Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลในระยะที่ 1 ของการคลอด, ระดับการศึกษา - Coggle Diagram
การพยาบาลในระยะที่ 1
ของการคลอด
การรับใหม่ผู้คลอด
การซักประวัติ
ประวัติการแพ้ยา สารอาหาร และการผ่าตัด
ความเจ็บป่วยทางอายุรกรรม ศัลยกรรม อดีตและปัจจุบันและประวัติการเจ็บป่วยของบุคคลในอดีต
ประวัติการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
โรคเรื้อรัง
โรคปอด
โรคหัวใจ
โรคเบาหวาน
โรคเลือด
ข้อมูลส่วนบุคคล
ชื่อ - สกุล
อายุ
อาชีพ
สถานภาพสมรส
ศาสนา
สิทธิการรักษา
ถิ่นที่อยู่อาศัย
ประวัติสูติกรรม
อดีต
ประวัติภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์
ประวัติการคลอด
จำนวนครั้งของการคลอด
อายุครรภ์ขนาดคลอด
ชนิดของการคลอด
ประวัติการแท้ง การขูดมดลูก
ประวัติของทารก
จำนวนบุตรที่มีชีวิตอยู่
น้ำหนักแรกเกิด
เพศ
ประวัติความผิดปกติ
ปัจจุบัน
ลำดับของการตั้งครรภ์
อายุครรภ์
ภาวะแทรกซ้อน
ประวัติด้านจิตใจ
การวางแผนการตั้งครรภ์และการคลอด
ความรู้และเจตคติต่อการคลอด
ประสบการณ์การตั้งครรภ์และการคลอด
ความคาดหวังต่อการคลอด
ความกลัวและวิตกกังวลในการคลอด
สัมพันธภาพในครอบครัวและการช่วยเหลือทางสังคม
อาการทีนำผู้คลอดมารพ.
การเจ็บครรภ์
เจ็บครรภ์จริง
มดลูกหดรัดตัวทุก 10-15 นาทีและถี่ขึ้นเรื่อยๆ
เริ่มเจ็บบริเวณหลังส่วนล่าง บั้นเอวร้างไปที่หน้าท้อง
อาการเจ็บไม่หายไปเมื่อทำกิจกรรม และเจ็บมากเมื่อเดิน
ไม่หายเจ็บแม้จะใช้การผ่อนคลาย หรือ sedative
มีผลต่อการเคลื่อนต่ำของทารก
เจ็บครรภ์เตือน
อาการเจ็บหายไปเมื่อเปลี่ยนท่า หรือเดิน
เริ่มเจ็บเฉพาะบริเวณหน้าท้อง
อาการเจ็บหายไปเมื่อได้รับยาบรรเทาปวด
ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของทารก
มดลูกหดรัดตัวน้อย ห่างมากไม่สม่ำเสมอ
มูก Show
มีน้ำเดินหรือถุงน้ำแตก (Rupture of menbraes)
การได้รับการสอนเกี่ยวกับการเตรียมตัวเพื่อการคลอด จำนวนครั้งที่มาฝากครรภ์ และแพทย์ผู้ดูแล
เพื่อประเมินการตั้งครรภ์และการคลอด ด้านการเตรียมตัว
การประเมินความก้าวหน้าของคลอด
การหดรัดตัวของมดลูก
Active phase
Cx. dilate 3 - 9 cms. Duration 45 – 60 วินาที Interval 3 – 5 นาที Intensity moderate ( + + )
Deceleration phase
Cx. dilate 9 - 10 cms. Duration 60 – 90 วนิาที Interval 2 – 3 นาที Intensity moderate ( + + + )
Latent phase
Cx. dilate ไม่เกิน 3 cms. Duration 15 – 20 วินาที Interval 10 – 15 นาที Intensity mild ( + )
การประเมินการหดรัดตัวของมดลูก
การประเมินโดยใช้เครื่องอเล็กโทรนิก
การใช้เครื่อง electronic feto monitoring (EFM)
ใช้ประเมินได้ทั้งการหดรัดตัวของมดลูก
ประเมินอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์
การประเมินโดยการวางฝ่ามือบนยอดมดลูก
Frequeancy
Intensity
Interval
Duration
สังเกตหน้าท้องว่ามี Bandl’s ring
การสั้นบางและเปิดขยายของปากมดลูก
มดลูกมีการหดรัดตัวดีจะทำให้ปากมดลูกบางและ เปิดขยายมากขึ้นตามลำดับจนปากมดลูกเปิดหมดคือ 10 เซนติเมตร และบางหมด 100% การเปิดขยายของปากมดลูกเป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าการคลอดมีความก้าวหน้าหรือไม่
ครรภ์แรก descent > 1 ซม./ชม.
