Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ทฤษฎีการบริหารสมัยใหม่ (Modern theory) - Coggle Diagram
ทฤษฎีการบริหารสมัยใหม่ (Modern theory)
ทฤษฎีระบบ (System theory)
ผู้คิดค้น : Bertalanffy บิดาแห่งทฤษฎีระบบทั่วไป (General system Theory)
โลกประกอบด้วยระบบต่างๆ มีลำดับชั้นจากระบบเฉพาะเจาะจงไปสู่ระบบที่มีลักษณะทั่วไป 2 ระบบ
ระบบปิด : เป็นระบบที่มีความสมบูรณ์ภายในตัวเอง ไม่พยายามผูกพันกับระบบอื่น
ระบบเปิด : เป็นระบบที่อาศัยการติดต่อสัมพันธ์กับบุคคล องค์การหรือหน่วยงานอื่นๆ
องค์ประกอบของทฤษฎีระบบ (System theory)
ผลผลิต (Outputs)
ข้อมูลย้อนกลับ (Feed Back)
กระบวนการแปรสภาพ (Tranformation Process)
สิ่งแวดล้อม
ปัจจัยนำเข้า (Inputs)
ทฤษฎีบริหารตามสถานการณ์ (Contingency Theory)
มุ่งเน้นให้ยอมรับกันว่าในทางปฏิบัติไม่มีวิธีการบริหารใดที่ดีที่สุด (no one best way) วิธีการบริหารจะไม่ตายตัว ใช้เทคนิคหลายๆอย่างมารวมกัน
ฟิดเลอร์
(Fred Fiedler)
พัฒนารูปแบบจำลอง “ความเป็นผู้นำตามสถานการณ์”
เสนอแนวคิดว่าประสิทธิผลของผู้นำอยู่กับความเหมาะสมระหว่างรูปแบบผู้นำและสถานการณ์
ใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Last Perferred Co-worker : LPC ในการประเมินรูปแบบผู้นำว่ารูปแบบเน้นความสัมพันธ์หรืองาน
ฟิดเลอร์เชื่อว่า ถ้ารูปแบบภาวะผู้นำไม่เปลี่ยน ดังนั้นต้องมีการเปลี่ยนสถานการณ์ให้เข้ากับรูปแบบภาวะผู้นำ
วรูม และ เยตัน
เสนอทฤษฎีความเป็นผู้นำเชิงสถานการณ์ Leader Participation Model
หลักการสำคัญ คือ การเน้นเพิ่มคุณภาพการตัดสินใจของผู้นำ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ตามมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
โรเบิร์ต เฮาส์ (Robert House)
เสนอแนวคิดทฤษฎีเส้นทาง-เป้าหมาย (Path-goalTheory) กล่าวว่า ภาวะผู้นำเกี่ยวข้องกับแรงจูงใจ ใช้แรงจูงใจเป็นแรงผลักให้ไปสู่เป้าหมายทั้งส่วนบุคคลและขององค์การ
เฮร์เซย์และแบลนชาร์ด
(Hersey and Blanchard)
ทฤษฎี “วงจรชีวิต”
ระดับความพร้อมของผู้ตาม
R2 หมายถึง ไม่มีความสามารถ แต่เต็มใจที่จะทำ ถือว่า “ความพร้อมปานกลาง”
R3 หมายถึง มีความสามารถ แต่ไม่มีความเต็มใจที่จะทำ ถือว่า “ความพร้อมปานกลาง”
R1 หมายถึง ไม่มีความสามารถ และไม่มีความเต็มใจที่จะทำ ถือว่า “ความพร้อมต่ำ”
R4 หมายถึง มีความสามารถ และเต็มใจที่จะทำ ถือว่า “ความพร้อมสูง”
รูปแบบผู้นำ
S1 คือ การออกคำสั่ง (Direction)
S2 คือ การสอนงาน (Coaching)
S3 คือ การสนับสนุน (Supporting)
S4 คือ การมอบหมายงาน (Delegating)
พฤติกรรมพื้นฐานของผู้นำ
S2 ขายความคิด (Selling) คือ งานสูง-สัมพันธ์สูง
S3 แบบมีส่วนร่วม (Participating) คือ งานต่ำ-สัมพันธ์สูง
S1 สั่งการ (Telling) คือ งานสูง-สัมพันธ์ต่ำ
S4 มอบอำนาจ (Delegating) คือ งานต่ำ-สัมพันธ์ต่ำ
ทฤษฎี 7 's
แนวคิดแบบจำลองของแมคคินซีย์ (MC Kinsey)
