Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาการเด็ก - Coggle Diagram
การส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาการเด็ก
ความแตกต่างระหว่างเด็กและผู้ใหญ่4ด้าน
1.ด้านลักษณะโครงสร้างและกายวิภาคได้แก่
1.1ขนาดและรูปร่าง
1.2 ศีรษะและรอยต่อของกะโหลกศีรษะศีรษะมีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับลำตัว/รอยต่อทำให้มีการเพิ่มความดันได้ง่าย
1.3 กระดูกกะโหลกศีรษะและกระดูกทรวงอกอ่อนทำให้กระดูกผิดรูปได้ง่าย
1.4 หูรูดของกระเพาะอาหารส่วนบนปิดไม่สนิท และความจุของกระเพาะอาหารเล็ก ทำให้สำรอกอาเจียนได้ง่าย
1.5 Eustachian tube สั้นและตรง
ด้านสรีรวิทยาได้แก่
2.1ค่าปกติของส่วนประกอบของเลือด
2.2 ค่าสัญญาณชีพชีพจรเร็วหายใจเร็ว
2.3 การทำหน้าที่ของไตยังไม่สมบูรณ์
2.4 ความต้องการอาหารและน้ำตามสัดส่วนของน้ำหนักตัวมากกว่าผู้ใหญ่
2.5 การดูดซึมสารน้ำทางเส้นเลือดดำช้า ถ้าได้รับเร็วเกินไปจะเกิดอันตราย
2.6 ภาวะกรดด่างในร่างกายเกิดขึ้นได้ง่าย
2.7ความต้านทานโรคมีน้อย
2.8 ศูนย์ควบคุมความร้อนที่สมองยังไม่ดี
2.9ระบบประสาทส่วนกลางยังไม่เจริญ
2.10 กล้ามเนื้อที่ช่วยในการหายใจไม่เจริญเต็มที่
ระดับสติปัญญาและพฤติกรรมการแสดงออกด้านจิตใจอารมณ์มีน้อยกว่าผู้ใหญ่
การตอบสนองด้านจิตใจอารมณ์ขณะเจ็บป่วยและขณะอยู่โรงพยาบาลขึ้นอยู่กับพัฒนาการ
หลักการพยาบาลเด็ก
การใช้กระบวนการพยาบาลในการพยาบาลผู้ป่วยเด็ก
1.1"การประเมินปัญหาจากข้อมูลด้านต่างๆของเด็กและครอบครัวให้ครอบคลุมทั้งด้านร่างกายจิตใจอารมณ์สังคมและพัฒนาการได้จาการสังเกตซักถามจากเด็กและบิดามารดา"
1.2"การวินิจฉัยการพยาบาลการระบุปัญหาของเด็กจากข้อมูลทุกด้านที่มีอยู่โดยแยกแยะเป็นหมวดหมู่ว่าเป็นภาวะเสี่ยงรือปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว"
1.3 การวางแผนการปฏิบัติเมื่อได้ระบุปัญหาหรือข้อวินิจฉัย
1.4"การปฏิบัติการพยาบาลเป็นการนำแผนกิจกรรมที่วางไว้ไปปฏิบัติโดยคำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับเด็กและความปลอดภัยของเด็กด้วย"
1.5"การประเมินผลการประเมินผลกิจกรรมพยาบาลตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หากยังคงมีปัญหาอยู่ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนแผนการพยาบาล"
บทบาทของพยาบาลเด็กในปัจจุบันพยาบาลเด็กมีบทบาทที่ขยายออกไปดังนี้ในปัจจุบัน
2.1 บทบาทด้านการปฏิบัติการพยาบาลโดยตรง
2.2 การให้สุขศึกษาเด็กและญาติ
2.3 การปกป้องเด็กปกป้องสิทธิความเป็นบุคคล
2.4"การจัดการเกี่ยวกับเด็กเป็นรายกรณีเพื่อช่วยแก้ปัญหาประสานงานกับทีมสุขภาพและวางแผนการจำหน่าย"
องค์การอนามัยโลก
สุขภาพ=สุขภาวะภาวะที่มีความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายจิตใจ อารมณ์สังคมจิตวิญญาณและการอยู่อย่างเป็นสุขในสังคม
สุขภาพเป้าหมายการสร้างเสริม
สุขภาพที่เพิ่มขึ้นหรืออย่างน้อยให้เสื่อมช้ากว่าที่ควร
คนสามารถควบคุมสุขภาพได้ด้วยตนเอง ดยใช้แนวคิดทางสังคมเรื่อง “ การเพิ่มพลังอำนาจ”
"กฎบัตรออตาวาเพื่อการส่งเสริมสุขภาพว่าด้วยยุทธศาสตร์การส่งเสริม"
1.การสร้างนโยบายสาธารณสุขเพื่อสุขภาพ
2.การสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ
การสร้างเสริมกิจกรรมชุมชนเข้มแข็ง
การพัฒนาทักษะส่วนบุคคล
การปรับเปลี่ยนระบบบริการสุขภาพ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่10(พ.ศ. 2550 -2554)
น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางการพัฒนาสุขภาพ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่11(พ.ศ.2555-2559)
