Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การป้องกันและการช่วยเหลือเด็ก - Coggle Diagram
การป้องกันและการช่วยเหลือเด็ก
เด็กจมน้ำ (Drowning)
ความหมาย
Drowning ; ผู้ที่เสียชีวิตจากการจมน้ำ
Near-Drowning ; ผู้ที่จมน้ำแต่ไม่เสียชีวิตทันที บางรายอาจเสียชีวิตต่อมาในช่วงเวลาสั้นๆ
การจมน้ำ
การจมน้ำเค็ม ( Salt-water Drowning)
ทาให้เกิดภาวะ pulmonary edema
เกิดภาวะ hypovolemia
หัวใจเต้นผิดปกติ หัวใจวาย ช็อก
การจมน้ำจืด (Freshwater-Drowning)
เกิด hypervolemia
อาจเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกhemolysis
หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจวาย
การช่วยเหลือ
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นอาจไม่ถูกหลัก
อุ้มเด็กพาดบ่าแล้วเขย่า
กระทุ้งบริเวณหน้าท้อง
วิธีเหล่านี้ไม่ควรทาอย่างยิ่ง
วิธีที่ดีที่สุดเมื่อนำเด็กขึ้นฝั่ง
กรณีที่เด็กรู้สึกตัว
ใช้ผ้าคลุมตัว
ให้รีบเช็ดตัว
เปลี่ยนเสื้อผ้า
จัดให้นอนในท่าตะแคงกึ่งคว่า
แล้วนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
กรณีที่เด็กหมดสติ
เช็กว่ายังมีลมหายใจอยู่ไหม
หัวใจเต้นหรือเปล่า
ถ้าไม่ ให้โทร. เรียกหน่วยรถพยาบาลหรือหน่วยกู้ภัยโดยด่วน
ให้ช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานโดยนวดหัวใจสลับกับการช่วยหายใจ
สารพิษ ( Poisons)
ความหมาย
มีสภาพเป็นของแข็ง ของเหลว หรือก๊าซ
เข้าสู่ร่างกายโดย การรับประทาน การฉีด การหายใจ หรือการสัมผัสทางผิวหนัง
อันตรายจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ คุณสมบัติ ปริมาณ และทางที่ได้รับสารพิษ
การปฐมพยาบาล
ได้รับสารพิษทางปาก
ทำให้สารพิษเจือจาง ให้นม
นำส่งโรงพยาบาล เพื่อทำการล้างท้อง
ทำให้ผู้ป่วยอาเจียน เพื่อเอาสารพิษออก
ข้อห้ามในการทำให้ ผู้ป่วยอาเจียน หมดสติ ได้รับสารพิษชนิดกัดเนื้อ เช่น กรด ด่าง รับประทานสารพิษพวก น้ำมันปิโตรเลียม เช่น น้ำมันก๊าด เบนซิน
ให้สารดูดซับสารพิษในระบบทางเดินอาหาร เพื่อลดปริมาณการดูดซึมสารพิษเข้าสู่ร่างกาย สารที่ใช้ได้ผลดี คือ Activated charcoal มีลักษณะเป็นผงถ่านสีดำ ใช้ ๑ ช้อนโต๊ะ ละลายน้า ๑ แก้ว ให้ ผู้ป่วย ดื่ม ถ้าหาไม่ได้ อาจใช้ไข่ขาว ๓ - ๔ ฟอง ตีให้เข้ากัน
ได้รับสารกัดเนื้อ
ถ้ารู้สึกตัวดีให้ดื่มนม
อย่าทำให้อาเจียน
รีบนาส่งโรงพยาบาล
ได้รับสารพวกน้ำมันปิโตเลียม
รีบนำส่งโรงพยาบาล
ห้ามทำให้อาเจียน
ระหว่างนำส่งโรงพยาบาล ถ้าผู้ป่วยอาเจียน ให้จัดศีรษะต่ำ เพื่อป้องกันการสำลักน้ำมันเข้าปอด
ผู้ที่ได้รับ ยาแก้ปวด ลดไข้
ทำให้สารพิษเจือจาง
ทำให้อาเจียน
ให้สารดูดซับสารพิษ ที่อาจหลงเหลือในระบบทางเดินอาหาร
่ได้รับสารพิษทางการหายใจ
กลั้นหายใจและรีบเปิดประตูหน้าต่าง ๆ เพื่อให้อากาศถ่ายเท
นำผู้ป่วย ออกจากบริเวณที่เกิดเหตุไปยังที่มีอากาศบริสุทธิ์
ประเมินการหายใจและการเต้นของหัวใจ ถ้าไม่มีให้ผายปอดและนวดหัวใจ นาส่งโรงพยาบาล
สารเคมีถูกผิวหนัง
ล้างด้วยน้ำสะอาดนาน ๆ อย่างน้อย ๑๕ นาที
อย่าใช้ยาแก้พิษทางเคมีอาจทำให้เกิดอันตรายมากขึ้น
บรรเทาอาการปวดและรักษาช็อค
ปิดแผล แล้วนำส่งโรงพยาบาล
สารเคมีเข้าตา
ล้างตาด้วยน้ำนาน ๑๕ นาที่ โดยการ เปิดน้ำก๊อกไหลรินค่อย ๆ
อย่าใช้ยาแก้พิษทางเคมีอาจทำให้เกิดอันตรายมากขึ้น
บรรเทาอาการปวดและรักษาช็อค
ปิดตา แล้วนำส่งโรงพยาบาล
จำแนกตามการออกฤทธิ์
ชนิดกัดเนื้อ (Corrosive )เนื้อเยื่อของร่างกายไหม้ พอง
สารละลายพวก
กรดและด่างเข้มข้น
น้ำยาฟอกขาว
ชนิดทาให้ระคายเคือง (Irritants ) ทาให้เกิดอาการปวดแสบ ปวดร้อน และอาการอักเสบ
ฟอสฟอรัส
สารหนู
อาหารเป็นพิษ
ซัลเฟอร์ไดออกไซด์
ชนิดที่กดระบบประสาท (Narcotics ) ทำให้หมดสติ หลับลึก ปลุกไม่ตื่น ม่านตาหดเล็ก
ฝิ่น
มอร์ฟีน
พิษจากงูบางชนิด
ชนิดที่กระตุ้นระบบประสาท (Dililants) ทำให้เกิดอาการเพ้อคลั่ง ใบหน้าและผิวหนังแดง ตื่นเต้นชีพจรเต้นเร็ว ช่องม่านตาขยาย
ยาอะโทรปีน
ลำโพง
การประเมินภาวะการได้รับสารพิษ
การคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง น้ำลายฟูมปาก หรือมีรอยไหม้นอกบริเวณริมฝีปาก มีกลิ่นสารเคมีบริเวณปาก
เพ้อ ชัก หมดสติ มีอาการอัมพาตบางส่วนหรือทั่วไป ขนาดช่องม่านตาผิดปกติ อาจหดหรือขยาย
หายใจขัด หายใจลาบาก มีเสมหะมาก มีอาการเขียวปลายมือปลายเท้า หรือบริเวณริมฝีปาก ลมหายใจมีกลิ่นสารเคมี
ตัวเย็น เหงื่อออกมาก มีผื่นหรือจุดเลือดออกตามผิวหนัง