Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Cell แปลว่า "ห้องเล็กๆ", มีลักษณะเป็นถุงแบนพบไปมา…

- - - - 2.Double unit membrane
        
        Plastid
        
        เป็น Organelle ที่มีเยื่อหุ้ม 2 ชั้น พบเฉพาะในพืช มีทั้งหมด 3 ชนิด
        
        Chloroplast = เป็นพลาสติดที่มีรงควัตถุสีเขียว
        
        2 more items...
        
        Leucoplast = เป็นพลาสติดที่ไม่มีสี พบในรากและลำต้น
        
        Chromoplast = เป็นพลาสติดที่มีรงควัตถุสีต่างๆ พบที่ใบพืชที่มีอายุมาก เปลือกของผลไม้ เป็นต้น
        
        Mitochondria
        
        มีรูปร่างตามชนิดของเซลล์
        
        ประกอบไปด้วยโปรตีน 60-65% ลิพิด 35-40% มีเยื่อหุ้มสองชั้น
        
        ทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานของเซลล์โดยการสลาย Glucose เปลี่ยนเป็น ATP
        
        พบเป็นจำนวนมากในเซลล์ที่ต้องการพลังงานสูง
        
        2 more items...
        
        1.Single unit membrane
        
        Lysosome
        
        Primary lysosome เกิดมาจาก Golgi body
        
        Secondary lysosome เกิดจากไลโซโซม์ปฐมภูมิรวมตัวกับแวคิวโอล
        
        มีหน้าที่เกี่ยวกับการย่อยสลายองค์ประกอบที่มาจากภายนอกเซลล์ หรือย่อยสลาย Organelle เซลล์ไม่ต้องการแล้ว แบ่งได้ 3 ประเภค
        
        Residual body ส่วนที่เหลือจากการย่อย จะขับถ่ายออกนอกเซลล์ แต่บางเซลล์อาจมีการสะสมทำให้เกิดการแก่ของเซลล์ (Aging) เช่น เซลล์ประสาท
        
        Peroxisome
        
        คล้ายไลโซโซม์ แต่สามารถแบ่งตัวได้เอง ภายในประกอบด้วยเอนไซม์หลายชนิด พบมากในตับและไต
        
        หน้าที่สำคัญ คือ สร้างเอนไซม์ Catalase มาย่อย Hydrogen peroxide ให้กลายเป็นน้ำและออกซิเจน
        
        Golgi complex
        
        สร้างEnzyme ในพืชและสัตว์
        
        มีหน้าที่รับสารที่ RER สร้างแล้วนำมาทำให้เข้มข้น
        
        สร้างเข็มพิษ (Nematocyte) ของไฮดร้าและกะพรุน
        
        Vacuole
        
        Central Vacuole = ทำหน้าที่สะสมสารบางชนิด
        
        Central Vacuole = ทำหน้าที่สะสมสารบางชนิด
        
        Contractile Vacuole = ทำหน้าที่รักษาสมดุลของน้ำภายในเซลล์
        
        Endoplasmic reticulum
        
        Smooth endoplasmic reticulum (SER)
        
        2 more items...
        
        Rough endoplasmic reticulum (RER)
        
        ร่างแหเอนโดพลาสมิกแบบขรุขระ
        ทำหน้าที่สังเคราะห์ Protein
  - - - Centriole
        
        หน้าที่ของ Centriole
        
        สร้าง Spindle fiber ควบคมการเคลื่อนที่ของโครโมโซมขณะเซลล์แบ่งตัว
        
        เป็น Basal body หรือส่วนฐานของซีเลียและแฟลกเจลลัม ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไห
        
        เซนทริโอลที่แบ่งตัวเป็น 2 แท่งตั้งฉากกัน จะสังเคราะห์ Microtubule ได้เรียกเซนทริโอลในระยะนี้ว่า Centrosome
        
        ประกอบด้วย Microtubule เรียงเป็นกลุ่ม 9 กลุ่ม แต่ละกลุ่มมีไมโครทิวบูล 3 อัน ตรงกลางไม่มี
        จึงเขียนสูตรโครงสร้างได้ว่า 9+0
        
