Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยาทาภายนอก/ ยาหยอดตา : ยาฆ่าเชื้อรา - Coggle Diagram
ยาทาภายนอก/ ยาหยอดตา : ยาฆ่าเชื้อรา
ไมโคนาโซล (Miconazole)
รูปแบบ
ครีม ความเข้มข้น 2% ขนาดบรรจุ 5 , 15 และ 500 กรัม
กลไกการออกฤทธิ์
ยับยั้งการสร้าง ergosterol ที่ผนังเซลล์ของเชื้อรา ท้าให้เชื้อราหยุดการเจริญเติบโตหรือ
เซลล์ตาย
ข้อบ่งใช้
ใช้รักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อราหลายชนิด ได้แก่ เชื้อราตามง่ามเท้า (ฮ่องกงฟุต) เชื้อราที่เล็บ
กลากที่โคนขาและขาหนีบ กลากตามตัว กลากที่ศีรษะ และเกลื้อน
ขนาดและวิธีใช้
โรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา ทาบริเวณที่เป็นจนยาซึมเข้าไปวันละ 2 ครั้ง ประมาณ 15-30 วัน
เชื้อราของเล็บ ตัดเล็บให้สั้นและทายานานๆ ตรงเล็บและผิวหนังรอบๆ
ฤทธิ์ข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์
ผื่นคัน บวมบริเวณที่ทา หรือมีอาการปวดแสบปวดร้อน
ค้าแนะน้า
ล้างมือให้สะอาด ก่อนและหลังทายาทุกครั้ง
ควรดูแลให้บริเวณที่ทายาสะอาด และใช้ยาจนครบตามค้าแนะน้า แม้ว่าอาการต่างๆจะดีขึ้น แต่
ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ภายในเวลา 2 สัปดาห์ หรืออาการเลวลงควรปรึกษาแพทย์
ไม่ควรใช้ผ้าพันบริเวณที่ทายา ควรเปิดให้มีการระบายอากาศ
ระวังและหลีกเลี่ยงการใช้ยาบริเวณตา จมูก หรือปาก
เก็บยาไว้ในอุณหภูมิห้อง
ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้ยานี้
ชื่อการค้า
Daktarin , Fungisil
Gentian Vioiet (เจนเชียน ไวโอเลต)
รูปแบบ
ยาน้้าสีม่วง ความเข้มข้น 1-2%
กลไกการออกฤทธิ์
ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ยีสต์ และต้านฤทธิ์แบคทีเรียแกรมบวก โดยเฉพาะ
stephylococcus แต่ไม่มีผลต่อสปอร์ของเชื้อรา และ acid-fast bacteria ฤทธิ์ยาจะลดลงเมื่อมีน้้าเมือก
ข้อบ่งใช้
ยาส้าหรับหยอดหูและใช้เป็นยาทาภายนอก
ใช้รักษาโรคเชื้อราแคนดิดา เช่น เชื้อราในช่องปาก เชื้อราที่ขาหนีบ หรืออวัยวะสืบพันธุ์
ใช้รักษากระพุ้งแก้มและลิ้นเป็นฝ้าขาวจากเชื้อรา
ใช้ทารักษาปากเปื่อยเป็นแผล ลิ้นเปื่อย ลิ้นแตกเป็นขุม
ใช้รักษาโรคติดเชื้อที่ผิวหนังจากเชื้อแบคทีเรียพวกแกรมบวก
ใช้เป็นยาทาแผลที่ถูกน้้ากัดตามมือตามเท้า แผลพุพอง แผลภายนอกเนื่องจากเชื้อรา
นอกจากนี้ยาม่วงหรือเจนเชียนไวโอเลตยังถูกน้าไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีกด้วย เช่น
ใช้ในการย้อมสีผม
ใช้ทดสอบกรด ถ้าเป็นกรดอนินทรีย์สีของเจนเชียนไวโอเลตจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว แต่ถ้ากรดอินทรีย์จะเปลี่ยนเป็นสีน้้าเงินหรือสีม่วง
