Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลในระยะที่1 ของการคลอด, ประวัติทางสูติกรรม, นางสาววิภา ลุงตะ…
การพยาบาลในระยะที่1 ของการคลอด
การรับใหม่
การให้การต้อนรับ
ต้อนรับด้วยไมตรีจิต สุภาพอ่อนโยน มารยาทเรียบร้อยว่องไว มั่นใจในตนเองเพื่อให้ผู้คลอดอุ่นใจ
การซักประวัติ
ประวัติจากอาการนำที่ผู้คลอดมาโรงพยาบาล
การเจ็บครรภ์(Labor pain) ว่าเจ็บครรภ์จริงหรือเจ็บครรภ์เตือน เวลาที่เจ็บจริงว่าเกิดเวลาใด
มูก(Show) ลักษณะ ประวัติมูกหรือน้ำเดินเวลาใด ก่อนเจ็บครรภ์นานเท่าใด เปียกขนาดไหน
มีน้ำเดินหรือถุงน้ำแตก(Rupture of membranes) มีหรือไม่มี เกิดเมื่อใด ลักษณะ จำนวน
ประวัติการตั้งครรภ์และการคลอดในอดีต
ประวัติการแท้งหรือขูดมดลูก
ประวัติภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์
ประวัติการคลอด
ประวัติของทารก
ประวัติความผิดปกติหรือภาวะแทรกซ้อนต่างๆในระยะคลอดและหลังคลอด
ประวัติการตั้งครรภ์ปัจจุบัน
ลำดับของการตั้งครรภ์
อายุครรภ์
ภาวะแทรกซ้อนหรืออาการผิดปกติขณะตั้งครรภ์ EX ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โลหิตจาง มีเลือดออกทางช่องคลอด
ประวัติความเจ็บป่วยทางอายุรกรรมและศัลยกรรมทั้งปัจจุบันและอดีต
เจ็บป่วยด้วยโรคใดบ้าง รักษาอย่างไร ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ โรคเรื้อรังต่างๆ ก่ีผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับอุ้งเชิงกราน ภาวะผิดปกติที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
ประวัติการแพ้ยาและสารอาหารต่างๆการผ่าตัด
ซึ่งมีผลต่อการคลอดครั้งนี้ EX คลอดทางช่องคลอดแต่แพ้ยากลุ่ม Penicillin
ประวัติการเจ็บป่วยของบุคคลในครอบครัว
โรคหรือความผิดปกติที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
โรคติดเชื้อต่างๆ
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ-สกุล อายุ อาชีพ ระดับการศึกษา สถานภาพสมรส ศาสนา สิทธิการรักษา ถิ่นที่อยู่อาศัย
ประวัติด้านจิตสังคม
ประสบการณ์การตั้งรรภ์และการคลอด
การวางแผนการตั้งครรภ์และการคลอด
ความรู้และเจตคติต่อการคลอด
ความกลัวและความวิตกกังวลต่อการคลอดและทารกในครรภ์
ความคาดหวังต่อการคลอด เพศของบุตร การบริการของบุคลากรพยาบาล
สัมพันธภาพในครอบครัวและการช่วยเหลือสนับสนุนทางสังคม
การได้รับการสอนเกี่ยวกับการเตรียมตัวเพื่อคลอด จำนวนครั้งที่มาฝากครรภ์ แพทย์ผู้ดูแล
การประเมินทางด้านจิตสังคม
1.อายุ ประเมินวุฒิภาวะ
2.อาชีพ รายได้ การศึกษา หน้าที่การงาน ตำแหน่งทางสังคมเพื่อประเมินเศรษฐกิจสังคม
3.ศาสนา พื้นฐานวัฒนธรรม ความเชื่อ
4.สถานภาพสมรส เช่นอยู่กินกันถูกต้องตามกฎหมาย แยกกันอยู่ หย่าร้าง
5.ทัศนคติเกี่ยวกับการคลอด
6.ความรู้เกี่ยวกับการเตรียมตัวเพื่อคลอด
7.ความคาดหวังต่อการคลอดครั้งนี้
8.สัมพันธภาพในครอบครัวและการช่วยเหลือค้ำจุน
9.ความกลัวความวิตกกังวล ประเมินจากคำพูด กิริยา ท่าทาง สีหน้าที่แสดงออก
การตรวจร่างกาย
การตรวจร่างกายเฉพาะที่
การดู
ขนาดของท้อง หน้าท้องใหญ่อาจตั้งครรภ์แฝดหรือมีภาวะน้ำคร่ำมาก
ลักษณะมดลูก โตตามยาวหรือโตตามขวางเพื่อดูทารกอยู่ในท่าหัวหรือท่าก้นหรือท่าขวาง
การเคลื่อนไหวของทารก
