Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ทฤษฎีการบริหารสมัยใหม่ (Modern Theory) - Coggle Diagram
ทฤษฎีการบริหารสมัยใหม่ (Modern Theory)
แนวคิดยุคนี้ เชื่อว่า การทำงานเป็นกลุ่มหรือเป็นทีม (team) และงานเหล่านั้นจะต้องจัดเป็นระบบ (system) ขั้นตอนสัมพันธ์กัน และระบบจะดีได้ต้องพัฒนาคนให้เป็นคนดี สามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีหลักการ เพื่อพัฒนาโครงสร้างและนโยบายหน่วยงานต่อไป
ทฤษฎีระบบ (System theory)
ระบบปิด (Close system) คือ ระบบที่พึ่งตนเองได้ สมบูรณ์ภายในตัวเอง แยกจากระบบอื่นในสังคม ซึ่งความจริงเป็นไปได้ยาก
ระบบเปิด (Open system) คือ ระบบพึ่งพาสิ่งแวดล้อมเพื่อความอยู่รอด อาศัยการติดต่อกับบุคคล องค์การและหน่วยงานอื่นๆ ในการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่สมดุลซึ่งกันและกัน
การบริหารพยาบาล องค์การพยาบาลจะนำปัจจัย เช่น การรวบรวมข้อมูล ทรัพยากรบุคคล เงิน เครื่องมือ มาดำเนินจัดการ วางแผน ซึ่งออกมาเป็นการบริหารการพยาบาลที่มีคุณภาพ และใช้หลักการประเมินผลออกมา เพื่อให้องค์การเคลื่อนที่ตลอดเวลา
ทฤษฎีบริหารตามสถานการณ์ (Contingency Theory)
เป็นการบริหารไม่ตายตัว ใช้เทคนิคหลายๆอย่างมารวมกัน แต่เริ่มด้วยการวิเคราะห์สถานการณ์ และจบด้วยการด้วยการหาทางเลือก เพื่อแก้ปัญหา การประเมินทางเลือก และให้ข้อเสนอแนะทางเลือกที่ดีที่สุด ผู้บริหารการพยาบาลที่ยึดทฤษฎี สามาระวิเคราะห์ลักษณะเฉพาะ ของแต่ละสถานการณ์นั้น เพื่อกำหนดแนวทางให้เหมาะสมกับโครงสร้างขององค์การ ทรัพยากร เป้าหมาย ผู้ปฏิบัติงาน แต่ต้องคำนึงอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมภายนอก
2.1 ฟีดเลอร์พัฒนารูปแบบจำลอง “ความเป็นผู้นำตามสถานการณ์” ซึ่งเห็นถึงผลกระทบของสถานการณ์ที่มีต่อความเป็นผู้นำ ซึ่งมีตัวแปร ได้แก่ อำนาจหน้าที่ตามตำแหน่ง การยอมรับของผู้ใต้บังคับบัญชา และโครงสร้างของงาน ฟีดเลอร์ใช้ครื่องมือ Least Preferred Co-worker : LPC ประเมินรูปแบบผู้นำเน้นความสัมพันธ์หรือเน้นงาน
2.2 วรูม และเยตัน เสนอทฤษฎีความเป็นผู้นำเชิงสถานการณ์ Leader Participation Model คือ เน้นการเพิ่มคุณภาพการตัดสินใจของผู้นำ
2.3 โรเบิร์ต เฮาส์ (Robert House)เสนอแนวคิดผู้นำเชิงสถานการณ์ทฤษฎีเส้นทาง-เป้าหมาย (Path-goal Theory)
2.4 เฮร์เซและแบลนชาร์ด (Hersey and Blanchard)
ทฤษฎี"วงจรชีวิต"
R1 : ไม่มีความสามารถไม่เต็มใจทีจะทำ ความพร้อมตา
R2 : ไม่มีความสามารถแต่เต็มใจที่จะทำ
R3 : มีความสามารถ แต่ไม่มีความเต็มใจ ความพร้อมปานกลาง
R4 : มีความสามารถและเต็มใจที่จะทำ ความพร้อมสูง
เสนอทฤษฎีภาวะผู้นำตามสถานการณ์
ทฤษฎีการบริหารเชิงปริมาณ (quantitative theory)
3.1.การบริหารศาสตร์ (management science )
เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจให้แก่ผู้บริหาร
ส่วนมากจะนามาใช้สารวจลักษณะงานและปริมาณเวลา