ครรภ์หลัง descent > 2 ซม./ชม.
การเคลื่อนต่ำของส่วนนำ
การหมุนภายในของศีรษะทารก
ประเมินได้จากการตรวจแนวของรอยต่อแสกกลางและตา แหน่งขมอ่มหลังของ ทารก
จำนวนและลักษณะของมูกที่ปากมดลูก
หลักการประเมินภาวะแทรกซ้อน
ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนการเจ็บครรภ์
สายสะดือย้อย
การคลอดยาวนาน
การคลอดยาก
ความผิดปกติในการหดรัดตัวของมดลูก
การพยาบาล
อธิบายให้ผู้คลอดเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการคลอด รวมทั้งแผนการรักษาและการช่วยเหลือในระยะคลอด
วัด Vital sings ทุก 4 ชั่วโมง โดยสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากพบความผิดปกติต้องรายงานแพทย์เพื่อช่วยเหลือ
กิจกรรมหรือการเบี่ยงเบนความสนใจ
ระยะปากมดลูกเปิด 8-10 cm. แนะนำให้หายใจลึกๆ
ระยะปากมดลูกเปิด 4-8 cm. แนะนำให้จิตใจจดจ่อ นับลมหายใจ
ระยะปากมดลูกเปิด 1-4 cm. แนะนำให้เดิน พูดคุย หรืออ่านหนังสือ
สอนวิธีการลูบหน้าท้องตั้งแต่หัวเหน่า วนตามหน้าท้องเพื่อหันเหความเจ็บปวดช่วยลดอาการปวดหลังโดยให้ผู้ป่วยนอนตะแคงซ้ายงอเข่าเล็กน้อยและช่วยนวดบริเวณต้นขาและบริเวณกระดูกก้นกบให้ผู้คลอด
การฝึกหายใจ
Latent phase ปากมดลูกเริ่มเปิด- 3 ซม. (หายใจแบบช้าด้วยอก) โดยมีวิธีดังนี้ สูดลมหายใจเข้าจมูกช้าๆ นับ 1-2-3-4 ค่อยๆ ผ่อนลมออกทางปากช้าๆ นับ 1-2-3-4
Active Phase ปากมดลูกเปิด 3-8 ซม. (หายใจช้าๆ สลับกับการหายใจแบบตื้น เบา เร็ว) โดยมีวิธีดังนี้ มดลูกหดตัวรัดตัว หายใจเข้า-ออกช้า มดลูกหดรัดตัวเต็มที่ หายใจแบบตื้น เบา เร็ว ไปเรื่อย มดลูกเริ่มคลายตัว หายใจเข้า-ออกช้า
Transition phase ปากมดลูกเปิดตั้งแต่ 8 ซม. (หายใจแบบตื้น เบา เร็วและเป่าออก) โดยมีวิธีดังนี้ มดลูกหดรัดตัว หายใจตื้น เบา เร็ว ประมาณ 4 ครั้ง เป่าออกทางปาก 1 ครั้ง
การกดจุด (Acupressure) ปรับพลังงานให้เข้ากับสมดุล โดยวิธีการนวดเท้าเพื่อสลายการอุดตันตามอวัยวะ
การนวด เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ระดับเอนดอร์ฟินเพิ่มขึ้น
ดูแลความสุขสบายทั่ว ๆ ไป จัดสิ่งแวดล้อมให้น่าอยู่ สะอาด ในรายที่ถุงน้ำแตกควรใส่ผ้าอนามัยเพื่อสังเกตลักษณะน้ำคร่ำและป้องกันติดเชื้อ
ดูแลได้รับสารน้ำและสารอาหารอย่างเพียงพอ เพื่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
การจัดท่าที่เหมาะสม (positioning) มีประโยชน์ดังนี้ ท่ายืนและท่าเดินจะทำให้ความเจ็บปวดจากการหดรัดตัวของมดลูกลดลง ทายืนหรือท่านั่งเอาลำตัวส่วนหน้าพิง และท่าคลานจะทำให้ความไม่สุขสบายจากการปวดหลังลดลงท่าตอนตะแคงจะทำให้สุขสบาย การไหลเวียนของโลหิตไปยังรกดีขึ้น ท่าของผู้คลอดควรเปลี่ยนทุก 30-60 นาที เพื่อเพิ่มความสุขสบาย และลดความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ
ประเมิน FHS ทุก 1 ชั่วโมง ใน latent phase และ ทุก 1/2 ชม. ใน active phase เพื่อประเมินสุขภาวะของทารกในครรภ์
การประเมินทางด้านจิตสังคม
Latent phase
เครียดน้อย เจ็บครรภ์น้อย จะรับรู้ เรียนรู้และแก้ปัญหาได้มาก
พฤติกรรมไม่เหมาะสม : ก้าวร้าว โกรธ ไม่พอใจ ซึมเศร้า แยกตวั ไม่เป็นมิตร
พฤติกรรมเหมาะสม : พูดคุย ซักถาม ยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้เงียบๆ ทา กจิกรรมด้วยตนเอง
Active phase
สิ่งกระตุ้นความเครียดมากขึ้น เจ็บครรภ์มากขึ้น เหนื่อย อ่อนเพลีย
พฤติกรรมเหมาะสม : พูดคุยน้อยลง กิจกรรมลดลง กระสับกระส่าย บ่น พึ่งพาผู้อื่น
พฤติกรรมไม่เหมาะสม : ก้าวร้าว ร้องครวญคราง กลัว ซึมเศร้า แยกตัว ถดถอยหรือปฏิเสธ
Transitional phase
วิตกกังวลสูง เจ็บปวดและ เครียดมากที่สุด ทุรนทุรายและเหนื่อยอ่อน
พฤติกรรมไม่เหมาะสม : ไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมตนเอง ได้ ไม่ตอบสนองใดๆ เรียกร้องจะยุติการตั้งครรภ์ เอะอะโวยวาย
พฤติกรรมการแสดงออก : แยกตัวเอง ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม อาจก้าวร้าว ไม่ให้ความร่วมมือ
การตรวจร่างกาย
การดู
กาารฟัง
การคลำ
เพื่อประเมินความสัมพันธ์ของระดับยอดมดลูกกับอายุครรภ์
อัตราการเต้นของหัวใจปกติ
110-160 ครั้ง/นาที
ตำแหน่งของเสียงหัวใจทารก
ขนาดของท้อง
ลักษณะของมดลูก
การเคลื่อนไหวของทารก
ลักษณะทั่วไปของท้อง
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ตรวจปัสสาวะ
เพื่อน้ำตาลและโปรตีนในปัสสาวะ
ตรวจเลือด
Hematocrit
Hemoglobic
VDRL
HBsAg
Anti-HIV
ผลการตรวจพิเศษ
Ultrasonography
ผลการตรวจ NST
การตรวจร่างกายทั่วไป
ลักษณะรูปร่าง
สูงน้อยกว่า 145 cm. อาจมีเชิงกรานแคบ
สัญญาณชีพ
BP = 110-120/70-80 mm.Hg
T = 36.5-37.5 องศาเซลเซียส
P = 60-80 ครั้ง/นาที
R = 16-20 ครั้ง/นาที
น้ำหนัก
ถ้าอ้วนมาก อาจทำให้คลอดยาก ทั้งยังมีผลต่อการท่าคลอด
ลักษณะทั่วไป
อาการซีด
อาการบวม
ผลการตรวจเลือด
ผลการตรวจปัสสาวะ
พฤติกรรมการแสดงออกถึงความเจ็บป่วย
การตรวจภายใน
สภาพปากมดลูก
การบวมของปากมดลูก
ตำแหน่งของปากมดลูก
ตรวจหาส่วนนำ
ตรวจหาท่าของทารก
ตรวจดูสภาพของน้ำทูนหัว
ลักษณะของถุงน้ำ
การตรวจหาขนาดของก้อนโน และการเกยกันของกระดูก
การเตรียมผู้คลอด
การเตรียมผู้คลอดทางด้านร่างกาย
1 more item...