ใช้ทดสอบน้้าส้มสายชูว่าแท้หรือปลอม ถ้าเป็นน้้าส้มสายชูปลอมจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวอ่อน ๆ หรือสีน้้าเงินอ่อน
ใช้รักษาโรคเชื้อราหรือโรคผิวหนังในน้องหมาและแมว เป็นต้น
ขนาดและวิธีใช้
ใช้ทาเฉพาะที่ วันละ 3-4 ครั้ง ติดต่อกัน
ฤทธิ์ข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์
อาจเกิดอาการระคายเคือง หรือแพ้บริเวณเยื่อเมือก กรณีที่กลืนยาลงไปอาจท้าให้เกิดอาการอักเสบ
บริเวณช่องปาก หลอดอาหาร กล่องเสียง หรือหลอดลม
ข้อควรระวัง
ในขณะใช้ยาควรระวังอย่าให้ยากระเด็นเข้าตาและหกเลอะเสื้อผ้า
การป้ายยาในปากควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและป้ายยาตรงในบริเวณที่มีการติดเชื้อเท่านั้นเพราะการใช้ยามากเกินไปอาจท้าให้ผู้ป่วยกลืนยาและมีอาการระคายเคืองในกระเพาะอาหารและล้าไส้ตามมาได้
เมื่อใช้ยานี้ไปได้ 2-3 วันแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อขอค้าแนะน้าและปรับเปลี่ยนแผนการรักษาใหม่
ต้องหยุดใช้ยานี้ทันทีเมื่อพบอาการบวม แดง ร้อน ในบริเวณที่ทายาเจนเชียนไวโอเลต
ในหญิงตั้งครรภ์และหญิงที่เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเอง แม้ว่ายังไม่มีรายงานว่ายานี้ก่อให้เกิดโทษต่อทารก แต่เพื่อความปลอดภัยควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้เสมอ
ส้าหรับคุณแม่ที่ยังเลี้ยงลูกด้วยน้้านมตัวเอง ควรหลีกเลี่ยงการทายานี้บริเวณหัวนม เพราะจะท้าผิวหนังบริเวณนั้นแห้งและแตก
หลีกเลี่ยงการใช้ยาในรูหูกับผู้ป่วยที่มีภาวะเยื่อแก้วหูทะลุ
ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้ยาเจนเชียนไวโอเลต
ห้ามใช้ยานี้ของผู้อื่นหรือแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้ และควรตรวจสอบความผิดปกติของตนเองหลังใช้ยาทุกครั้ง เช่น อาการผื่นขึ้น หน้าบวม และปากบวม
ห้ามใช้ยานี้ในเด็กทารกแรกเกิด เพราะอาจก่อให้เกิดแผลในบริเวณที่ทายาได้
ห้ามใช้ยาที่หมดอายุ
ห้ามใช้ยานี้ในบริเวณที่มีบาดแผล
ค้าแนะน้า
ควรเก็บในภาชนะปิดที่สนิท ที่อุณหภูมิ 15-30 C
ชื่อทางการค้า
Gentian Vioiet
Ketoconazole
รูปแบบ
ยาเม็ด ขนาด 200 มิลลิกรัมยาครีมทาผิวหนังยาน้้าในรูปแบบของแชมพูสระผม ชนิด 2%
กลไกการออกฤทธิ์
กลไกการออกฤทธิ์ ด้วยการยับยั้งการสั่งเคราะห์ของเออร์กอสเตอรอล ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ส้าคัญของเยื่อหุ้มเซลล์เชื้อรา ส่งผลต่อการล้าเลียงอาหารเข้าเซลล์ของเชื้อรา ท้าให้เชื้อราขาดสารอาหารและหยุดการเจริญเติบโตไปในที่สุด
ข้อบ่งใช้/ขนาดและวิธีใช้
ส้าหรับยาครีมทาผิวหนัง
