Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคความดันโลหิตสูงร่วมกับการตั้งครรภ์, นางสาววิธิดา ประมวล เลขที่ 71…
โรคความดันโลหิตสูงร่วมกับการตั้งครรภ์
ประเภท
2.Pre-eclampsia
การวินิจฉัย
End-organ dysfunction
Renal insufficiency: creatinin > 1.1 mg/dl
Impaired liver function: serum liver enzymes
สูงกว่าปกติอย่างน้อย 2 เท่า
Thrombocytopenia: Plt < 100,000 cell/mm3
Pulmonary edema
Blood pressure
SBP > 140 mmHg and/or
DBP > 90 mmHg
วัด 2 ครั้งห่างกันอย่างน้อย 4 ชม.
SBP > 160 mmHg and/or
DBP > 110 mmHg
ยืนยันภายในระยะเวลาอันสั้น (1-2 นาที)
เพื่อการรักษาโดยเร็ว
Severe features of preeclampsia
SBP > 160 mmHg and/or
DBP > 110 mmHg
Thrombocytopenia: Plt < 100,000 cell/mm
Renal insufficiency: creatinin > 1.1 mg/dl
Impaired liver function: serum liver enzymes (AST/ALT) สูงกว่าปกติ อย่างน้อย 2 เท่า
อาการปวดใต้ชายโครงขวารุนแรงหรืออาการปวดใต้ลิ้นปี่ที่ไม่ตอบสนองต่อยา
Pulmonary edema
อาการปวดศีรษะที่เกิดขึ้นใหม่
การรักษา Severe preeclampsia
หยุดให้ยากรณี Reflex หายไป R<12-14 ครั้ง/นาที ปัสสาวะออก < 25 ml/hr
พิจารณาสิ้นสุดการตั้งครรภ์เมื่อมีอาการคงที่
ให้ยาป้องกันการชัก ที่นิยมคือ MgSO4 โดยให้ก่อนชักนำ
การคลอดระหว่าง LP และให้ต่อหลังคลอด 12-24 hrs
ควบคุมการรับประทานอาหารเค็ม
สาเหตุและพยาธิกำเนิด
หลอดเลือดหดเกร็ง (vasospasm) ทั่วร่างกาย
เกล็ดเลือดจับตัวและไฟบรินสะสม เกิดเกล็ดเลือดต่ำภาวะเลือดไม่แข็งตัว (DIC)
หลอดเลือดเล็กถูกทำลาย
การไหลเวียนของเลือดในอวัยวะสาคัญลดลง
เช่น ตับไต หัวใจ สมอง มดลูก
การรักษา mild pre-eclampsia
การดูแลตนเองที่บ้าน
นอนพักในท่านอนตะแคง
สังเกตการดิ้นของทารกในครรภ์วันละ 3 ครั้ง
ควรชั่งน้ำหนักทุกวัน
สังเกตอาการปวดศีรษะที่รุนแรงมากขึ้น
อาการปวดบริเวณชายโครงขวาหรือปวดใต้ลิ้นปี่
ควบคุมอาหารเค็มให้อยู่ระดับปานกลาง
การรักษาตัวในโรงพยาบาล
ควบคุมอาหารเค็ม
การนับเด็กดิ้น
นอนพักในท่านอนตะแคงซ้าย
ให้ยาสเตียรอยด์
1. Gestational hypertension
-SBP > 140 mmHg,
-DBP > 90 mmHg
ตรวจพบภายหลังอายุครรภ์ 20 สัปดาห์
ไม่พบความผิดปกติของระบบอวัยวะสำคัญ
3.Chronic hypertension
SBP > 140 mmHg and/or DBP > 90 mmHg ก่อนอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ ความดันโลหิตสูงที่วินิจฉัยมาก่อนการตั้งครรภ์
วินิจฮัยเป็น stage 1 hypertension ก่อนการตั้งครรภ์
20-50 % พัฒนาเป็น superimposed preeclampsia
4.Chronic hypertension with superimposed preeclampsia
A sudden increase in baseline hypertension
A sudden increase in proteinuria
A sudden increase in liver enzymes
