Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หลักการบริหารและพัฒนาองค์การ - Coggle Diagram
หลักการบริหารและพัฒนาองค์การ
ทรัพยากรการบริหาร/ปัจจัยการบริหาร
3M’S
คน (MAN)
เงิน (Money)
วัสดุอุปกรณ์ (Materials)
4M’S
คน (MAN)
เงิน (Money)
วัสดุอุปกรณ์ (Materials)
การจัดการ (management)
การบริหารงานบุคคล (Personnel Management)
ความหมาย
พระธรรมปิฏก
ทรัพยากรที่เป็นทุนมนุษย์ เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าสูง เป็นปัจจัยที่มี
ชีวิต มีจิตใจ และมีความรู้สึก
บุญใจ ศรีสถิตนรากูร
การะบวนการที่ประกอบด้วยการคาดการณ์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลง การวางแผน การสรรหา การคัดเลือก การฝึกอบรม และการพัฒนาบุคลากร มีความรู้ ทักษะการปฏิบัติงานและมีความก้าวหน้าในอาชีพ การประเมินผลการปฏิบัติงาน การจ่ายค่าตอบแทน สวัสดิการที่เหมาะสม เพื่อสร้างแรงจูงใจและความยึดมั่นผูกพันต่อองค์กรตลอดจนผลิตผลงานที่มีคุณภาพบรรลุตามเป้าหมายขององค์การ
การบริหารบุคลากรทางการพยาบาล หมายถึง กระบวนการบริหารงานบุคคลที่เกี่ยวกับบุคลากรทางการพยาบาลทุกระดับในองค์กร เริ่มตั้งแต่การสรรหาและรับเข้าทำงาน การบำรุงรักษา การพัฒนา การประเมินผล จนกระทั่งพ้นออกจากงาน
ความสำคัญของการบริหารงานบุคคล
การบริหารงานบุคคลเป็นกลจักรสำคัญมากประการหนึ่งที่จะส่งผลให้เกิดความสำเร็จของงานตามจุดมุ่งหมายขององค์การ เนื่องจากบุคคลเป็นสิ่งที่มีชีวิตจิตใจ การบริหารจัดการให้บุคลากรในงานเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับงานที่ปฏิบัติ มีความคิดสร้างสรรค์ มีความสุขในการทำงาน จึงเป็นสิ่งสำคัญและท้าทายสำหรับผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติเองต้องพยายามสร้างโอกาสเพื่อพัฒนาตนเองให้มีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่อีกด้วย
วัตถุประสงค์ของการบริหารงานบุคคล
เพื่อสรรหาและเลือกสรร (recruitment and selection) ให้ได้บุคคลที่มีความรู้ ความสามารถและความประพฤติดีเข้ามาทำงาน
เพื่อใช้ประโยชน์ (utilization) ของบุคคลอย่างเต็มกำลังในการทำงาน
เพื่อรักษาไว้ (maintenance) ซึ่งบุคคลให้ทำงานกับองค์การนานๆ
เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี (relationships) ของบุคคลกลุ่มต่างๆขององค์การ
เพื่อพัฒนาทักษะและเสริมสร้างความสามารถของบุคลากรให้มีสมรรถภาพเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง (development)
ขั้นตอนการบริหารงานบุคคล
การสรรหาและการคัดเลือก
ความหมาย
การสรรหา
การแสวงหาบุคลากรที่มีความรู้ มีความสามารถ และมีเจตคติที่ดีต่อการทำงาน ให้มาสมัครงานเพื่อให้ผู้บริหารจะได้พิจารณาคัดเลือกบุคลากรที่เหมาะสมที่สุดเข้าปฏิบัติงานในองค์การ
การคัดเลือก
เป็นกระบวนการพิจารณาคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของผู้สมัคร เพื่อให้ได้บุคลากรที่เหมาะสมและมีคุณสมบัติตรงกับลักษณะเฉพาะของงาน
ขั้นตอนการสรรหา
กำหนดนโยบายการสรรหา
(Recruiting Policies)
