Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
วัยทารกแรกเกิด (Infancy)(คลอด-2สัปดาห์หลังคลอด), นางสาววรรณภา ช่อทับทิม…
วัยทารกแรกเกิด (Infancy)(คลอด-2สัปดาห์หลังคลอด)
พัฒนาการทางร่างกาย
รูปร่างทารกแรกเกิด
ร่างกายของทารกในช่วงแรกคลอดนี้จะดูแล้วไม่น่ารัก สัดส่วนยังไม่ดีนัก เพราะว่าศีรษะจะโตมากกว่าลำตัว อีกทั้งมีใบหน้าอูม คอสั้น แขน ขาก็สั้นไม่เข้าที่ เมื่อจับศีรษะจะค่อนข้างนุ่ม เนื่องจากกะโหลกยังประสานไม่สนิท
ผิวทารกแรกเกิด
มีเลือดและไขมันเคลือบที่ผิวเรียกว่า เวอร์นิกซ์(Vernix) ทำหน้าที่ช่วยหล่อลื่นให้ออกจากช่องคลอดได้สะดวกยิ่งขึ้น และมีเมือกเลือดต่างๆ ที่ติดอยู่ตามตัว เมื่อทำความสะอาดให้ เมื่อไขมันเริ่มหลุดไปก็มักทำให้ผิวชั้นนอกของทารกแห้งและลอก แต่เพียงแค่ 1-2 สัปดาห์
การมองเห็น
ไม่สามารถจับจ้องสิ่งใดได้จนกว่าจะมีอายุ7 วัน ต่อมน้ำตายังไม่ทำงานในระยะแรก เวลาทารกร้องไห้จึงยังไม่มีน้ำตาออกมา
การได้ยิน
ทารกจะมีพัฒนาการด้านการได้ยินขึ้นทันทีตั้งแต่ออกจากท้องแม่ โดยทารกจะมีปฏิกิริยาเมื่อมีเสียงแปลกๆ เข้ามากระทบ
การสัมผัส
ทารกแรกเกิดมีความไวต่อประสาทสัมผัสทางกาย โดยเฉพาะอ้อมกอด ทารกยังรับรู้ได้อีกว่าคุณแม่กำลังอยู่ในอารมณ์ใด
การกิน
นมแม่หลังคลอดจะมีลักษณะเป็นน้ำนมเหลืองที่เรียกว่า โคลอสตรัม (Colostrum) ซึ่งน้ำนมเหลืองให้พลังงาน โปรตีน ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ พร้อมทั้งภูมิคุ้มกันธรรมชาติแก่ทารกด้วย ที่สำคัญคุณแม่ควรให้ลูกดูดนมข้างละประมาณ 15 นาที
การขับถ่าย
มีอุจจาระที่ดำๆ เขียวๆ ที่เรียกว่า “ขี้เทา” มีลักษณะนุ่มเหนียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ของทารก จากเมื่อตอนที่ยังอยู่ในท้องแม่ ถ้าลูกยังไม่อุจจาระภายใน 24 ชั่วโมงแล้ว ให้รีบปรึกษาแพทย์เพราะลูกอาจจะเกิดลำไส้อุดตันได้
พัฒนาการทางอารมณ์
ระยะแรกคลอดทารกจะมีอารมณ์ตื่นเต้นเพียงอย่างเดียว ค่อยพัฒนาการทางอารมณ์
อารมณ์พอใจ แจ่มใส ดีใจ จะเกิดเมื่อทารกถูกสัมผัสตัวเบา ๆ
อารมณ์ไม่พอใจ เมื่อทารกถูกจับไม่ให้เคลื่อนไหว ถูกเปลี่ยนท่าอย่างรวดเร็วได้ยินเสียงดังทันที
พัฒนาการทางสังคม
การร้องไห้ระดับเสียงจะบ่งบอกถึงความรู้สึกและความต้องการของทารก
เสียงร้องครวญครางสลับกับแผดแหลม=ความเจ็บปวด
เสียงร้องไห้ที่ดัง และหยุดเป็นระยะ = หิวหรือไม่สุขสบาย
พัฒนาการทางสติปัญญา
สามารถแยกเสียงที่แตกต่างกันได้ชอบฟังเสียงที่นุ่มนวล ไพเราะ และสามารถมองตามของเล่นที่มีสีสดใส เช่น สีแดง
