Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรณีศึกษาที่ 2 โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ - Coggle Diagram
กรณีศึกษาที่ 2 โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
สาเหตุของการเกิดโรค
ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ Escherichia coli (E.coli) และอาจเกิดจากการอุดกั้นของท่อปัสสาวะหรือมีปัจจัยส่งเสริมต่อการติดเชื้อ
การรักษา
การใช้ยาปฏิชีวนะ
Ampicillin 500 mg. วันละ 3-4 ครั้ง นาน 7-10 วัน
รายที่รุนแรง ฉีด Ampicillin เข้าทางหลอดเลือดดำ ทุก 4-6 ชม. นาน 3 วัน
รายที่มีการติดเชื้อรุนแรง ควรรักษาภาวะขาดน้ำและภาวะไม่สมดุลของสารน้ำและอิเล็กโตไลต์
การประเมินและการตรวจวินิจฉัย
การตรวจร่างกาย ได้แก่ อุณหภูมิร่างกายมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ปวดท้องน้อย ปวดเหนือหัวหน่าว ปวดหลัง เป็นต้น
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ได้แก่ การเก็บปัสสาวะส่งตรวจหรือส่งเพาะเชื้อ จะพบว่ามีค่าถ่วงจำเพาะสูง พบเซลล์เม็ดเลือดขาว มากว่า 1000000 Cell/ml3 พบเชื้อ E.coli มากว่า 105 colonies/ml ย้อมติดสีแกรมลบ
ในกรณีศึกษา
WBC 10-20 cells/HPF มีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
Squamous epithelial cell 1-2 cells/HPF ปัสสาวะมีการตกตะกอนเล็กน้อย
Bacteria numerous พบแบคทีเรียในปัสสาวะจำนวนมาก
การซักประวัติ ได้แก่ อาการและอาการแสดงของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
ในกรณีศึกษา
หญิงตั้งครรภ์ กลั้นปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแสบขัด ปวดท้องน้อย เป็นมา 2 วัน
อาการและอาการแสดง
ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแสบขัดตอนใกล้จะสุด
กลั้นปัสสาวะไม่ได้
ปวดหลัง หรือปวดหัวเหน่า
มีไข้ต่ำๆ
ปัสสาวะสีขุ่น มีเลือดปน
การวางแผนการพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่อย่างเพียงพอ เน้นการรับประทานโปรตีน วิตามินและเกลือแร่ ดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน
ไม่ควรกลั้นปัสสาวะนาน และคอยสังเกตุอาการผิดปกติขณะปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะลำบาก เป็นต้น
รับประทานปฏิชีวนะยาตามแผนการรักษา
รักษาความสะอาดร่างกาย ทำความสะอาดบริเวณอวัยวะสืบพันธ์ภายนอกทุกครั้งหลังขับถ่ายปัสสาวะ
มาตรวจตามแพทย์นัดอย่างสม่ำเสมอ
สังเกตุและนับลูกดิ้นทุกวัน วันละไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง
รายที่มีอาการรุนแรง
จัดทา่านอนตะแคงซ้าย เพื่อลดการกดทับที่ท่อไตจากมดลูกและเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงมดลูกและรกได้ดีขึ้น
ประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชม. ถ้ามีไข้ให้เช็ดตัวและให้ยาลดไข้
ดูและให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ประเมินอัตราการเต้นหัวใจของทารก ให้อยู้ในช่วง 120-160 ครั้ง/นาที
ดูแลให้พักผ่อนอย่างเพียงพอ
ระยะคลอด
ประเมิน Uterine contraction
วัดความดันโลหิตของมารดา
ประเมิน FHS ให้อยู่ในช่วง 120-160 ครั้ง/นาที
ระยะหลังคลอด
ดูแลส่งเสริมการให้นมบุตร
หากมียา ดูแลให้ยาตามแผนการรักษาของแพทย์
ดูแลมารดาให้พักผ่อนอย่างเพียงพอ
ชั่งน้ำหนักตัวทารก
ผลกระทบ
ต่อมารดา
การติดเชื้อในกระแสเลือด
ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
ต่อทารก
ทารกน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์
อาจจะคลอดก่อนกำหนด
อาจจะเกิดการแท้ง
ทารกเสียชีวิตในครรภ์