2.กำหนดแหล่งสรรหาบุคลากร
(Source of recruitment)
การสรรหาภายนอกหน่วยงาน
สถาบันการศึกษา
บริษัทจัดหางาน
บริษัทคู่แข่งขัน/ธุรกิจอื่นๆ
สหภาพแรงงาน
สมาคมผู้ประกอบอาชีพต่างๆ
ผู้ประกอบอาชีพอิสระ
หน่วยงานของรัฐ
วิธีการสรรหา
การประกาศรับสมัคร
ติดต่อสถาบันการศึกษา
ติดต่อสมาคมคนงาน/สหภาพ แรงงาน
ติดต่อสำนักงานจัดหางาน
ดึงตัวพนักงานจากบริษัทอื่นๆ
ผ่านสื่อโฆษณา สื่อหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต
ข้อดี-ข้อจำกัด
ข้อดี
มีโอกาสคัดเลือกพนักงานได้หลากหลาย กว้างขวาง
ไม่เกิดปัญหาการขาดแคลน
มีภาพพจน์ที่ดี ไม่ปิดกั้น
มีโอกาสได้แนวคิดใหม่ๆมาใช้พัฒนางาน
ข้อจำกัด
สิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่าย
เสียขวัญและกำลังใจของพนักงาน
ปิดโอกาสความก้าวหน้าของพนักงานภายใน
ต้องศึกษาพนักงานใหม่อย่างรอบคอบ
อาจเกิดข้อขัดแย้งระหว่างพนักงานเดิม – พนักงานใหม่
การสรรหาภายในหน่วยงาน
การโยกย้าย, โอนย้าย (Transfer)
การเลื่อนตำแหน่ง(Promotion)
การยกระดับฝีมือ
การใช้ระบบอาวุโส(Seniority)
การพิจารณาจากสมรรถนะ (Competency)
ข้อดี-ข้อจำกัด
ข้อดี
ประหยัดค่าใช้จ่าย
ทราบประวัติเป็นอย่างดี
สร้างขวัญและกำลังใจให้แก่พนักงานในหน่วยงาน
พนักงานรู้สึกว่าเป็นที่ยอมรับและตั้งใจทำงานมากขึ้น
ข้อจำกัด
จำกัดโอกาสของบุคคลภายนอก
พนักงานซึ่งสมัครเพื่อเลื่อนตำแหน่งอาจไม่พอใจเมื่อไม่ได้รับการคัดเลือก
เสียเวลาหากต้อมสัมภาษณ์ผู้สมัครภายในทุกคนโดยละเอียด
สืบทอดความคิด การกระทำแบบเดิมๆ
หลักการคัดเลือกบุคลากร
หลักความเท่าเทียมกัน (Equity)
การให้โอกาสแก่ผู้สมัครโดยเท่าเทียมกัน และคัดเลือกโดยใช้ระบบคุณธรรม (Merit system)
ระบบการคัดเลือกที่มีประสิทธิภาพ (Effective selection)
การคัดเลือกผู้เข้าสมัครงานได้ตรงกับความรู้ความสามารถ ซึ่งพิจารณาจากใบสมัคร การทดสอบ การสัมภาษณ์ ผลการตรวจร่างกาย และพิจารณาจากบุคลิกภาพ
การพัฒนาบุคลากร
ความหมาย
กิจกรรมที่เสริมสร้างบุคคลให้เกิดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความรู้และเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจ เกิดทักษะ หรือความชำนาญในการปฏิบัติงานให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
การฝึกอบรม
การฝึกอบรมทางด้านความรู้ (Knowledge Skill)
การฝึกอบรมทางด้านเทคนิค (Technical Skill)
การฝึกอบรมทางด้านมนุษยสัมพันธ์ (Human Skill)
การฝึกอบรมทางด้านความคิด (Conceptual Skill)
ประเภทของการฝึกอบรม
การฝึกอบรมก่อนเข้าทำงาน เป็นการฝึกอบรมตั้งแต่อยู่ในโรงเรียน เช่น การฝึก Elective ของ นศ.พยาบาล
การอบรมปฐมนิเทศ (Orientation) เป็นการจัดเพื่อต้อนรับ /แนะนำพนักงานใหม่ให้รู้จักองค์กร ในเรื่อง นโยบายการบริหารโครงสร้างองค์กรผู้บังคับบัญชาและผู้ร่วมงาน กฎระเบียบ สวัสดิการ
การฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะการปฏิบัติงาน (Skill training) ได้แก่ on the job training การสอนงาน การอบรมระยะสั้น การจัดวิชาการภายในหน่วยงาน
