์ข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์
วิตามินบีรวมแทบไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง บางส่วนอาจมีอาการปวดท้อง ท้องเสีย รู้สึกวูบวาบได้ เล็กน้อย
ข้อบ่งใช้
ใช้ป้องกันการขาดวิตามินบี หรือป้องกันการขาดวิตามินบี
ข้อระวัง
วิตามิน บี 1 ควรระวังการเกิดการแพ้ยา
วิตามินบี 3 ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน เกาท์ โรคตับ โรคถุงน้ำดี หรือแผลในกระเพาะ
อาหาร
กลไกการออกฤทธิ์
จัดอยู่ในกลุ่มวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ วิตามินบีรวม มักกล่าวถึงวิตามินที่ละลายน้้าได้ที่ ไม่ใช่วิตามินซี ได้แก่ วิตามินบี 1 หรือไธอะมีน (Thiamine) วิตามินบี 2 หรือไรโบฟลาวิน (Riboflavin) วิตามิน บี 3 หรือไนอะซิน (Niacin)
คำแนะนำ
ยาสามารถรับประทานก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ ในกรณีรับประทานก่อนอาหารแล้วเกิดการระคาย เคืองกระเพาะอาหาร แนะน้าให้รับประทานหลังอาหาร
รูปแบบ
ยารับประทาน ยาฉีด
ชื่อทางการค้า
B Complex
Vitamin B2
ขนาดและวิธีใช้
เด็ก รับประทาน 3-10 มิลลิกรัมต่อวัน
ผู้ใหญ่ แบ่งรับประทานไม่เกิน 30 มิลลิกรัมต่อวัน
ฤทธิ์ข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์
ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้ม ซึ่งมักไม่เป็นอันตราย อย่างไรก็ ตาม การรับประทานในปริมาณมากเกินไปอาจส่งผลให้ท้องเสีย หรือปัสสาวะมากกว่าปกติ
ข้อบ่งชี้
ใช้ส้าหรับภาวะขาดวิตามินบี 2 (Ariboflavinosis) หรือโรคปากนกกระจอก
ข้อควรระวัง
ผู้ป่วยที่มีโรคประจ้าตัว โดยเฉพาะโรคถุงน้้าดี ตับแข็ง หรือโรคตับอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
ผู้ที่ก้าลังใช้ยา สมุนไพร หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดอื่น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้วิตามินบี 2
กกลไกการออกฤทธิ์
ร่างกายจะสามารถดูดซึมได้ง่ายผ่านทางผนังล้าไส้เล็ก โดยวิตามินบี 2 จะถูกเปลี่ยนเป็นเฟลวินโมโนนิวคลี โอไทด์ ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของเฟลวินอะดีนินไดนิวคลีโอไทด์ ที่จะถูกส่งไปยังกระแสเลือดและเนื้อเยื่อต่างๆ ของ ร่างกาย และบางส่วนก็จะถูกขับออกทางปัสสาวะด้วย
คำแนะนำ
วิตามินบี 2 ในรูปแบบอาหารเสริม ขนาดที่ใช้โดยทั่วไปคือ 100 มิลลิกรัม จะท้างานได้ดีที่สุดเมื่ออยู่ใน รูปแบบของวิตามินบีรวม โดยขนาดที่ใช้รับประทานโดยทั่วไปคือ 100-300 มิลลิกรัมต่อวัน
ร่างกายจะต้องการวิตามินชนิดนี้เพิ่มมากขึ้นหากอยู่ในสภาวะเครียด
รูปแบบ
ยารับประทานชนิดเม็ด
ชื่อทางการค้า
: Boflavin,Enzyplex,Enzyme- 1,Essentiale,Essiver,Hepacap,Icaps,Lipochol,Liporon,Poly Enzyme-1,Revitan,Vitalux Plus, Vit.B2
วิตามิน c
ขนาดและวิธีการใช้
รับประทานต่อวันอยู่ที่ 40 mg. และส้าหรับหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรที่ประมาณ 70-96 mg.และควรบริโภคในปริมาณที่น้อยกว่า 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
ฤทธิ์ข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์
หากไม่รับประทานก็จะไม่เกิดผลอันตรายต่อร่างกายและจะไม่มีผลข้างเคียง
ข้อบ่งใช้
