Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ยาทาภายนอก/ ยาหยอดตา, ดาวน์โหลด (3), ดาวน์โหลด (5), images (1) - Coggle…

- - - - ช่วยชะลอการทำงานของเม็ดเลือดขาว ส่งผลให้ลดการอักเสบ (anti-inflammatory) และมีผลในด้านการกดภูมิคุ้มกัน(immunosuppressive) โดยลดปริมาณ และการท้างานของระบบน้ำเหลือง
    - - สำหรับแผลในปาก
    - - triamcinolone acetonide ความเข้มข้น 0.1% ป้ายบริเวณที่มีอาการจนกระทั่งเกิดเป็นแผ่นฟิล์มเคลือ ป้ายยาก่อนนอน หรือ 2 ถึง 3 ครั้งต่อวัน หากผ่านไป 7 วัน แล้วแผลไม่ดีขึ้น ควรไปรับการตรวจจากแพทย์อีกครั้ง
    - - กดการทำงานของต่อมหมวกไต กดภูมิคุ้มกัน เพิ่มโอกาสในการติดเชื้อทุติยภูมิ
      - รบกวนการทำงานทางด้านจิตประสาท ประกอบด้วย อาการนอน ไม่หลับ ภาวะซึมเศร้า
      - อาหารไม่ย่อย, อาการปวดศีรษะ
    - - ก่อนใช้ยาต้องมั่นใจว่าผิวหนังบริเวณนั้นไม่เป็นโรคติดเชื้อ ยาอาจกดการทeงานของต่อมหมวกไต
    - - ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วย ITP , วัณโรค, ผิวหนังอักเสบจากการติด
        เชื้อเริม
      - ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคต้อหินหรือต้อกระจก โรคความดันโลหิตสูง
      - ระวังการใช้ยาในป่วยโรคหัวใจวายกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน โรคตับแข็ง โรคเบาหวาน
- - - - Cream
      - Ointment
      - ยาเหน็บ 100,000 ยูนิต/เม็ด
      - ยาน้้าแขวนตะกอน ความเข้มข้น 100,000 ยูนิต/มล.
    - - ยับยั้งการเจริญเติบโตและฆ่าเชื้อรา โดยจะจับกับผนังเซลล์เปลี่ยนแปลงส่วนประกอบของเซลล์
    - - ใช้ทาเพื่อรักษาการติดเชื้อราที่ผิวหนัง, เชื้อราในช่องปาก
      - ใช้เหน็บช่องคลอดเพื่อรักษาช่องคลอดอักเสบจากการติดเชื้อรา
    - - การติดเชื้อราที่ผิวหนัง ทาผิวหนังบริเวณที่เป็น วันละ 2 ครั้ง นาน 2 สัปดาห์
      - การติดเชื้อราในช่องปาก ป้ายครั้งละ 1 มล. วันละ 4 ครั้ง จนกว่าจะหายแล้วให้ต่ออีก 48 ชั่วโมง
      - การติดเชื้อราในช่องคลอด เหน็บช่องคลอดครั้งละ 1 เม็ด เช้าและก่อนนอนทุกวัน ติดต่อกันนาน 2สัปดาห์
    - - ระคายเคืองในปาก
      - คลื่นไส้ อาเจียน
      - มีผื่นขึ้น ลมพิษ
      - ท้องเสีย
    - - ก่อนใช้ยาควรตรวจสอบประวัติการแพ้ยา อาหารหรือสารเคมีต่างๆ
      - ถ้าใช้ยานานเกิน 3 วัน แล้วไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์
      - หลังใช้ยา หากมีอาการบวม แดง ปวดร้อนบริเวณที่ทาให้ปรึกษาแพทย์
  - - - ยับยั้งการสร้าง ergosterol ที่ผนังเซลล์ของเชื้อรา ทำให้เชื้อราหยุดการเจริญเติบโตหรือเซลล์ตาย
    - - ใช้รักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อราหลายชนิด เช่น เชื้อราตามง่ามเท้า (ฮ่องกงฟุต) กลากตามตัว กลากที่ศีรษะ และเกลื้อน
    - - โรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา ทาบริเวณที่เป็นจนยาซึมเข้าไปวันละ 2 ครั้ง ประมาณ 15-30 วัน
      - เชื้อราของเล็บ ตัดเล็บให้สั้นและทายานานๆ ตรงเล็บและผิวหนังรอบๆ
    - - ระวังและหลีกเลี่ยงการใช้ยาบริเวณตา จมูก หรือปาก
      - ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้ยานี้
  - - - ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ยีสต์ และต้านฤทธิ์แบคทีเรียแกรมบวก โดยเฉพาะstephylococcus แต่ไม่มีผลต่อสปอร์ของเชื้อรา และ acid-fast bacteria ฤทธิ์ยาจะลดลงเมื่อมีน้้าเมือก
    - - ใช้รักษากระพุ้งแก้มและลิ้นเป็นฝ้าขาวจากเชื้อรา
      - ใช้รักษาโรคเชื้อราแคนดิดา เช่น เชื้อราในช่องปาก เชื้อราที่ขาหนีบ หรืออวัยวะสืบพันธุ์
      - ใช้ทารักษาปากเปื่อยเป็นแผล ลิ้นเปื่อย ลิ้นแตกเป็นขุม
      - ใช้รักษาโรคติดเชื้อที่ผิวหนังจากเชื้อแบคทีเรียพวกแกรมบวก
    - - อาจเกิดอาการระคายเคือง หรือแพ้บริเวณเยื่อเมือก
    - - ในขณะใช้ยาควรระวังอย่าให้ยากระเด็นเข้าตา
      - ต้องหยุดใช้ยานี้ทันทีเมื่อพบอาการบวม แดง ร้อน ในบริเวณที่ทายา
  - - - มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อรากว้าง โคลไตรมาโซลจับกับฟอสโฟลพิด(phospholipid) บนเยื่อหุ้มเซลล์ รบกวนกระบวนการเลือกผ่านสารเข้าออกของผนังเซลล์ของเชื้อรา ทำให้เกิดการรั่วออกขององค์ประกอบสำคัญภายในเซลล์
    - - ใช้สำหรับติดเชื้อแคนดีด้าในช่องปากและลำคอ
      - ใช้สำหรับติดเชื้อราที่ผิวหนัง
      - ใช้สำหรับติดเชื้อแคนดีด้า
        ในช่องคลอด
    - - เชื้อราที่ผิวหนัง
        