การพัฒนาความก้าวหน้าในวิชาชีพ (Career development) เป็นการพัฒนาศักยภาพการให้โอกาสศึกษาต่อเพื่อให้บุคลากรมีวุฒิการศึกษาที่สูงขึ้น ได้เลื่อนตำแหน่งและมีความก้าวหน้าตามบันไดวิชาชีพ
การบำรุงรักษาบุคลากร
ความหมาย
เป็นการธำรงรักษาบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ ให้คงอยู่ในงานนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ และมีความยึดมั่นผูกพันกับองค์กรโดยใช้การเสริมสร้างแรงจูงใจภายในการทำงานแก่บุคลากรพยาบาล
ประเภทของแรงจูงใจ
แรงจูงใจภายใน
เกิดจากความทะเยอทะยานในความต้องการก้าวหน้าในอาชีพ
ความสนใจที่ต้องการให้งานสำเร็จภายในเวลารวดเร็ว
มีความคาดหวังคำชมเชย หรือบำเหน็จรางวัล
แรงจูงใจภายนอก
เงินเดือน
ความมั่นคงต่อการทำงานและโอกาสก้าวหน้าในอาชีพ
สถานที่ทำงานมีสิ่งอำนวยความสะดวก มั่นคง ปลอดภัย
มีอิสระในการทำงาน การแสดงความคิดเห็น คำติชม รางวัล การทำโทษ
การประเมินผลการปฏิบัติงาน
คามหมาย
เป็นการดำเนินการในขั้นตอนของการจะเปรียบเทียบผลงานกับมาตรฐานที่กำหนดไว้การประเมินผลจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้บริหารในการตัดสินใจมอบหมายงาน เลื่อนขั้น การบรรจุแต่งตั้ง พัฒนาบุคลากรหรือโยกย้ายสับเปลี่ยนบุคลากรนั้นให้เหมาะสมกับงาน
หลักการพิจารณา
การประเมินผลการปฏิบัติงาน ทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ
การประเมินคุณลักษณะของผู้ปฏิบัติงาน
ขั้นตอนการประเมินผลการปฏิบัติงาน
กำหนดวัตถุประสงค์ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน
กำหนดแบบและลักษณะของงานที่จะประเมิน เขียนแบบประเมินและแบบบันทึก
กำหนดผู้ประเมินและการอบรมผู้ทำการประเมิน เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกัน
กำหนดวิธีการการประเมินผลงาน เช่นประเมินพฤติกรรม ประเมินตามมาตรฐานของหน่วยงาน
วิธีการประเมินผลการปฏิบัติงาน
วิธีการให้คะแนนตามมาตราส่วน (Graphic Rating Scales)
การประเมินตามค่าคะแนน (Point Rating Scales)
การประเมินผลที่เน้นผลการปฏิบัติงาน
Self-Appraisal การประเมินตนเอง เป็นแบบประเมินที่มุ่งให้พนักงานพัฒนาตนเอง และลดการต่อต้านในการประเมินผล
Management by objective การบริหารโดยยึดวัตถุประสงค์ หรือเป้าหมายที่กำหนดเป็นเกณฑ์ คือ การให้พนักงานและหัวหน้าร่วมกันกำหนดวัตถุประสงค์ของผลงานและวัดผลตามที่ตกลงร่วมกันไว้
Psychological Appraisal/Competency Appraisal การประเมินผลเชิงจิตวิทยา มักใช้กับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีความสามารถในการจ้างนักจิตวิทยาเข้ามาวัดประเมินศักยภาพในอนาคตของพนักงาน
Assessment Centers ศูนย์ประเมิน ใช้การประเมินหลายรูปแบบและมีผู้ประเมินหลายคน
ระบบบริหารงานบุคคล
ระบบอุปถัมภ์ Patronage system
ระบบคุณธรรม Merit system
หลักเสมอภาค
หลักความสามารถ
หลักความมั่นคง
หลักความเป็ นกลางทางการเมือง
การบริหารพัสดุ
ความหมาย
พัสดุ หมายความว่า วัสดุครุภัณฑ์ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง
วัสดุ หมายถึง สิ่งของที่มีลักษณะไม่คงทนถาวรใช้แล้วสิ้นเปลืองหมดไปหรือสลายตัวไปในระยะสั้น
ครุภัณฑ์ หมายถึง สิ่งของที่มีลักษณะคงทนถาวรมีอายุการใช้งานยาวนานไม่เป็นของใช้สิ้นเปลือง
วัตถุประสงค์การบริหารพัสดุ
เพื่อควบคุมการใช้ทรัพยากรต่างๆ ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่
เพื่อจัดหาพัสดุให้เพียงพอต่อการใช้อยู่ตลอดเวลา
เพื่อประหยัดงบประมาณหรือเงินบ ารุงในการจัดซื้อพัสดุ
ง่ายต่อการตรวจสอบ ป้องกันทุจริต
ประเภทของพัสดุ
พัสดุประเภทส านักงาน
พัสดุทางการแพทย์
พัสดุวิทยาศาสตร์
พัสดุยานพาหนะ
พัสดุงานบ้าน
ขั้นตอนการบริหารพัสดุ
วางแผน / ก าหนดโครงการ
กำหนดความต้องการ
จัดหา จัดซื้อ จัดจ้าง
การแจกจ่าย
การบำรุงรักษา
แบบป้องกัน
แบบแก้ไข
หลักการบำรุงรักษาพัสดุ
จัดทำสมุดทะเบียน
การควบคุมดูแลการเบิกจ่าย
จัดทำคู่มือบำรุงรักษา
รายงานการส่งซ่อมอุปกรณ์
การจำหน่าย
การบริหารงบประมาณ (Budget)
ความหมาย
การวางแผนความต้องการด้านการเงินไว้ล่วงหน้าว่าจะทำกิจกรรมใด เมื่อใด และใช้โดยใคร มีระยะเวลาเงื่อนไขกำหนดหรือการนำข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายมาดำเนินการให้เกิดผลในทางปฏิบัติ ซึ่งต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ข้อบัญญัติ ระเบียบและวิธีการที่กำหนด
มาตรฐานการจัดการทางการเงิน
การวางแผนงบประมาณ
การกำหนดผลผลิตและการคำนวณต้นทุน
การจัดระบบการจัดซื้อจัดจ้าง
การบริหารทางการเงินและ การควบคุมงบประมาณ
การรายงานทางการเงินและผลการดำเนินงาน
การบริหารสินทรัพย์
การตรวจสอบภายใน (Internal Audit)
การจัดระบบงาน
กำหนดวัตถุประสงค์ของงาน
กำหนดขอบเขตความรับผิดชอบ
กำหนดอัตรากำลังและประเภทของเจ้าหน้าที่แต่ละระดับ
กำหนดการติดต่อสื่อสาร
จัดทำคู่มือปฏิบัติงาน
การวางแผนการปฏิบัติงาน
นโยบายด้านบุคลากร
จัดหาเครื่องมือเครื่องใช้
การบันทึกการรายงาน
การเสริมความรู้ด้านวิชาการ
มีการติดต่อประสานงานกับทีมสุขภาพทุกสาขาที่เกี่ยวข้อง
มีการประเมินผล
การบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management)
ความหมาย
การจัดการกับเหตุการณ์ทั้งภายในและภายนอกองค์การเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเหมาะสม องค์การได้รับผลดีและลดผลกระทบในทางที่ไม่ดีของการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะช่วยให้องค์การดำเนินงานไปได้อย่างต่อเนื่อง ราบรื่น สามารถอยู่รอดและเจริญก้าวหน้าไปได้ทำให้เกิดการพัฒนาองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
รูปแบบของการเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงเชิงรุก (Proactive)
เริ่มจาการเปลี่ยนแปลงตนเองก่อน
ต้องอาศัยการวิเคราะห์สถานการณ์และแนวโน้มในอนาคต
เพื่อเตรียมการรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
การเปลี่ยนแปลงเชิงรับ (Reactive)
เป็นการถูกเปลี่ยนแปลงโดยผู้อื่นตัวเองไม่ยอมที่จะเปลี่ยนแปลง
มีความคิดติดยึดในแนวทางเดิมๆมานาน
ความสำคัญของการบริหารการเปลี่ยนแปลง