เลือดออกตามไรฟัน นอกจากนั้น วิตามิน ซี ยังมีหน้าที่ส้าคัญต่อร่างกาย เช่น ช่วยในการสมาน บาดแผล
ข้อควรระวัง
อาการแสบร้อนกลางอก คลื่นไส้อาเจียน ท้องร่วง ท้องเสีย ปวด ท้อง
กลไกการออกฤทธิ์
เป็นวิตามินที่ละลายในน้้า ร่างกายต้องการเพื่อน้าไปสร้างคอลลาเจน ซึ่งคอลลาเจนมีประโยขน์ต่อ การรักษาสุขภาพและยังช่วยในการซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น กระดูก ฟัน และผิวหนัง
คำแนะนำ
วิตามินซีจะถูกขับออกจากร่างกายภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังจากรับประทาน
ยารักษาโรคเบาหวาน อาจมีประสิทธิภาพด้อยลงหากรับประทานร่วมกับวิตามินซี
วิตามินซีในปริมาณสูงอาจกระทบถึงผลการตรวจเลือดรวมทั้งผลการตรวจมะเร็งปากมดลูกได้ ดังนั้น หากคุณก้าลังไปตรวจอย่าลืมแจ้งแพทย์ว่าคุณก้าลังรับประทานวิตามินซีอยู่
รูปแบบ
แบบเม็ด แคปซูล ลูกอม เม็ดแบบแตกตัวช้า แบบผง แบบเคี้ยว
น้ำเชื่อม
ชื่อทางการค้า
Vitamin B1
รูปแบบ
ยารับประทาน
ยาฉีด
กลไกการออกฤทธิ์
เป็นสารอาหารที่จ้าเป็นต่อการท้างานของเนื้อเยื่อโดยช่วยให้ร่างกายเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน ใช้รักษาและป้องกันภาวะขาดวิตามินบี 1 ซึ่งพบได้มากในผู้ป่วยโรคพิษสุราเรื้อรัง โรคคลั่งผอมอะนอเร็กเซีย และโรคคลั่งผอมอะนอเร็กเซีย รวมถึงใช้รักษาอาการเหน็บชา และกลุ่มอาการทางสมองจากการขาดวิตามินบี 1
ข้อบ่งชี
ใช้ส้าหรับป้องกันและรักษาภาวะขาดวิตามินบี 1
ขนาดและวิธีใช้
ผู้ใหญ่ รับประทาน 50-100 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง
เด็ก รับประทาน 0.5-1 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง
ทารก รับประทาน 0.3-0.5 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง
ฤทธิ์ข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์
การใช้วิตามินบี 1 อาจท้าให้เกิดผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป แต่ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์หากผลข้างเคียงเหล่านั้นรบกวนการใช้ชีวิต หรืออาการไม่ดีขึ้นแม้เวลาผ่านไป เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย กระสับกระส่าย รู้สึกร้อน เหงื่อออกมาก หรือรู้สึกอ่อนเพลีย นอกจากนี้ ผู้ป่วยควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน หากพบว่ามีอาการแพ้ยา เช่น มีผื่นแดง คัน บวม พุพอง ผิวลอก แน่นหน้าอก แน่นที่ล้าคอ หายใจมีเสียงหวีด หายใจล้าบาก มีปัญหาในการพูด เสียงแหบ หรือมีอาการบวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ปาก ลิ้น และล้าคอ
ข้อควรระวัง
ผู้ที่แพ้วิตามินบี 1 รวมถึงส่วนประกอบอื่น ๆ ที่อยู่ในตัวยา
ผู้ที่ก้าลังตั้งครรภ์ หรือก้าลังวางแผนตั้งครรภ์ ต้องปรึกษาแพทย์ถึงข้อดีและข้อเสียของวิตามินชนิดนี้ก่อน
ผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร ต้องปรึกษาแพทย์ถึงผลกระทบของวิตามินบี 1 ที่อาจเกิดขึ้นกับทารกก่อนเสมอ
ค้าแนะน้า
วิตามินบี 1 ในรูปของอาหารเสริม มีปริมาณตั้งแต่ 25 - 500 มิลลิกรัม จะมีประสิทธิภาพดีมากหากอยู่ในรูปของวิตามินบีรวม เช่น วิตามินบี 2 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 กรดโฟลิก โดยขนาดที่แนะน้าให้รับประทานคือ 100-300 มิลลิกรัม