ความต้องการในการปฏิบัติงานของพยาบาลทั้งทางตรงและทางอ้อม
3.2.ระบบสารสนเทศเพื่อการบริการ(management information system : MIS)
เน้นการออกแบบและการนาเอาระบบข้อมูลสารสนเทศ
อาศัยเครื่องคอมพิวเตอร์มาใช้เพื่อการบริหาร
( Computer basedinformation system : CBISs)
ข้อมูลทางการพยาบาลก็มีหลายชนิด เช่น การเบิกยา อาหาร วัสดุการแพทย์แบบบันทึกต่างๆทางการพยาบาล
ผลิตข้อมูลและสารสนเทศที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริหารทุกระดับอย่างกว้างขวาง
และหลากหลาย โดยเฉพาะในการบริหารการพยาบาล
3.3 การจัดการปฏิบัติการ (operations management)
เป็นทฤษฎีสมัยใหม่ที่พัฒนามาจากทฤษฎีการจัดการ
เน้นการใช้แนวทางเชิงปริมาณเข้าช่วยในการตัดสินใจ
ในการบริหารการพยาบาลที่นามาใช้ได้บ่อยคือ การวิเคราห์รายการ โดยนาข้อมูล ผ่านกระบวนการวิเคราะห์หรือแปลงข้อมูลให้อยู่ในโครงสร้างมาตรฐานที่จะนาไปใช้ประโยชน์ได้เช่น วิเคราะห์ว่ามีปัญหาที่ต้องการดูแลจากการพยาบาลอะไรที่พบบ่อยที่สุด
4.ทฤษฎี 7'sซึ่งเป็นแนวคิดแบบจำลองของแมคคินซีย์(Mc Knsey)
Hard Ss เป็นอุปกรณ์แห่งความสำเร็จ
1) โครงสร้าง(structure)หมายถึงการจัดระเบียบองค์ประกอบขององค์การที่เหมาะสม จะช่วยให้องค์การนั้นประสบผลสำเร็จ ได้แก่มีการแบ่งงานรูปแบบง่ายไม่ชับซ้อนมีการกระจายบุคลากรที่เหมาะสมในการให้บริการมีการกระจายอำนาจ ส่งผลให้สามารถบริหารทรัพยากรได้อย่างคล่องตัว
2) กลยุทธ์(strategy)หมายถึงแผนกำหนดวิธีการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์การจะต้องมีแผนพัฒนามีโครงการไว้อย่างเด่นชัดมีการกำหนดวัตถุประสงค์และวิธีดำเนินการที่นำไปสู่การปฏิบัติได้ทุกหน่วยงาน
3)ระบบ(system)หมายถึงวิธีการดำเนินงานขององค์การระเบียบวิธีปฏิบัติงาน ได้แก่ระบบการวางแผนระบบรายงาน การประมินผล ระบบที่ดีเป็นระบบที่นั้นการปฏิบัติ
Soft Ss เป็นส่วนเนื้อหาแห่งความสำเร็จ
1) แบบการบริหาร(st)e)หมายถึง ลักษณะพฤติกรรมของผู้บริหารในองค์การที่รู้งานและทำงานอย่าง
จริงจัง
2) บุคลากร(staf) หมายถึง คุณลักษณะของบุคลากร หน่วยงานจะประสบผลสำเร็จจะต้องมีบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ มีทัศนคติและพฤติกรรมการทำงานที่ตอบสนองเป้าหมายขององค์การ จำนวนเหมาะสมกับปริมาณงานที่ได้รับการพัฒนาความรู้
3) ทักษะ(skills) หมายถึง ความสามารถด่นของผู้บริหารในองค์การที่มีความเข้มงวดและผ่อนปรนอย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง
4) ค่านิยมร่วม(shared values)หรือเป้าหมายสูงสุด หมายถึง ผลรวมของค่นิยมส่วนบุคคลบุคลากรมีความเชื่อมั่นในศักยภาพขององค์การและตนเองร่วมกันนั่นคือองค์การใดจะประสบผลสำเร็จในการบริหารงานนั้นต้องหลอมให้ปัจจัย 7"sที่มีการเลือกแล้วนั้นให้เป็นที่ยอมรับ
การบริหารคุณภาพทั้งองค์การ (T.O.M.-total quality managemen) เป็นแนวคิดการบริหารที่ยึดคุณภาพเป็นหัวใจของทุกเรื่อง เพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพชนะการแข่งขัน