น้อมนำปรัชญา....“เศรษฐกิจพอเพียง”เป็นแนวทางการพัฒนาแบบบูรณาการเป็นองค์รวม“คนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา”
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่12(พ.ศ.2560–2564)
“ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”“การพัฒนาที่ยั่งยืน”และ“คนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา”
ปรัชญานำทาง“เศรษฐกิจพอเพียงสู่สุขภาพพอเพียง”7ประการ
1.ยืดทางสายกลาง
2.มีความสมดุลพอดี
3.รู้จักพอประมาณ
4.การมีเหตุผล
5.มีระบบภูมิคุ้มกัน
6.รู้เท่าทันโลก
7.มีคุณธรรมจริยธรรม
นโยบายการสร้างเสริมสุขภาพเด็ก
โดยUNICEF&WHO&UNESCO
1.เด็กทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตรอดพัฒนาความสามารถจนเต็มศักยภาพได้รับการพิทักษ์คุ้มครองสิทธิร่วมกิจกรรมตามความสามารถ
2."แม่ควรเว้นการมีบุตรอย่างน้อย2ปีหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์ก่อนอายุ20ปี และหลังอายุ35ปี"
3."หญิงตั้งครรภ์ต้องการอาหารการพักผ่อนการเอาใจใส่จากสามีและบุคคลรอบข้าง"
4."เด็กควรได้รับการดูแลสุขภาพเอาใจใส่ให้เกิดการเรียนรู้ที่ดีจากคนและสิ่งแวดล้อม"
5.ให้นมแม่อย่างเดียวใน6เดือนแรกหลังจากนั้นควรได้อาหารอื่นควบคู่กับนมแม่"
6."เด็กแรกเกิด6ปีควรได้รับการตรวจสุขภาพและติดตามการเจริญเติบโตให้เป็นไปตามมาตรฐาน"
7."เด็กทุกคนควรได้รับวัคซีนตามกำหนดโดยเฉพาะในขวบปีแรกหญิงก่อนมีคู่ครองควรได้รับวัคซีนป้องกันหัดเยอรมันหญิงตั้งครรภ์ควรได้รับวัคซีนป้องกันบาดทะยัก"
8."เด็กที่เกิดภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรงจากการถ่ายเหลวควรให้สารละลายน้ำตาลเกลือแร่หรือยาที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแนะนำเท่านั้นไม่ควรซื้อยากินเอง"
9."ไม่ประมาทเมื่อเด็กเป็นหวัดสังเกตอาการหายใจเร็วหอบเหนื่อยเด็กอาจเป็นปอดบวมหรือปอดติดเชื้อควรรีบพาไปพบแพทย์"
10.ไม่ควรให้ยุงกัดเพราะยุงเป็นพาหะของโรคมาลาเรียไข้เลือดออกไข้สมองอักเสบ
11.ให้ความรู้เรื่องการป้องกันโรคเอดส์
12.สุขอนามัยและมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดีโดยดื่มน้ำป้องกันการเจ็บป่วยด้วยการรักษาสะอาดจากแหล่งน้ำที่ปลอดภัย
จัดสภาพแวดล้อมเด็กให้ปลอดภัย
14."ในภาวะภัยพิบัติฉุกเฉินควรดูแลสุขภาพเด็กให้วัคซีนอาหารเอาใจใส่เป็นพิเศษ"
สิทธิเด็กขั้นพื้นฐานที่สำคัญ4ประการคือ
สิทธิที่จะมีชีวิตอยู่รอด
สิทธิที่จะได้รับการพัฒนารอบด้าน
สิทธิที่ได้รับการปกป้องคุ้มครอง
สิทธิการมีส่วนร่วม
บทบาทพยาบาลในการสร้างเสริมสุขภาพเด็ก
ส่งเสริมให้บิดามารดาเป็นต้นแบบชีวิตที่ดีของเด็ก
สร้างความเข้าใจให้บิดาเลี้ยงดูบุตรอย่างเหมาะสมตามความต้องการของเด็ก
พัฒนาคุณภาพงานบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับครอบครัว
ส่งเสริมให้บิดามารดาดูแลสุขภาพของเด็กอย่างเต็มความสามารถ
ให้บิดามารดามีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกรักษา
เป็นตัวกลางประสานระหว่างกลุ่มผลประโยชน์เพื่อเป้าหมายสุขภาพ
เป็นปากเสียงให้กับประชาชนในเรื่องสุขภาพ
สนับสนุนจัดกิจกรรมของครอบครัวในการพัฒนาชุมชน
รณรงค์เรื่องครอบครัวศึกษา สร้างความเข้าใจผ่านสื่อ
บทบาทครอบครัวแนวคิดการดูแลเด็กโดยที่ใช้ครอบครัวเป็นหลัก
ตระหนักว่าครอบครัวเป็นหลักที่มั่นคงของเด็ก
เอื้ออำนวยและประสานความร่วมมือกับพ่อแม่
ยกย่องให้เกียรติ
ยอมรับความเป็นปัจเจกบุคคล
แลกเปลี่ยนและร่วมมือกับพ่อแม่ในการดูแลสุขภาพ
กระตุ้นและเอื้อให้มีเครือข่ายครอบครัว
สร้างความเข้าใจและประสานความร่วมมือในการพัฒนาเด็ก
ประคับประคองครอบครัว
9.กำหนดรูปแบบการดูแลสุขภาพให้ยืดหยุ่น