จะปรับตัวได้ทันกับปัญหาและการท้าทายจากสภาพแวดล้อมได้ ความสำเร็จขององค์การในยุคของการเปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่ที่ขนาดแต่อยู่ที่ความสามารถในการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ตลาด คู่แข่ง ลูกค้า ผู้รับบริการและแหล่งทรัพยากรต่างๆ
ช่วยให้องค์การเห็นโอกาสและภัยคุกคามต่างๆ ที่เกิดขึ้นและสามารถปรับการดำเนินงานเพื่อคว้าโอกาสและ/หรือจัดการกับภัยคุกคามได้อย่างเหมาะสมและทันต่อเหตุการณ์
จะช่วยให้การดำเนินงานขององค์การเป็นไปโดยราบรื่น ต่อเนื่อง ไม่ต้องติดขัด ชะงักงัน โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลง
จะช่วยให้องค์การไม่สับสน วุ่นวาย ระส่ำระสาย เมื่อต้องเผชิญกับความจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนการดำเนินงาน
จะช่วยให้องค์การได้ปรับปรุงตัวเองอย่างต่อเนื่องในด้านต่างๆและจะช่วยให้มีการนำศักยภาพที่มีอยู่ในองค์การมาใช้ได้อย่างคุ้มค่า
องค์ประกอบของการเปลี่ยนแปลงในองค์การ
เทคโนโลยี (Technology)
อุดมการณ์ (Ideology)
ระเบียบสังคม (Social Order)
ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง
แรงต่อต้าน
ความกลัวว่าจะต้องสูญเสียประโยชน์ อำนาจ ความมั่นคง หรือสิ่งที่เคยมี เคยทำอยู่จนเคยชิน
ความรู้สึกหวั่นไหวต่อความคลุมเครือ ความไม่แน่นอน ความรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงจะทำให้ตนถูกโดดเดี่ยว แปลกแยกและความรู้สึกที่จะต้องละจากแบบแผนของชีวิตที่ใช้มาจนเคยชิน
การขาดความรู้ความเข้าใจที่ดีพอเกี่ยวกับแนวทาง วิธีการ และจุดหมายปลายทางของการเปลี่ยนแปลง
ความไม่เชื่อถือ ไว้วางใจ ไม่เชื่อใจกัน ซึ่งทำให้ขาดการสื่อสารสร้างความเข้าใจ ซึ่งยิ่งบ่อนทำลายความไว้วางใจกันและกัน
ปัจจัยอื่นๆ เช่น ข้อจำกัดด้านทรัพยากร ความไม่ยืดหยุ่นของกฎระเบียบ ความยากลำบากในการสื่อสาร ฯลฯ
แรงเสริม
ความไม่พึงพอใจในสภาพปัจจุบันที่เป็นอยู่
ความสามารถในการรับรู้ข่าวสารร่วมกันในหมู่คนในองค์การ ซึ่งจะช่วยให้เห็นความจำเป็นของสถานการณ์ได้ตรงกัน พร้อมๆ กัน
ภาพลักษณ์ และการปฏิบัติตนของผู้นำที่แสดงถึงความมุ่งมั่น เอาจริงเอาจังต่อการเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลในตำแหน่งต่างๆ โดยเฉพาะในกลุ่มตำแหน่งผู้บริหาร
ความจำเป็นขององค์การที่ต้องใช้เทคโนโลยีในการดำเนินการและความรวดเร็วของพัฒนาการทางเทคโนโลยีประเภทที่องค์การใช้เป็นหลักในการดำเนินการ
สัมพันธภาพระหว่างบุคลากรในฝ่ายและระดับต่างๆ ในองค์การ รวมถึงความไว้วางใจและการสื่อสารที่ทั่วถึงกัน
กลไกในการประเมิน ทบทวนสภาพภายในองค์การ เช่น ระบบการติดตามประเมินผล
การได้ติดต่อสัมพันธ์กับภายนอกองค์การ ซึ่งทำให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์
การขั้นตอนการบริหารการเปลี่ยนแปลง
การวางแผนการเปลี่ยนแปลง (Planning for Change)
การนำแผนการเปลี่ยนแปลงไปสู่การปฏิบัติ (Implementing Change)
การติดตามประเมินผลและรักษาผลการเปลี่ยนแปลง (Evaluating and Maintaining Change)