Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
(ทฤษฎีการบริหารสมัยใหม่(Modern theory)), ทฤษฎีการบริหารสมัยใหม่(Modern…
ทฤษฎีการบริหารสมัยใหม่(Modern theory)
การทำงานเป็นกลุ่มหรือเป็นทีมและงาน
เหล่านั้นจะต้องจัดเป็นระบบ (system)
1.ทฤษฎีระบบ(System theory
ระบบปิด
ระบบที่มีความสมบูรณ์ภายในตัวเองไม่พยายามผูกพันกับระบบอื่น
ระบบเปิด
ระบบที่อาศัยการติดต่อสัมพันธ์กับบุคคล องค์การหรือหน่วยงานอื่นๆ
ประกอบด้วย5 ส่วน
ข้อมูลย้อนกลับ(Feedback)
สิ่งแวดล้อม
ผลผลิต (Outputs)
กระบวนการแปรสภาพ(Transformation process)
ปัจจัยนำเข้า (Inputs)
2.ทฤษฎีบริหารตามสถานการณ์ (Contingency Theory)
2.1 ฟีดเลอร์
พัฒนารูปแบบจำลอง “ความเป็นผู้นำตามสถานการณ์”
Least Preferred Co-worker : LPC ในการประเมินรูปแบบผู้นำว่า
รูปแบบเน้นความสัมพันธ์หรือเน้นงาน
ต้องมีการเปลี่ยน
สถานการณ์ให้เข้ากับรูปแบบภาวะผู้นำ
ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของสถานการณ์
ในขณะนั้น วิธีการบริหารจะไม่ตายตัว
2.2 วรูม และ เยตัน
เสนอทฤษฎีความเป็นผู้นำเชิง
สถานการณ์ Leader Participation Model
หลักการสำคัญคือ การเน้นการเพิ่มคุณภาพการตัดสินใจของผู้นำ โดย
เปิดโอกาสให้ผู้ตามมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
ทฤษฎีการตัดสินใจ (decision making theory) ผู้บังคับบัญชาอาจฟังความคิดเห็นจาก
ผู้ใต้บังคับบัญชา
2.3 โรเบิร์ต เฮาส์ (Robert House)
เสนอแนวความคิดผู้นำเชิงสถานการณ์ ทฤษฎีเส้นทาง-เป้าหมาย(Path-goal Theory)
มีความเห็นว่า “ภาวะผู้นำเกี่ยวข้องกับการจูงใจ แบบของภาวะผู้นำขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ผู้นำสามารถให้ความสำคัญทั้งคนและงานในเวลาเดียวกันโดยใช้อิทธิพลของแรงจูงใจ”
กล่าวได้ว่า “ใช้แรงจูงใจเป็นแรงผลักให้สู่เป้าหมายทั้งส่วนบุคคลและขององค์การ”
2.4 เฮร์เซย์และแบลนชาร์ด ( Hersey and Blanchard )
ระดับความพร้อมของผู้ตามเป็น 4 ระดับ
R2 = ไม่มีความสามารถ แต่ เต็มใจที่จะทำ ถือว่า “ความพร้อมปานกลาง”
R3 =มีความสามารถ แต่ ไม่มีความเต็มใจที่จะทำ ถือว่า “ความพร้อมปานกลาง”
R4 =มีความสามารถและเต็มใจที่จะทำ ถือว่า “ความพร้อมสูง”
R1= ไม่มีความสามารถและไม่มีความเต็มใจที่จะทำ ถือว่า “ความพร้อมต่ำ”
2.เปลี่ยนชื่อรูปแบบผู้นำ 4 รูปแบบ
S1 คือ การออกคำสั่ง (Direction)
S2 คือ การสอนงาน (Coaching)
S3 คือ การสนับสนุน (Supporting)
S4 คือ การมอบหมายงาน (Delegating)
1.เปลี่ยนระดับความพร้อมของผู้ตามเป็น ความสามารถและความผูกพัน
3.แบ่งพฤติกรรมพื้นฐานของผู้นำเป็น 4 แบบ
งานสูง – สัมพันธ์ต่ำ(S1)(Telling)สั่งการ
งานสูง – สัมพันธ์สูง(S2)(Selling) ขายความคิด
งานต่ำ–สัมพันธ์สูง(S3)(Participating)แบบมีส่วนร่วม