ส้าหรับกลาก (Tinea) เช่น กลากตามล้าตัว กลากที่ซอกขาหนีบ กลากที่มือ กลากที่เท้า, เกลื้อน(Tinea versicolor) และโรคเชื้อราแคนนิดาที่ผิวหนังและเล็บ ให้ทายาบริเวณที่เป็นโรคและบริเวณใกล้เคียง(ถูยาเบา ๆ เพื่อช่วยให้ยาดูดซึม) วันละ 2-3 ครั้ง นาน 3-4 สัปดาห์
ส้าหรับสิวผดที่เกิดจากเชื้อราหรือเชื้อยีสต์ Pityrosporum ovale แพทย์อาจให้ยาคีโตโคนาโซลมาทา แต่ต้อง
เป็นการใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์
ส้าหรับผิวหนังที่เกิดจากต่อมไขมันอักเสบหรือโรคเซบเดิร์ม (Seborrhoeic dematitis) ให้ทายาบริเวณที่เป็นและบริเวณใกล้เคียงวันละ 1-2 ครั้งแล้วแต่ความรุนแรงของการอักเสบ ติดต่อกันเป็นเวลา 2-4สัปดาห์ และหลังจากที่แผลหายดีแล้ว ควรทายาต่อไปอีกระยะหนึ่งอย่างน้อย 2-3 วัน (ควรไปพบแพทย์ หากรักษาไป 4 สัปดาห์แล้วผลการรักษายังไม่ดีขึ้น)
ส้าหรับยาน้้าในรูปแบบของสระผม
ส้าหรับโรคกลากที่ศีรษะ ให้ผู้ป่วยตัดผมให้สั้น พร้อมกับสระผมด้วยแชมพูคีโตโคนาโซล(Ketoconazole) สัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือทุก 3 วัน ส่วนผู้ที่เป็นพาหะโรคของโรคกลากที่ศีรษะ แม้จะไม่มีอาการก็ต้องรักษาเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น โดยสระผมด้วยแชมพูยาดังกล่าวอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2ครั้ง เป็นเวลาประมาณ 1 เดือน แต่ถ้าหนังศีรษะยังคงเป็นขุยอยู่ก็ต้องใช้ยาแบบรับประทานร่วมด้วย
ส้าหรับรักษาเกลื้อน (Tinea versicolor) ให้ทาแชมพูบริเวณที่เป็นเกลื้อนทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วล้างออก โดยให้ทาวันละ 1 ครั้ง (เวลาที่สะดวก คือ ช่วงก่อนอาบน้้า) ติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน ส่วนการใช้ป้องกันการเกิดโรคซ้้า ให้ทายา 1 ครั้ง ทุก ๆ 2 สัปดาห์
ส้าหรับรักษารังแคและอาการคันศีรษะ ให้สระผมด้วยแชมพูคีโตโคนาโซลสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ติดต่อกันเป็นเวลา 2-4 สัปดาห์ ส่วนการใช้เพื่อป้องกันไม่ให้รังแคและอาการคันศีรษะกลับมาเป็นอีก ให้ใช้แชมพูคีโตโคนาโซลทุก 1 หรือ 2 สัปดาห์
ส้าหรับยาเม็ดรับประทานคีโตโคนาโซล
ส้าหรับรักษาเกลื้อน (Tinea versicolor) ในผู้ใหญ่ให้รับประทานยาครั้งละ 200 มิลลิกรัม (ในเด็กให้รับประทานยา ครั้งละ 5 มิลลิกรัม/น้้าหนักตัว 1 กิโลกรัม แต่สูงสุดไม่เกิน 200 มิลลิกรัม) เพียงวันละ 1 ครั้งติดต่อกันเป็นเวลา 10-14 วัน ส่วนการป้องกันการเกิดโรคซ้้าให้รับประทานยาในขนาด 400 มิลลิกรัม (ในเด็กให้รับประทานยา 10 มิลลิกรัม/น้้าหนักตัว 1 กิโลกรัม) เพียงเดือนละ 1 ครั้ง ติดต่อกันประมาณ 6 เดือน[1]
ส้าหรับโรคเชื้อราแคนดิดาที่ผิวหนังและเล็บ ในผู้ใหญ่ ให้รับประทานยาครั้งละ 200 มิลลิกรัม ส่วนในเด็กให้รับประทานยาครั้งละ 5 มิลลิกรัม/น้้าหนักตัว 1 กิโลกรัม (สูงสุดไม่เกิน 200 มิลลิกรัม) เพียงวันละ 1ครั้ง ติดต่อกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์