องค์การสมัยใหม่ (Modern Organization)
2 องค์การสมรรถนะสูง
(High Performance Organisation)
1 องค์การแห่งการเรียนรู้
(Learning Organization )
การรื้อปรับระบบ (reengineering) หมายถึงการสร้งกระบวนการทำงานขึ้นไหม่ให้สอดคล้องกับสภาพความเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ ตลอดจนวิทยาการต่างๆ ในปัจจุบันเพื่อให้เกิดประโยชน์และคุณค่สูงสุดแก่
8.องค์การยุคหลังสมัยใหม่(Post Modern
Organization)
8.1 ทฤษฎีไร้ระเบียบ หรือที่มีชื่อเรียกว่า Chaos theory
ความจริงเป็นทฤษฎีทางฟิสิกส์แขนงหนึ่งทีศึกษาถึงกฎเกณฑ์และคุณสมบัติของปรากฏการณ์ทางวัตถุ
ในทาง ฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา
หลังวิกฤต ปีพ.ศ. 2540 Chaos theory และ Quantum
physicsเอามาประกอบกันใช้
เป็นทฤษฎีทั่ว ไปทางสังคม เรียกว่า “ลัทธิไร้ระเบียบ”
สรรพสิ่ง เคลือนไหวไปตามกฎทางธรรมชาติแต่บางสภาวะก็จะมีสภาพที่ผิดธรรมชาติขึ้นกล่าวคือไม่สามารถอธิบายปรากฏการณ์ที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ทั่วไปได้
8.2 การจัดองค์การแบบแชมรอค(Shamrock Organization)
เป็นองค์การในอนาคตอีกรูปแบบหนึ่งที่เสนอโดย ชาร์ลสแฮนดี (Charles Handy) มีรากฐานมาจากชื่อต้นที่เป็นต้นไม้ประจำชาติของประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งตันแชมรอด จะมีลักษณะพิเศษที่สำคัญอยู่ที่ใบเป็นแฉก3 ใบที่อยู่ติดกันเป็นกระจุก ถูกนำมาเทียบเคียงกับการแบ่งกลุ่มงานภายในองค์การออกเป็น 3 กลุ่มที่สำคัญ คือ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ(professional core) กลุ่มผู้ปฏิบัติงานจากภายนอก(outsourcing vendors) และ กลุ่มพนักงาน
8.3 5s Model
องค์การต้องเพิ่มขีดความสามารถในทุกๆ ดันเพื่อปรับตัวเข้าสู่องค์การสมัยใหม่ที่มุ่งสู่ความเป็นเลิศการบริหารองค์การเปลี่ยนจากขนาดใหญ่สู่ขนาดเล็ก ก่อให้เกิดความพึงพอใจเเก่ผู้รับบริการ
SMLL : จิ๋วแต่แจ๋ว องค์การสมัยใหม่จะมีขนาดเล็กลงแต่มีคุณภาพมากขึ้น
SMARTฉลาดทรงภูมิปัญญา องค์การสมัยใหม่มุ่งสู่ความเฉลียวฉลาด มีความแปลกใหม่ มีนวัตกรรมใหม่
SMLE : ยิ้มแย้มเปี่ยมน้ำใจ องค์กาที่มีความสุข
SMPLY: ทำเรื่องยาให้ง่ายละรวดเร็ว องค์การต้องปรับปรุงให้ง่ายขึ้น
SMOOTH ; ความร่วมมือไร้ความขัดแย้ง องค์การไม่มีความขัดแย้งและมีการผนึกความร่วมมือและ
8.4 องค์การเสมือนจริง (Virtual Organization)
องค์การเสมือนจริงเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาครั้งแรกประมาณช่วงต้นทศวรรษ 1980 หัวใจหลักของ Virtual Office คือ หลักจิตวิทยา ที่เชื่อมโยงบุคลากรห่างไกลให้บรรลุเป้าหมายเดียวกันการเปลี่ยนแปลงสู่องค์การเสมือนจริงจะเป็นผลสำเร็จ ต้องได้รับความร่วมมือจากมนุษย์ด้วยกัน(Collaborated) ที่อยู่บนพื้นฐานจากความวางใจ ภายใต้การทำ งานด้วยความรวดเร็ว คล่องตัว