การเตรียมผู้คลอดทางด้านจิตใจ
1 more item...
การตรวจทางช่องคลอด
ระยะ latent ควรตรวจทุก 4 ชั่วโมง
ระยะ active ควรตรวจทุก 2 ชั่วโมง
หลักการประเมินสภาวะของทารกในครรภ์
การเต้นของหัวใจทารก
เพื่อประเมินจังหวะและความสม่ำเสมอของ อัตราการเต้นของหัวใจ
P = 110 – 160 คร้ังต่อนาที
ฟังภายหลังมดลูกคลายตัวประมาณ 20 – 30 วินาที
ในผู้คลอดที่มีภาวะเสี่ยง
ภาวะเสี่ยงสูง
ในระยะlatent ควรฟังทุก 30 นาที ในระยะ active ควรฟังทุก 15 นาที
ภาวะเสี่ยงต่ำ
ในระยะ latent ควรฟังทุก 1 ชั่วโมง
ในระยะ active ควรฟังทุก 30 นาที
ลักษณะน้ำคร่ำ
น้ำคร่ำจะขุ่นคล้ายน้ำามะพร้าว เนื่องจากมีไขของทารกปนออกมา
C = clear liqour draining (น้ำคร่ำใสปกติ)
M = meconium stained liqour draining (น้ำคร่ำมีขี้เทาปน)
A = absent ถุงน้ำแตกแต่ตรวจภายในไม่พบน้ำแตก
B = blood stained (น้ำคร่ำปนเลือด)
การดิ้นของทารกในครรภ์
ปกติทารกในครรภ์มีการเคลื่อนไหวอย่างน้อย 10 ครั้ง ในช่วงระยะเวลา 12 ชั่วโมง
การวิเคราะห์เลือดของทารกในครรภ์
ปกติเลือดของทารกในครรภ์จะมีค่า pH อยู่ระหว่าง 7.20 – 7.45
การบันทึกอัตราการเต้นของหัวใจทารกโดยใช้เครื่องอิเล็กโทรนิกส์ (EFM)
ปกติ 110 – 160 ครั้งต่อนาที
หลักการวินิจฉัยการเปิดขยายของปากมดลูก ตามแบบบันทึกของ WHO Partograph
ในระยะ latent ระยะนี้ไม่ควรนานเกิน 8 ชั่วโมง
ในระยะ active อัตราการเปิดขยายของปากมดลูกไม่ ควรน้อยกว่า 1 เซนติเมตรต่อชั่วโมง
เส้น alert line แสดงว่าเริ่มเกิดการคลอดยาวนาน
เส้น action line ปากมดลูกเปิดขยายล่าช้า หรือถึงเขตที่มีการคลอดยาวนานผดิปกติ
พื้นที่ส่งต่อ ส่งต่อผู้คลอด
ระดับการศึกษา