New onset of Thrombocytopenia
Elevated uric acid levels
เกณฑ์การวินิจฉัยภาวะ HELLP
Hemolysis ( Abnormal peripheral smear และ LDH > 600 IU/L) และ/หรือ serumbilirubin > 1.2 mg/dl
Elevated Liver enzymes (AST or ALT สูงกว่า 2 เท่าของค่าปกติ)
Low platelets (platelets < 100,000 cell/mm3)
กรณีมีไม่ครบ 3 อาการเรียก Partial HELLP syndrome หรือ ELLP syndrome
อาการแสดง
ปวดบริเวณใต้ชายโครงด้านขวาและรู้สึกไม่สบายตัวอ่อนเพลียมาก (90%) คลื่นไส้อาเจียน (50%)
อาจมี หรือไม่มี ความดันโลหิตสูงหรือโปรตีนในปัสสาวะ
Eclampsia
ความหมาย
การชัก (tonic-clonic, focal or multifocal seizures) เกิดขึ้นครั้งแรกที่ไม่ได้เกิดจากสาเหตุอื่น
การชักที่เกิดขึ้นครั้งแรกในระยะ 48-72 ชม.หลังคลอด
การชักในขณะที่ได้รับยา magnesium sulfate
อาการอาการนำก่อนการชัก
ปวดศีรษะมาก บริเวณหน้าผาก หรือท้ายทอย
ตาพร่ามัว อาเจียน
Hyperreflexia
จุกแน่นลิน้ป่ีหรือเจ็บใต้ชายโครงขวา
ภาวะแทรกซ้อนภายหลังการชัก
-การบาดเจ็บจากการชัก
-Aspiration pneumonia
-เลือดออกในสมอง
-ภาวะ acidosis
-ภาวะขาดออกซิเจน hypoxic encephalopathy
สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง
ร่วมกับการตั้งครรภ์
รกสร้าง Tromboxane น้อยกว่า Prostacycline ร่างกายจะสร้าง Angiotensin II เพิ่มขึ้น เพื่อทำให้หลอดเลือด
หดตัว ทำให้มารดามี BP สูงขึ้น
การเปลี่ยนแปลงในมารดาและทารก
ระบบประสาททำให้เนื้อเยื่อในสมองบวม มีเลือดออก และเกิดเนื้อตายในสมอง
ระบบหัวใจและหลอดเลือดสารน้ำในหลอดเลือด รั่วออกคั่งตามเนื้อเยื่อต่างๆ
ระบบโลหิตวิทยาเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เรียกว่า HELLP syndrome
ระบบการทำงานของปอดทำให้เกิดภาวะปอดบวม
ระบบปัสสาวะเกิดไตวาย
ระบบการทำงานของตับ เกิดการตายของเนื้อเยื่อในตับ
การเปลี่ยนแปลงของกล้ามเนื้อมดลูกและรกทำให้ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์
ผลกระทบ
มารดา
ภาวะหัวใจทำงานล้มเหลว
เสียเลือดและช็อคจากรกลอกตัวก่อนกำหนด
อันตรายจากภาวะชัก
เกิดภาวะ HELLP syndrome
ทารก
รกเสื่อม
คลอดก่อนกำหนด
รกลอกตัวก่อนกำหนด
ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์
การดูแล
ระยะหลังคลอด
ในรายที่ได้ยาลดความดันโลหิตขณะเจ็บครรภ์คลอด
วัด BP ทุกวันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ จนเป็นปกติ
เริ่มให้ยาลดความดันโลหิต เมื่อ BP 150/100 mmHg
เฝ้าระวังอาการชักภายหลังคลอดในรายที่ไม่ได้รับยาลดความดันโลหิตช่วงตั้งครรภ์
หลังคลอด
กรณีใช้ยาลดความดันโลหิตต่อเกิน 6 สัปดาห์ ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
นัดติดตามหลังคลอด 6-8 สัปดาห์
นางสาววิธิดา ประมวล เลขที่ 71 ชั้นปีที่ 3