งานต่ำ–สัมพันธ์ต่ำ(S4)(Delegating)มอบอำนาจ
ทฤษฎีการบริหารสมัยใหม่(Modern theory)
การทำงานเป็นกลุ่มหรือเป็นทีมและงาน
เหล่านั้นจะต้องจัดเป็นระบบ (system)
1.ทฤษฎีระบบ(System theory
ระบบปิด
ระบบที่มีความสมบูรณ์ภายในตัวเองไม่พยายามผูกพันกับระบบอื่น
ระบบเปิด
ระบบที่อาศัยการติดต่อสัมพันธ์กับบุคคล องค์การหรือหน่วยงานอื่นๆ
ประกอบด้วย5 ส่วน
ข้อมูลย้อนกลับ(Feedback)
สิ่งแวดล้อม
ผลผลิต (Outputs)
กระบวนการแปรสภาพ(Transformation process)
ปัจจัยนำเข้า (Inputs)
2.ทฤษฎีบริหารตามสถานการณ์ (Contingency Theory)
2.1 ฟีดเลอร์
พัฒนารูปแบบจำลอง “ความเป็นผู้นำตามสถานการณ์”
Least Preferred Co-worker : LPC ในการประเมินรูปแบบผู้นำว่า
รูปแบบเน้นความสัมพันธ์หรือเน้นงาน
ต้องมีการเปลี่ยน
สถานการณ์ให้เข้ากับรูปแบบภาวะผู้นำ
ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของสถานการณ์
ในขณะนั้น วิธีการบริหารจะไม่ตายตัว
2.2 วรูม และ เยตัน
เสนอทฤษฎีความเป็นผู้นำเชิง
สถานการณ์ Leader Participation Model
หลักการสำคัญคือ การเน้นการเพิ่มคุณภาพการตัดสินใจของผู้นำ โดย
เปิดโอกาสให้ผู้ตามมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
ทฤษฎีการตัดสินใจ (decision making theory) ผู้บังคับบัญชาอาจฟังความคิดเห็นจาก
ผู้ใต้บังคับบัญชา
2.3 โรเบิร์ต เฮาส์ (Robert House)
เสนอแนวความคิดผู้นำเชิงสถานการณ์ ทฤษฎีเส้นทาง-เป้าหมาย(Path-goal Theory)
มีความเห็นว่า “ภาวะผู้นำเกี่ยวข้องกับการจูงใจ แบบของภาวะผู้นำขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ผู้นำสามารถให้ความสำคัญทั้งคนและงานในเวลาเดียวกันโดยใช้อิทธิพลของแรงจูงใจ”
กล่าวได้ว่า “ใช้แรงจูงใจเป็นแรงผลักให้สู่เป้าหมายทั้งส่วนบุคคลและขององค์การ”
2.4 เฮร์เซย์และแบลนชาร์ด ( Hersey and Blanchard )
ระดับความพร้อมของผู้ตามเป็น 4 ระดับ
R2 = ไม่มีความสามารถ แต่ เต็มใจที่จะทำ ถือว่า “ความพร้อมปานกลาง”
R3 =มีความสามารถ แต่ ไม่มีความเต็มใจที่จะทำ ถือว่า “ความพร้อมปานกลาง”
R4 =มีความสามารถและเต็มใจที่จะทำ ถือว่า “ความพร้อมสูง”
R1= ไม่มีความสามารถและไม่มีความเต็มใจที่จะทำ ถือว่า “ความพร้อมต่ำ”
2.เปลี่ยนชื่อรูปแบบผู้นำ 4 รูปแบบ
S1 คือ การออกคำสั่ง (Direction)
S2 คือ การสอนงาน (Coaching)
S3 คือ การสนับสนุน (Supporting)
S4 คือ การมอบหมายงาน (Delegating)
1.เปลี่ยนระดับความพร้อมของผู้ตามเป็น ความสามารถและความผูกพัน
3.แบ่งพฤติกรรมพื้นฐานของผู้นำเป็น 4 แบบ
งานสูง – สัมพันธ์ต่ำ(S1)(Telling)สั่งการ
งานสูง – สัมพันธ์สูง(S2)(Selling) ขายความคิด
งานต่ำ–สัมพันธ์สูง(S3)(Participating)แบบมีส่วนร่วม
งานต่ำ–สัมพันธ์ต่ำ(S4)(Delegating)มอบอำนาจ
4.แบ่งผู้นำตามลักษณะความพร้อมด้านวุฒิภาวะของผู้ตาม
ความสามารถ
ความเต็มใจ