ช่วยให้เกิดความ สำเร็จในองค์การสูง ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของคนอันเป็นปัจจัยพื้นฐานของการสร้างวัฒนธรรมองค์การ
Hard Ss
อุปกรณ์แห่งความสำเร็จ
กลยุทธ์ (Strategy) หมายถึง แผนกำหนดวิธีการ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์การ
ระบบ (System) หมายถึง วิธีการดำเนินงานขององค์การ ระเบียบวิธีปฏิบัติงาน
โครงสร้าง ( structure) หมายถึง การจัดระเบียบองค์ประกอบขององค์การที่เหมาะสม การแบ่งงาน
Soft Ss
ส่วนเนื้อหา
แห่งความสำเร็จ
บุคลากร (staff) หมายถึง ต้องมีความรู้ ความสามารถ มีทัศนคติ และมี “ความรู้สึกเป็นเจ้าขององค์การร่วมกัน”
ทักษะ (skills) หมายถึง ความสามารถเด่นของผู้บริหารในองค์การ เข้มงวด ผ่อนปรน
แบบการบริหาร (style) หมายถึง ลักษณะพฤติกรรมของผู้บริหารที่รู้งานและทำงานจริง
ค่านิยมร่วม (shared values) หรือเป้าหมายสูงสุด หมายถึง มีความเชื่อมั่นในศักยภาพขององค์การและตนเองร่วมกัน
การบริหารคุณภาพทั้งองค์การ
(T. Q. M. = total quality management)
แนวคิดการบริหารที่เป็นวัฒนธรรมขององค์การที่สมาชิกทุกคนให้ความสำคัญและมีส่วนร่วมในการพัฒนา การดำเนินงานขององค์กรอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งตอบสนองความต้องการและความพอใจของลูกค้า
การรื้อปรับระบบ (reengineering)
Michael Hammer และ James Chammy ได้กล่าวว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงแนวการบริหารจัดการแบบใหม่ ซึ่งแตกต่างจากแนวการบริหารจัดการธุรกิจแบบเดิมโดยสิ้นเชิง มีจุดมุ่งหมายให้ผลการทำงานดีขึ้นในหลายๆด้าน และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้รับบริการ
หลักการการปรับรื้อระบบ
ต้องเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่มโหฬาร
ต้องเน้นกระบวนการทํางานโดยใช่บุคลากรน้อยที่สุด
ต้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด
ต้องนําระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในกระบวนการทํางาน
ไม่ยึดติดกับหลักการเก่าๆและแนวคิดเดิม
ต้องกําหนดตัวชี้วัดให้ชัดเจน
ต้องจัดสายบังคับบัญชาให้สั้น แบบแนวราบ
ต้องเน้นการให้ความสําคัญกับเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงาน
ทฤษฎีการบริหารเชิงปริมาณ ( Quality Theory)
นำเอาเทคนิคคณิตศาสตร์ และวิธีการเชิงสถิติเพื่อช่วยในการแก้ปัญหา
แนวคิดที่สำคัญ
การบริหารศาสตร์ (Management Science) เพื่อช่วยให้ผู้จัดการทำการใช้ทรัพยากรองค์การ เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์และบริการให้มากที่สุด
การจัดการปฏิบัติการ (Operations Management) ให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตและการให้บริการให้มีประสิทธิภาพ
ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร (Management Information System : MIS ) เป็นการบริหารจัดการที่มุ่งการเก็บรวบรวมข้อมูลและการส่งข้อมูล ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วย