        Cytoskeleton
        
        โครงสร้างค้ำจุนเซลล์หรือโครงกระดูกของเซลล์เป็นเส้นใยโปรตีนที่เชื่อมเป็นร่างแหเพื่อค้ำจุนรูปร่างของเซลล์และเป็นที่ยึดเกาะของออร์แกเนลล์
        
        Microtubule = เกิดจากโปรตีน Tubulin เป็นองค์ประกอบของ Spindle fiber, เป็นโครงสร้างของ Cilia และFlagellum (9+2) และเป็นที่ยึดเกาะและเคลื่อนที่ของออร์แกเนลล์
        
        Microfilament = เกิดจากโปรตีน Actin จำนวน 2 สาย บิดพันเป็นเกลียว มีหน้าที่เกี่ยวกับการหดตัวของกล้ามเนื้อ, Cyclosis, การแบ่งไซโทพลาสซึมแบบ Cleavage furrow, การเกิด Microvilli และให้เซลล์คงรูปร่าง
        
        Intermediate filament = เกิดได้จากโปรตีนหลายชนิด ประกอบเป็นเส้นใย 4สาย จำนวน 8 ชุด พันบิดเป็นเกลียว ทำให้เกิดรูปร่างและคำจุนเซลล์, เสริมความแข็งแรงในเซลล์ผิวหนัง และทำให้เกิดการ สร้าง-สลาย Nuclear membrane
        
        นอกจากนี้ยังพบในออร์แกเนลล์สำคัญคือ Mitochondriaและ Chloroplast
        ประกอบด้วย ribosomal RNA และโปรตีน โดยแยกออกเป็น 2 subunit คือ หน่วยใหญ่และหน่วยเล็ก ( ไรโบโซมมีหน่วยวัดคือ Svedberg )
        
        ในการสังเคราะห์โปรตีน บางครั้งไรโบโซมจะอยู่รวมกันจำนวนมาก อาจเรียกว่า Polysome
        
        พบทั้งเซลล์ยูคาริโอตและเซลล์โปรคาริโอต
        นอกจากนี้ยังพบในออร์แกเนลล์สำคัญคือ Mitochondriaและ Chloroplast
        
        ไรโบโซมของเซลล์โปรคาริโอตมีขนาด70 s
        เซลล์ยูคาริโอตมีไรโบโซมขนาด 80 s
- - - - เป็นโครงสร้างที่ห่อหุ้ม โพรโทพลาสซึม ให้แสดงคงรูปร่างและแสดงขอบเขตขอวเซลล์
        
        cell wall
        
        มีหน้าที่เพิ่มความแข็งแรงให้แก่เซลล์และทำให้เซลล์คงรูปร่าง
        
        องค์ประกอบของผนังเซลล์ในพืชคือ
        Cellulose และมีLignin,Cutin,Suberinและ Pectinแทรกอยู่ตามชนิดของเซลล์พืชแต่ละชนิด
        
        จำแนกออกเป็นส่วนต่างๆได้แก่
        
        2.Primary cell wall = ผนังเซลล์ปฐมภูมิ อยู่ด้านในของ Middle lamella มี Cellulose เป็นองค์ประกอบหลักพบในcellพืช
        
        3.Secondary cell wall = ผังเซลล์ทุติยภูมิ พบใน เซลล์พืชบางชนิด ประกอบด้วย Cellulose และ Lignin ( Cell บางชนิดอาจพบ Suberin )
        
        1.Middle lamella = เป็นผนังเซลล์ที่สร้างลำดับแรก ประกอบด้วย โปรตีน เป็นหลัก
        
        4 more items...
        
        1.3 Glycocaly
        
        2.ถ้าสูญเสียการรับรู้จะทำให้เซลล์แบ่งตัวอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้เกิดเนื้องอกและกลายเป็นมะเร็งในที่สุด
        
        3.ไกลโคคาลิกซ์เป็นได้ทั้งGlycoprotein และGlycolipid
        
        1.พบในเซลล์สัตว์ ทำหน้าที่รับรระหว่างเซลล์ข้างเคียง
        
        1.1 Cell membrane
        
        ประกอบด้วย Phospholipidและ Proteinเป็นหลักมีไขมันและ Cholesterol แทรกบ้าง
        
        นอกจากนี้ยังมีสายของ Carbohydrate เกาะอยู่ด้านนอก (Glycocalyx) และมี Cytoskeleton ติดอยู่กับ Protein ที่ผิวด้านในการจัดเรียงตัวขององค์ประกอบดังกล่าว ส่งผลให้เยื่อหุ้มเซลล์เคลื่อนที่ในแนวระนาบได้ เรียกว่า Fluid mosaic model
        