ปริมาณที่แนะน้าให้รับประทานต่อวันหรือที่ร่างกายต้องการต่อวันคือ 1-1.5 มิลลิกรัม ส้าหรับผู้ใหญ่ และ 1.5-1.6 มิลลิกรัม ส้าหรับหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
ยาบำรุงโลหิต
Ferrous Fumarate
รูปแบบ
เม็ด (Tablet)
กลไกการออกฤทธิ์
ธาตุเหล็กคือแร่ธาตุที่พบมากที่สุดใน Hemoglobin บนเซลล์เม็ดเลือดแดงของมนุษย์และใน Myoglobin ของเซลล์กล้ามเนื้อเป็นสิ่งจ้าเป็นในการขนส่งออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์
ข้อบ่งใช้
รักษาการขาดธาตุเหล็กในโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก
ป้องกันการขาดธาตุเหล็ก
ขนาดและวิธีใช้
ขนาดยาที่ใช้เสริมเพื่อป้องกันหรือรักษาภาวะเลือดจางจากการขาดเหล็กแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ และความรุนแรงของผู้ป่วยแต่ละราย
ควรกินยานี้ขณะท้องว่าง ก่อนอาหารอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือหลังอาหารอย่างน้อย 2 ชั่วโมง แต่หากกินวิธีนี้แล้วมีอาการมวนท้องให้เปลี่ยนเป็นกินยาพร้อมอาหารหรือหลังอาหารทันที
ฤทธิ์ข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์
อาการที่ต้องหยุดยาแล้วต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
อาการที่หมายถึงอาการแพ้ยา คือ หายใจล้าบากผื่นขึ้น หายใจเสียงหวีด แน่นหน้าอก คันบวมบริเวณใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้นหรือในล้าคอ ผิวหนัง ปาก เล็บ และฝ่ามือเป็นสีเขียวหรือฟ้า
อาการที่แสดงถึงพิษของยา คือ อาเจียนรุนแรง มีไข้ เซื่องซึม ผิวหนังซีดหรือเย็นชื่น ชัก หัวใจเต้นอ่อนลง เร็วขึ้น หรือไม่สม่้าเสมอ
ผู้หญิงมีประจ้าเดือนผิดปกติ คือ มีเลือดออกมาก เลือดออกกะปริดกะปรอย หรือมีเลือดออกระหว่างรอบเดือน
อาการที่ไม่จ้าเป็นต้องหยุดยาแต่ถ้ามีอาการรุนแรงให้ไปพบแพทย์ทันที
ท้องผูก ท้องร่วง ระคายเคืองทางเดินอาหารคลื่นไส้ หรือปวดบริเวณลิ้นปี
อุจจาระมีสีด้าหรือคล้้าขึ้น
ข้อควรระวัง
ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานี้ หากท่านมีภาวะต่อไปนี้ เพราะอาจท้าให้เกิดอันตรายจากยานี้มากขึ้น คือ เป็นโรคตับ หรือโรคแผลในทางเดินอาหารที่สามารถควบคุมอาการได้
ผู้ป่วยบางกลุ่มอาจได้รับอันตรายจากยานี้มากขึ้น ได้แก่ หญิงมีครรภ์หรือก้าลังจะตั้งครรภ์ และหญิงให้นมบุตร
คำแนะน้า
หากลืมรับประทาน หากกินเพื่อป้องกันภาวะเลือดจางควรข้ามยามื้อที่ลืม และกินมื้อต่อไปปกติ แต่หากกินเพื่อรักษาภาวะเลือดจางให้กินทันทีที่นึกได้แต่ถ้าใกล้เวลาของยามื้อต่อไปให้ข้ามยามื้อที่ลืมกินและกินต่อในมื้อปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มจ้านวนเม็ดยา
หากรับประทานเกินขนาด ให้สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากทีอาการผิดปกติที่รุนแรง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน อาเจียนเป็นเลือด ปวดท้อง ท้องร่วง ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด หรือชัก ให้รีบน้าตัวส่งโรงพยาบาล
ชื่อทางการค้า
Fersamal
Toleron
Folic acid
ขนาดและวิธีใช้
ส้าหรับหญิงมีครรภ์ปกติ 0.4 - 1.0 mg/day หญิงมีครรภ์ปกติแนะน้ำกินทุกคน 0.4 mg (400mcg)/day
ผู้ที่จะมีบุตรแนะน้าให้กิน 0.4 - 0.8 mg/da
