Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรณีศึกษาที่ 3 นางสมปอง อายุ 39 ปี G4P1A2L1 GA 32 Wks., นางสาววรินรัตน์…
กรณีศึกษาที่ 3 นางสมปอง อายุ 39 ปี G4P1A2L1 GA 32 Wks.
สาเหตุ
ตามทฤษฎี: เกิดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งเป็น DNA hepadna-virus เชื้อติดต่อทางเลือด การมีเพศสัมพันธ์และสารคัดหลั่งต่าง ๆ เช่น น้ำลาย สารคัดหลั่งในช่องคลอด
อาการ
ตามทฤษฎี : มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ปวดท้องบริเวณด้านขวาส่วนบน มีภาวะดีซ่าน อุจจาระสีซีด ตาเหลือง
ผู้ป่วย:มีไข้ ตัวตาเหลือง
การตรวจวินิจฉัย
ตามทฤษฎี
2.การตรวจร่างกาย จะพบอาการไข้ ปวดท้องบริเวณด้นขวาส่วนบน ดีซ่าน ตาเหลือง
3.การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตรวจเอนไซม์ของตับจะพบ alkaline phosphatase ASP/ALT เพิ่มขึ้น ตรวจหา anti IgM จะพบผลบวก ตรวจการทำงานของตับ ตรวจ marker ของเชื้อไวรัสจากน้ำเหลือง ได้แก่ HBsAg , HBsAb,HBcAg , HBcAb , HBcAg , anti -HBe ถ้าตรวจพบ HBsAg แสดงว่ามีการติดเชื้อ ถ้าพบมี HBeAg ร่วมด้วย จะมีโอกาสแพร่กระจายเชื้อสูง
1.ซักประวัติ เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยง เช่น การรับประทานอาหาร การขับถ่าย อาการแสดงของการติดเชื้อ
ผู้ป่วย
1.ซักประวัติ ผู้ป่วยมีอาการไข้ ตัวตาเหลือง ลูกดิ้นดี
2.ตรวจร่างกาย พบมีไข้ อาการดีซ่าน ไม่พบตกขาว ไม่บวม ระดับยอดมดลูก 2/4 มากกว่าระดับสะดือ FHS 156 ครั้ง/นาที
3.การตรวจทางห้องปฎิบัติการ=HbsAg positive, HbeAg positive แสดงว่ามีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และสามารถแพร่กระจายเชื้อได้สูง
การรักษา
ตามทฤษฎี
3.แนะนำให้มาตรวจครรภ์ตามนัดสม่ำเสมอ
4.การคลอด ควรให้คลอดทางช่องคลอด สิ่งสำคัญ คือ เมื่อทารกคลอดออกมา ควรรีบดูดสารคัดหลั่งออกจากปากและจมูกให้เร็วที่สุด
2.ให้การรักษาตามอาการ สำหรับ acute HBV
5.ให้ hepatitis B immunnoglobulin ทันทีหรือหลังคลอดใน 12 ชั่วโมง รวมทั้งให้ H-B-vax หรือ Engerix-B ทันทีหรือภายใน 7 วันหลังคลอด หลังจากนั้นให้อีก 2 ครั้ง
1.ตรวจคัดกรองหญิงตั้งครรภ์ทุกราย โดยตรวจหา HBsAg ในเลือดเมื่อมาฝากครรภ์ครั้งแรกและในช่วงไตรมาสที่สาม
6.การเลี่ยงบุตรด้วยนมมารดา
ผลของการตั้งครรภ์ต่อโรค
ตามทฤษฎี:โดยทั่วไปการตั้งครรภ์ไม่มีผลต่อโรค
ผลของโรคต่อหญิงตั้งครรภ์
ตามทฤษฎี: อัตราเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด
ผลของโรคต่อทารกในครรภ์
ตามทฤษฎี:ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าโรคตับอักเสบบี จะเพิ่มความพิการของทารกในครรภ์ ส่วนการติดเชื้อจากมารดาสู่ทารกจะเกิดมากที่สุดในช่วงระยะคลอดและหลังคลอด เช่น ทารกสัมผัสหรือกลืนสารคัดหลั่งในข่องคลอด รวมทั้งทารกที่ดูดนมมารดา
การพยาบาล
ระยะคลอด
หลังจากทารกคลอด ควรรีบดูดสารคัดหลั่งออกจากปากและจมูกทันที เช็ดตาและดูแลทำความสะอาดร่างกายทารกทันที
ควรพิจารณาให้คลอดทางช่องคลอด การผ่าตัดคลอดทารกทางหน้าท้อง ควรทำเมื่อมีข้อบ่งชี้ทางสูติศาสตร์เท่านั้น
ดูแลให้ได้รับสารน้ำและสารอาหารอย่างเพียงพอ
ประเมินและติดตามความก้าวหน้าของการคลอด
แนะนำวิธีการหายใจเพื่อบรรเทาความปวด และการเบ่งคลอดอย่างถูกวิธี
เตรียมอุปกรณ์ในการทำคลอด และอุปกรณ์การช่วยฟื้นคืนชีพทั้งมารดาและทารกให้พร้อมใช้
ระยะหลังคลอด:ดูแลทารกให้ทารกได้รับ HBIG ตั้งแต่แรกเกิด มารดาสามารถเลี้ยงดูบุตรด้วยนมมารดาได้ ยกเว้นในรายที่หัวนมแตกหรือมีแผล เน้นย้ำเรื่องการแพร่กระจายเชื้อและนำทารกมารับวัคซีนจนครบตามนัดแพทย์
ระยะตั้งครรภ์
อธิบายให้หญิงตั้งครรภ์และครอบครัวทราบเกี่ยวกับโรค การติดต่อ ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นและการรักษา
แนะนำให้รับประทานอาหารปรุงสุก สะอาด ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาด
แนะนำให้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
แนะนำให้มาตรวจครรภ์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
แนะนำหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ของที่อาจปนเปื้อนเลือด เช่น กรรไกรตัดเล็บ ร่วมกับผู้อื่น
แนะนำควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
นางสาววรินรัตน์ สว่างศรี เลขที่ 85(603101086)