        Protein กระจายตัวแทรกอยตามส่วนต่างๆของโมเลกุล phospholipid มีหน้าที่หลากหลาย
        
        2.Receptor protein = ทำหน้าที่รับสารจากภายนอกเซลล์ที่มากระตุ้น แล้วส่งสัญญาณการกระตุ้นไปยังภายในเซลล์
        
        Enzymatic protein = ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาภายในเซลล์
        
        Transport protein = ทำหน้าที่ลำเลียงสาร
        
        Phospholipid มี 2 ส่วน คือ
        
        1.ส่วนหัว = เป็นส่วนของ Phosphate group และ Glycerol มีคุณสมบัติคือมีขั้ว (Hydrophilic)
        
        2.ส่วนหาง = เป็นส่วนของFatty acid มีคุณสมบัติคือ ไม่มีขั้ว (Hydrophobic)
        
        หน้าที่ Cell membrane
        
        2.ห่อหุ้มเซลล์และทำให้เซลล์คง รูปร่าง
        
        3.มีความต่างศักย์ไฟฟ้าซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของเซลล์ ประสาทและเซลล์กล้ามเนื้อ
        
        1.ควบคุมการเข้าออกของสาร ภายนอกเซลล์
        
        4.รับสัมผัสสาร เช่น ฮอร์โมน ทำให้เกิดการเร่งหรือลด ปฏิกิริยาเคมีภายในเซลล์ นั้นๆ
    - - 2.1 ไชโทพลาสซึม 2.2 นิวเคลียส
        
        Cytoplasm Protoplasm หมายถึง ส่วนของ Protoplasm ที่อยู่นอกนิวเคลียส
        
        แบ่งได้ 2 ชนิด
        
        Ectoplasmเป็นส่วนของไซโตพลาสซึมที่อยู่ ด้านนอกติดกับเยื่อหุ้มเซลล์ มีลักษณะบางใส
        
        Endoplasm = เป็นไซโทพลาสซึมที่อยู่ด้านใน ใกล้กับนิวเคลียส มีลักษณะเข้มข้นมากกว่า
- - - - 3.Nucleolus
        
        มีหน้าที่ในการสังเคราะห์ RNA ชนิดต่างๆ
        
        ลักษณะเป็นก้อนอนุภาคหนาทึบ และย้อมติดสีเข้มที่สุดของนิวเคลียส
      - 1.Nuclear membrane
        
        เยื่อหุ้ม2ชั้น
        
        มีรูเรียกว่า Nuclear pore จำนวนมากประกอบด้วยโปรตีน 8 หน่วยเรียงตัวคล้ายรูปตะกร้า ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของสารต่างๆ ระหว่างไซโทพลาสซึมและนิวเคลียส
        
        Outer membrane เชื่อมรวมกับ RER
        
        Inner membrane ติดกับของเหลวภายในนิวเคลียส
      - 2.Chromatin
        
        ควบคุมการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต
        
        มีลักษณะเป็นเส้นใยเล็กๆพันกันเป็นร่างแห ประกอบไปด้วยDNA และHistone protein
        
        ส่วนของโครโมตินจะหดสั้นเข้าและมีลักษณะเป็นแท่งเรียกว่า Chromosome แต่ละแท่งของโครโมโซม เรียกว่า Chromatid
      - Nucleus มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นที่อยู่ของสารพันธุกรรม (DNA)จึงมีหน้าที่ควบคุมการทำงานของเซลล์
    - - มี 3 ขั้นตอน คือ
        
        การส่งสัญญาณ
        
        การรับสัญญาณ
        
        การตอบสนอง
      - 1.เซลล์ ที่อยู่ใกล้กันสามารถสื่อสารกันได้โดยการหลั่งสารผ่าน ช่องว่างระหว่างเซลล์ที่อยู่ติดกัน
        
        2.ส่วน เซลล์ที่อยู่ห่างกันสามารถสื่อสารโดยระบบประสาท ใช้ Neurotransmitter และ ระบบต่อมไร้ท่อ ใช้ Hormone