สีเหลือง สีเขียว ในระยะ 8 นิ้วที่อยู่กลางลานสายตาได้
พัฒนาการทางบุคลิกภาพ
บุคลิกภาพพัฒนามาแล้วตั้งแต่พัฒนาการในระยะวัยก่อนเกิดฉะนั้นเมื่อทารกเกิดออกมาจึงเห็นความแตกต่างของทารกได้แล้ว
การส่งเสริมพัฒนาการวัยทารกแรกเกิด
ผู้เลี้ยงดูควรตอบสนองความต้องการของทารกอย่างเหมาะสมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และ สังคม คือ การให้ได้รับอาหารเมื่อทารกหิว
ผู้เลี้ยงดูควรได้รับความรู้ความเข้าใจในเรื่องการดูแลทารกแรกเกิด เช่นพัฒนาการด้านต่างๆ ของทารก
ผู้เลี้ยงดูควรมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีมั่นคง
พฤติกรรมปฏิกิริยารีเฟลกซ์
ปฏิกิริยารีเฟลกซ์เปล่งเสียงร้องและเริ่มหายใจ
ออกจากครรภ์ก็ต้องใช้อวัยวะเหล่านี้ เป็นปฏิกิริยารีเฟลกซ์ต่อบรรยากาศของโลกที่กดดันร่างทารกทั่วตัว การไหลเข้าของอากาศทางรูจมูกไปตามหลอดลมนำไปถึงปอด กระตุ้นให้เกิดการกระตุกขึ้นที่อวัยวะเปล่งเสียง นั่นคือ ลูกน้อยร้องจ้าขึ้น ปอดก็เริ่มทำงานสูบลมเข้า ระบายลมออกเป็นจังหวะ นับได้ว่าเป็นการเปิด “ระบบ”
ปฏิกิริยารีเฟลกซ์ดูดอาหาร (rooting reflex)
เพื่อให้ทารกสามารถรู้จักเลี้ยงชีพได้ทันทีภายนอกครรภ์มารดา มีพฤติกรรมที่เรียกว่า rooting reflex อีกเมื่อเอานิ้วชี้แตะเบาๆ ข้างมุมปาก แล้วเลื่อนนิ้วไปทางแก้ม แล้วทารกหันศีรษะตามนิ้วที่สัมผัส
ปฏิกิริยารีเฟลกซ์กำมือ (grasping reflex)เมื่อฝ่ามือของทารกถูกสัมผัส ทารกกำมือแน่น รีเฟล็กซ์นี้หายเมื่ออายุ6-12 สัปดาห์
ปฏิกิริยารีเฟลกซ์โมโร (moro reflex) ตบมือให้เกิดเสียงดัง ทารกตอบสนองโดยยกแขนและขา แบมือ และกางแขนออก แล้วโอบเข้าหากัน การผวาพบได้จนถึงอายุ6 เดือน
ปฏิกิริยารีเฟลกซ์แห่งท่านอน t-n-r (tonic neck reflex) เรียกว่า ท่าฟันดาบ (fencing position) จัดให้ทารกนอนหงาย และหันหน้าไปด้านหนึ่ง ทารกตอบสนองโดยเหยียด แขนและเข่าด้านที่หันหน้า และงอแขนและเข่าข้างตรงข้าม
ปฏิกิริยารีเฟลกซ์เกี่ยวกับการเดิน
ปฏิกิริยาก้าวขึ้น (placing reflex) ให้หลังเท้าสัมผัสขอบโต๊ะทารกตอบสนองโดยการยกเท้าและงอข้อเข่าและข้อตะโพกรีเฟล็กซ์หายเมื่ออายุ4-6 สัปดาห์
ปฏิกิริยารีเฟลกซ์ก้าวย่าง (stepping reflex) เมื่ออุ้มทารกในท่ายืน และปล่อยให้เท้าสัมผัสพื้นเล็กน้อย ทารกจะชักขาขึ้นละม้ายคล้ายการเดินบนอากาศ
ปฏิกิริยาสะท้อนของเท้า (Babinski Reflex) คือเมื่อมีสิ่งใดมากระทบเท้าของทารกทารกจะหดเท้า แล้วนิ้วเท้าจะกางออกทันที
นางสาววรรณภา ช่อทับทิม 621201153