Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ภาวะไม่สุขสบาย ในหญิงตั้งครรภ์ช่วงไตรมาส 2 pregnantcream-minimize…

- - - - ผิวหนังจะได้มีเวลาปรับตัว จะได้ไม่ขยายตัวมากเกินไป
    - - /. ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นและยืดหยุ่น
      - //. เพราะผิวต้องหดตัวกลับคืนสู่สภาวะปกติ
      - ///. ครีมหรือโลชั่นที่ใช้ไม่ควรมีส่วนผสมของวิตามินเอ
    - - เพราะความร้อนจะชะล้างไขมันที่เคลือบผิวออกไป ทำให้ผิวแห้ง แตกลอกได้ง่าย
    - - เพราะจะทำให้ผิวอักเสบ เกิดเป็นแผล และมีโอกาสติดเชื้อ หรือเป็นรอยดำ
    - - ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มอื่นๆ เช่น น้ำผลไม้ นม รวมกันอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน
        
        หลีกเลี่ยงแสงแดดให้มากที่สุด --> กางร่มทุกครั้งเมื่อต้องตากแดด
        
        สวมเสื้อผ้าและชุดชั้นในที่ใส่สบาย บางเบา ซับเหงื่อ
        
        ไม่ถูสบู่หรือฟอกบริเวณที่เป็นผื่น --> เลี่ยงการอาบน้ำอุ่น
        
        ไม่สวมเครื่องประดับที่ทำจากนิกเกิล เช่น ตุ้มหู สร้อยคอ เพราะอาจแพ้นิกเกิลได้
  - - - เกิดรอยดำคล้ำบริเวณต่างๆ
      - เม็ดสิวเห่อขึ้นที่หน้า หรือตามลำตัว
        
        หรือสิวที่มีอยู่อาจหายได้
      - ติ่งเนื้อสีน้ำตาลดำ มักเกิดขึ้นที่คอ รักแร
        
        แต่ไม่ได้เป็นอันตรายต่อคุณแม่หรือลูกน้อย
        
        ซึ่งไม่ได้เกิดจากการแพ้อาหารหรือสารเคมี
      - ผื่นคัน ผื่นลมพิษ ตุ่มแดง หรือคันตามผิวหนัง
  - - - ทำให้เม็ดสีของผิวหนังทำงานมาก ขึ้นจึงทำให้มีสีเข้มกว่าปกติ
        
        โดยเฉพาะผิวหนังที่มีการเสียดสีบ่อยๆ
      - //. เนื่องจากมดลูกขยายตัวเพื่อรองรับทารกในครรภ์ ที่ค่อยๆเติบโต
- - - - ทำให้มีเลือดคั่งที่เนื้อเยื่อเหงือกมากขึ้น
        
        เหงือกบวมและมีเลือดออกได้ง่าย
  - - - เพื่อป้องกันการเกิดแผลหรือรอยขีดข่วนที่เหงือก
- - - - เพื่อกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวได้ดีขึ้น
  - - - • ทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวและบีบตัว —> เพื่อขับกากอาหารออกมาเป็นอุจจาระได้ช้าลง
      - • แบคทีเรียในลำไส้จึงย่อยกากอาหารจนเกิด แก๊สคั่งค้างในลำไส้จำนวนมาก
    - - ทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร
        
        เช่น
        
        นม
        
        ถั่ว
        
        ข้าวโพด
        
        กะหล่าปลี
        
        หัวหอม
        
        ผักกาด
        
        น้ำอัดลม
- - - - กระตุ้นปากมดลูกให้ผลิตมูกมากขึ้น
  - - - เพราะสารคัดหลั่งในช่องคลอด ซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาฆ่าเชื้ออย่างดีจะถูกล้างออกไปด้วย
    - - เมื่อซักแล้วให้นาออกตากแดดจัดๆ
        
        เพื่อฆ่าเชื้อโรค
    - - ให้ไปพบแพทย์
    - - เช่น
        
        สีเหลืองเข้มหรือสีปนเขียวขุ่นข้น
        
        เป็นก้อน คล้ายนมบูด
        
        กลิ่นเหม็น
        
        คันหรือปวดแสบปวดร้อนบริเวณช่องคลอด
        
        แสดงว่า
        
        มีการติดเชื้อต้อง --> ไปพบแพทย์
        
        เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและปลอดภัย
  - - - สีขาวใสหรือขาวขุ่น ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่ทาให้คันช่องคลอด
    - - ตกขาวมากกว่าปกติมีสีเหลืองเขียวหรือเทา กลิ่นเหม็นคันหรือแสบ ร้อนช่องคลอด
        
        อาจมีการติดเชื้อราหรือแบคทีเรีย
- - - - ร่างกายสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่
        เกิดขึ้นได้ แต่บางครั้งก็รู้สึกเหงาๆ เบื่อๆ อยู่บ้าง
- - - - แนะนำ
        
        (อย่าแหงนหน้าไปข้างหลัง)
        
        เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดไหลย้อนลงไปในโพรงจมูกทำให้สำลักเวียนหัวและอาเจียนได้
      - รักษาระดับศีรษะให้อยู่สูงกว่าระดับหัวใจ
        ช่วยให้เลือดกำเดาค่อยๆ หยุดไหล
    - - ซึ่งความเย็นที่แผ่กระจาย
        
        ทำให้เลือดที่หมุนเวียนไปอุดคั่งที่จมูกลดจำนวนลง
        จนเลือดกำเดาหยุดไหล
  - - - เนื่องจากร่างกายผลิตเลือดมากขึ้น
        ทำให้เกิดอาการบวมของเส้นเลือดและเกิดเลือดออกได้ง่าย
- - - - ตั้งครรภ์ครั้งแรก
        
        อาจเป็นสีชมพู ม่วง หรือ ดำในคนผิวคล้ำ
      - เคยตั้งครรภ์มาแล้ว
        
        อาจะเป็นสีขาวหรือสีเงินยวง