ฤทธิ์ข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์
กรดโฟลิคมีความเป็นพิษต่้ามาก เนื่องจากสามารถละลายน้ำได้ และร่างกายสามารถขับกรดโฟลิคออก ทางปัสสาวะได้ นอกจากจะรับประทานเกินขนาดที่ก้าหนด อาจเกิดอาการ ปวดมวนท้อง ท้องเสีย เกิดผื่นคัน นอนหลับไม่สนิทหรือมีอาการสับสนได้
ข้อบ่งใช้
รักษาผู้ที่มีภาวะขาด Folic acid, ภาวะโลหิตจางชนิด Megaloblastic anemia, ภาวะโลหิตจางจากการ ขาด Folic acid, ป้องกันภาวะ Neural Tube Defect (NTD) ในหญิงตั้งครรภ์
ข้อควรระวัง
ผู้ที่มีประวัติแพ้ Folic Acid ไม่ควรใช้อาหารเสริมชนิดนี้
ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา หากก้าลังป่วยด้วยปัญหาสุขภาพ เพื่อปรับยาให้รับประทานใน ปริมาณที่เหมาะสมและไม่เกิดอันตราย
กลไกการออกฤทธิ์
กรดโฟลิคช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง โดยที่จะไปช่วยไขกระดูก (Bone Marrow) ให้ผลิตเม็ดเลือด แดง และควบคุมการท้างานของสมอง และอารมณ์ให้อยู่ในสภาพที่ปกติสมบูรณ์
คำแนะนำ
ส้าหรับผู้ป่วยที่ใช้ Folic Acid เพื่อการรักษา ควรใช้ยาให้ถูกต้องตามค้าสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ รับประทานยาเกินกว่าปริมาณหรือยาวนานเกินกว่าที่แพทย์ก้าหนด
การใช้FolicAcidแบบรับประทานให้รับประทานพร้อมน้้าเปล่า1แก้วและเก็บบรรจุภัณฑ์ไว้ใน อุณหภูมิห้องบริเวณที่พ้นจากความชื้นและความร้อน
รูปแบบ
ยาเม็ด
ชื่อทางการค้า
: Folic acid
ยาถ่ายพยาธิ
Albendazole
รูปแบบ
ยาเม็ด ขนาดความแรง 200 และ 400 มิลลิกรัม/เม็ด
ยาน้้าแขวนตะกอน ขนาดความแรง 100 และ 200 มิลลิกรัม/5 มิลลิลิตร (1 ช้อนชา)
กลไกการออกฤทธิ์
ยาอัลเบนดาโซลจะมีกลไกการออกฤทธิ์ไปยับยั้งการเชื่อมต่อโปรตีนทิวบูลินในตัวพยาธิ (Tubulin เป็นโปรตีนส้าคัญที่ใช้ในการท้างานของเซลล์ของพยาธิ) และไปปิดกั้นการดูดซึมน้้าตาลกลูโคส ท้าให้พยาธิขาดพลังงานในการด้ารงชีวิตและตายลงในที่สุด หลังจากรับประทานยาไปแล้ว ตัวยาจะสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายน้อยกว่า 5% เมื่อยาผ่านเข้ากระแสเลือดจะจับตัวกับพลาสมาโปรตีน 7% โดยประมาณ และถูกส่งไปเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมีที่ตับ ร่างกายจะต้องใช้เวลาประมาณ 8-12 ชั่วโมง ในการก้าจัดยาออกจากร่างกายโดยผ่านมากับปัสสาวะและอุจจาระ
ข้อบ่งใช้
รักษาการติดเชื้อ Cysticercosis เช่น พยาธิตืดหมู ซึ่งก่อให้เกิดพิษต่อระบบประสาทซึ่งเป็นอันตราย สามารถติดเชื้อได้จากการรับประทานเนื้อหมูดิบ หรือปรุงไม่สุก รักษาร่วมกับการใช้พราซิเควนเทล
ใช้รักษาพยาธิ Strongyloidiasis และพยาธิใบไม้ในตับ
ขนาดและวิธีใช้
ส้าหรับโรคพยาธิไส้เดือน (Ascariasis) และโรคพยาธิปากขอ (Hookworm Infection) ในผู้ใหญ่และเด็กอายุมากกว่า 2 ปี ให้รับประทานครั้งละ 400 มิลลิกรัม เพียงครั้งเดียว ส่วนในเด็กอายุ 1-2 ปี ให้รับประทานครั้งละ 200 มิลลิกรัม เพียงครั้งเดียวเช่นกัน (ส้าหรับยาเม็ด อาจใช้วิธีบดผสมกับน้้า หรือเคี้ยวก่อนกลืน หรือกลืนทั้งเม็ดเลยก็ได้)