ส้าหรับเชื้อราในช่องคลอด (Vaginal candidiasis) ในผู้ใหญ่ ให้รับประทานยาคเพียงวันละ 1 ครั้ง (อาจแบ่งรับประทานยาเป็นวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 200 มิลลิกรัมก็ได้) ติดต่อกันเป็นเวลา 5ละ 400 มิลลิกรัมวัน
ฤทธิ์ข้างเคียงและอาการไม่พึ่งประสงค์
ยานี้อาจก่อให้เกิดอาการที่ไม่พึงประสงค์ ได้แก่ การหลั่งฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตไม่เพียงพอ รบกวนระบบทางเดินอาหาร เช่น อาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน เกิดผื่นแดง ระคายเคืองผิวหนัง ผิวหนังอักเสบรู้สึกแสบร้อน เกิดผื่นคัน ผื่นลมพิษ เกิดอาการบวม การแพ้ยาแบบ anaphylaxis ปวดศีรษะ มึนงง ง่วงนอนเป็นไข้ เกร็ดเลือดต่้า ประจ้าเดือนมาไม่ปกติ กดการท้างานของต่อมหมวกไต เต้านมโตในเพศชาย เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เพิ่มความดันในกระโหลก ไวต่อแสง ค่าการท้างานของตับเพิ่มขึ้น
อาการที่ไม่พึงประสงค์รุนแรง ได้แก่ การเกิดพิษต่อตับ
ข้อควรระวัง
ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่แพ้ยานี้
ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคตับ
ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่ใช้ยาที่เป็นสารตั้งต้นของเอนไซม์ CYP3A4 เช่นยากลุ่ม เอช เอ็ม จี-โคเอ รีดักเทส อินฮิบิเตอร์ (HMG-CoA reductase inhibitor) (เช่น ซิมวาสแตติน (simvastatin) โลวาสแตติน(lovastatin) อะโทวาสแตติน (atorvastatin)) ไตรอะโซแลม (triazolam) มิดาโซแลม (midazolam) ซิสซาไพรด์ (cisapride) โดเฟทิไลด์ (dofetilide) อีพลีริโนน (eplerenone) นิโซลดิพีน (nisoldipine) พิโมไซด์(pimozide) ควินิดีน (quinidine) เทอเฟนาดีน (terfenadine) แอสทิมาโซล (astemizole) ยากลุ่มเออกอทอั ล ค า ล อ ย ด์ (ergot alkaloids) (เ ช่ น เ อ อ โ ก ท า มี น (ergotamine) ไ ด ไ ฮ โ ด ร เ อ อ โ ก ท า มี น(dihydroergotamine))
ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยต่อมหมวกไตท้างานไม่เพียงพอ
ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่มีการดื่มเครื่องดื่มที่เป็นกรดในผู้ป่วยที่กระเพาะอาหารไม่มีการหลั่งกรดหรือมีการหลั่งกรดน้อยกว่าปกติ
ระวังการใช้ยานี้ในสตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร
ชื่อทางการค้า
ไนโซรัลครีม (Nizoral cream), แชมพูไนโซรัล (Nizoral shampoo), นินาซอล (Ninazol), นอร่าครีม(Nora cream), แชมพูคีตาซอน (Ketazon), ฟังกาซอล (Fungazol tablet), สปอราซิลครีม (Sporaxylcream)