        ใช้ยาแบบครีมหรือโลชั่นความเข้มข้น 1 เปอร์เซ็นต์ วันละ 2-3 ครั้ง เป็นระยะเวลา 2-4 สัปดาห
      - เชื้อราในช่องปาก
        
        ใช้ยาอมที่มีปริมาณยา 10 มิลลิกรัม โดยอมยาวันละ 5 ครั้ง 14วัน
    - - แสบ คัน ระคายเคือง บวม แดงบริเวณที่ใช้ยา
      - ปวดท้อง ท้องไส้ปั่นป่วน หรืออาเจียน
      - มีอาการแพ้ยา เช่น หายใจลำบาก ลมพิษ ใบหน้าบวม ลิ้นบวม และริมฝีปากบวม
    - - . หลีกเลี่ยงไม่ให้อยากสัมผัสกับดวงตาเหมือนกรณีใช้ยาในรูปแบบยาทา
      - ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่แพ้ยาโคลไตรมาโซล
    - - Desenex ,Canesten Canazol
    - - ยาอม ยาทาเฉพาะที่ ยาเหน็บช่องคลอด
    - - สำหรับยาทาหากเป็นที่เท้าทาประมาณ 4 สัปดาห์ ที่ขาหนีบหรือลำตัวทาประมาณ 2 สัปดาห์
        หากอาการไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์
  - - - ยาเม็ด ขนาด 200 มิลลิกรัม
      - ยาครีมทาผิวหนัง
      - ยาน้้าในรูปแบบของแชมพูสระผม ชนิด 2%
    - - ยับยั้งการสั่งเคราะห์ของเออร์กอสเตอรอล ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์เชื้อรา ส่งผลต่อการล้าเลียงอาหารเข้าเซลล์ของเชื้อรา ทำให้เชื้อราขาดสารอาหารและหยุดการเจริญเติบโตไปในที่สุด
    - - เกลื้อน กลากและโรคเชื้อราแคนนิดาที่ผิวหนังและเล็บ
    - - สำหรับกลาก : ให้ทายาบริเวณที่เป็นโรคและบริเวณใกล้เคียง
        (ถูยาเบา ๆ เพื่อช่วยให้ยาดูดซึม) วันละ 2-3 ครั้ง นาน 3-4 สัปดาห์
      - สำหรับรักษาเกลื้อน : ในผู้ใหญ่ให้รับประทานยาครั้งละ 200 มิลลิกรัม(ในเด็กให้ รับประทานยา ครั้งละ 5 มิลลิกรัม/น้้าหนักตัว
        1 กิโลกรัม แต่สูงสุดไม่เกิน 200 มิลลิกรัม)
    - - อาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน เกิดผื่นแดง ระคายเคืองผิวหนัง
    - - ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่แพ้ยานี้
      - ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคตับ
- - - - ยาน้้าแขวนตะกอน
    - - ลดอาการระคายเคืองตามผิวหนัง
    - - ใช้บรรเทาอาการคันตามผิวหนัง
    - - ทาบริเวณที่เป็นวันละ
        3-4 ครั้ง
    - - อาจพบผื่นคันและอาการระคายเคืองได้
      - ทำให้ผิวหนังที่ทามีลักษณะแห้ง
    - - ห้ามใช้ทาบริเวณริมฝีปาก ภายในช่องปาก รอบตา หรือทาลูกตา
    - - ให้เขย่าขวดก่อนใช้ยานี้ทุกครั้ง
      - ทายาบางๆ บริเวณผิวหนัง ถ้าไม่ดีขึ้นภายใน 3 วันให้ปรึกษาแพทย์
    - - คาดรามาย-วี โลชั่น (Cadramine-V lotion), คาลาไมน์ โลชั่น จีพีโอ (calamine lotion GPO)