ส้าหรับโรคพยาธิเส้นด้าย/พยาธิเข็มหมุด (Pinworm Infection) ในผู้ใหญ่และเด็กอายุมากกว่า 2 ปีที่มีน้้าหนักตัวมากกว่า 20 กิโลกรัม ให้รับประทานครั้งละ 400 มิลลิกรัม ส่วนในเด็กที่มีน้้าหนักตัวน้อยกว่า 20 กิโลกรัม ให้รับประทานยาครั้งละ 200 มิลลิกรัม โดยให้รับประทานยาเพียงครั้งเดียว และให้รับประทานซ้้าอีกครั้งในอีก 2 สัปดาห์[4]
ฤทธิ์ข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์
ถ้าใช้ในขนาดปกติจะมีผลข้างเคียงค่อนข้างน้อย บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ เวียนศีรษะ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปากแห้ง ไม่สบายในระบบทางเดินอาหาร ปวดมวนท้อง ท้องเดิน ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อ ตับอักเสบ หรืออาจแพ้ยา (มีอาการลมพิษ ผื่นคัน) ฯลฯ
ผลค้างเคียงรุนแรง คือ ผื่นคัน ลมพิษ หายใจล้าบาก มีไข้ หนาวสั่น เจ็บคอ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ชัก ตัวเหลืองตาเหลือง การมองเห็นเปลี่ยนไป ท้องเสียรุนแรง เหนื่อย อ่อนเพลีย มีการกดการท้างานของไขกระดูก
ถ้าใช้ยานี้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจท้าให้ผมร่วง ตับอักเสบ หรือเม็ดเลือดขาวต่้า แต่เมื่อหยุดยาก็จะดีขึ้น
ข้อควรระวัง
ห้ามใช้ยานี้ในเด็กทารก
ในเพศหญิงหลังจากหยุดการใช้ยา ควรระวังอย่าให้เกิดการตั้งครรภ์เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 เดือน
ค้าแนะน้า
ควรรับประทานยาในขนาดที่แพทย์สั่ง ห้ามใช้ยาในขนาดที่น้อยกว่าหรือมากกว่าที่ระบุไว้ หากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
ในระหว่างการใช้ยานี้ ต้องคอยตรวจความผิดปกติของระบบเลือดและการท้างานของตับควบคู่กันไปด้วย
ควรรับประทานยาในขนาดที่แพทย์สั่ง ห้ามใช้ยาในขนาดที่น้อยกว่าหรือมากกว่าที่ระบุไว้ หากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
ชื่อทางการค้า
เอ-บี-วอร์ม (A-b-worm),
อัลบาเทล (Albatel)
อัลบีเมด (Albemed)
Mebendazole
ขนาดและวิธีการใช้
ให้ 1 เม็ดหรือ 1 ช้อนชา ครั้งเดียว อีก 1 – 2 สัปดาห์ ต่อมาควรซ้้าอีกครั้ง ทั้ง เด็กและผู้ใหญ่ใช้ขนาดเท่ากัน และควรเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน
ฤทธิ์ข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์
ยาอาจถูกดูดซึมน้อย จึงไม่พบพิษที่รุนแรง แต่อาจพบอาการระคายเคืองในทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องและท้องเดิน
การใช้ยาในขนาดสูง อาจพบอาการแพ้ ผมร่วงและจ้านวนเม็ดเลือดขาวลด
ข้อบ่งใช้
ใช้ถ่ายพยาธิตัวกลม ได้แก่ พยาธิเส้นด้าย พยาธิไส้เดือน พยาธิปากขอและพยาธิแส้ม้า พยาธิตัวตืด ทริคิโนสซิส (Trichinosis)
ข้อควรระวัง
ห้ามใช้ในเด็กอายุต่้ากว่า 2 ปี
กลไกการออกฤทธิ์
ขัดขวางการดูดซึมกลูโคสของพยาธิทั้งตัวอ่อนและตัวแก่ ท้าให้พยาธิตาย เนื่องจากไกลโคเจนในตัว พยาธิหมดไป ยานี้ถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดน้อยมาก โดยพยาธิที่ได้รับยาจะหยุดการเคลื่อนไหว และตายอย่าง ช้าๆ จากนั้นจะถูกขับออกจากล้าไส้จนหมด ใช้เวลานาน 3 วันหลังได้รับยา
คำแนะนำ
เคี้ยวยาให้ละเอียดก่อนกลืนและรับประทานยาร่วมกับอาหารและดื่มน้ำมากๆ
ควรเก็บยาในที่ป้องกันไม่ให้ถูกแสงแดด
อาจมีอาการปวดท้อง ท้องเดินในรายที่มีพยาธิขับออกจ้านวนมา
รูปแบบ
ยาเม็ด 100 มก.
ยาน้ำ 100 มก./ 5 มล.(ช้อนชา)
ชื่อทางการค้า
Fugacar, Meben