ลักษณะทั่วไปของท้อง มีหน้าท้องย้อย(Diasstasis recti)อาจมีผลต่อระยะที่2ของการคลอดเพราะจะทำให้แรงเบ่งไม่ดี
การคลำ
เพื่อประเมินความสัมพันธ์ของระดับยอดมดลูกกับอายุครรภ์
ส่วนนำทารก ระกับของส่วนนำ ท่าและทรงของทารกการเข้าสู่อุ้งเชิงกรานของส่วนนำ
การคาดคะเนน้ำหนักทารก (EFW = HF x AC) 1.Dareและคณะ ส่วนสูงของยอดมดลูกxเส้นรอบวงท้องมารดาที่ระดับสะดือ(cm)=ค่าประมาณน้ำหนักทารกในครรภ์(g)
2.สูตรของจอร์นสัน น้ำหนักของทารก=(ความสูงของยอดมดลูก-n)x155
n=12 กรณียังไม่ engagement
n=11 กรณี engagement
ความสูงของยอดมดลูก เมื่อครบกำหนดควรอยู่ระหว่าง 33-37 cm ถ้าน้อยกว่าทารกมักตัวเล็ก ถ้ามากกว่าทารกมักตัวโต
การฟัง
การฟังหัวใจทารกจะได้ยินชัดเจนทางด้านหลังของทารก คือ บริเวณสะบักซ้าย
ระยะที่2 ควรฟังหัวใจทุก 5-10 นาที กรณีถุงน้ำทูนหัวแตกควรฟังทันทีเพราะอาจมีสายสะดือพลัดต่ำ หัวใจของทารกจะเต้นจะเต้น 120-160/นาที
ทารกครบกำหนดที่ศีรษะเป็นส่วนนำ จะได้ยินที่ต่ำกว่าสะดือ ท่าก้นจะได้ยินเหนือสะดือ ยกเว้นรายที่เคลื่อต่ำอาจได้ยินต่ำกว่าสะดือ
ปกติจะเต้น 110-160 สม่ำเสมอ อาจเกิดจากภาวะขาดออกซิเจน(Frtal distress) อัตราการเต้นของหัวใจต่ำกว่า 110 เกินกว่า 160 มีขี้เทา จังหวะการเต้นของหัวใจไม่สม่ำเสมอ
ตำแหน่งที่ฟังอาจเปลี่ยนตามความกาวหน้าของการคลอด ตำแหน่งของหัใจจะเคลื่อนต่ำลงมาเรื่อยๆ ถ้าฟังได้เหนือหัวเหน่าแสดงว่าใกล้คลอดแล้ว
การตรวจภายใน
วัตถุประสงค์ 1.วินิจฉัยว่าผู้คลอดเข้าสู่ระยะคลอด 2.วินิจฉัยท่าทารกในครรภ์ 3.วินิจฉัยความก้าวหน้าของการคลอด 4.วินิจฉัยภาวะผิดปกติต่างๆของช่องทางคลอดและส่วนนำของทารกในครรภ์
สภาพปากมดลูก
การเปิดขยายของปากมดลูก เปรียบเทีบยจากเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-10cm คลำขอบของปากมดลูกไม่ได้เป็น fully dilate
ความบางของปากมดลูก(cervical effacement) เกิดขึ้นเมื่อมดลูกหดรัดตัวแล้ว internal os ถูกดึงรั้นขึ้นไป ปกติประมาณ2cm -เหลือ1cm เท่ากับ50% -เหลือ0.5cm เท่ากับ75% -เหลือเพียง 0.2-0.3cm เท่ากับ100% การตรวจโดยการสอดนิ้วจนถูกถุงน้ำหรือส่วนนำของปากมดลูก จะรู้สึกเป็นรอยบุ๋ม คลำขอบโดยรอบตำแหน่งรอยบุ๋ม
การบวมของปากมดลูก มักพบในผู้เบ่งก่อนเวลา ทำให้มดลูกส่วนหน้าถูกกดระหว่างศีรษะกับช่องทางคลอดทำให้การไหลเวียนเลือดไม่สะดวก ส่งผลให้ปากมดลูกบวม ยืดขยายได้น้อย
ตำแหน่งของปากมดลูก ระยะแรกคลอดจะอยู่ด้านหลัง และค่อยๆเลื่อนมาอยู่ตรงกลางและมาอยู่ด้านหน้าเมื่อระยะการคลอดก้าวหน้ามากขึ้น
การตรวจหาส่วนนำ
1.ดูว่าอะไรคือส่วนนำ
2.ดูระดับของส่วนนำ
plane เปรียบเทียบกับระดับ ischial spines -high plane เหนือระดับของischial spines -mid plane พอดีกับระดับของischial spines -low plane อยู่ต่ำกว่าระดับของischial spines
station ถ้าทารกท่าศีรษะที่ลงมาต่ำที่สุดมาถึงischial spinesคือกระดูกกระโหลกศีรษะ
ตรวจหาท่าของทารก
รอนต่อแสกกลาง(sagital suture) ว่าอยู่หน้า หลัง เฉียงหรือขวางกับแนวดิ่งหรือช่องคลอด
ถ้าพบรอยต่อแสกกลองอยู่ในแนวขวาง ขม่อมอยู่ด้านซ้าย ท่าคือLOT และขม่อมอยู่ด้านขวา ท่าคือROT ตรวจพบเมื่อ engagementแล้ว
การตรวจดูน้ำทูนหัว(Bag of fore water)
เมื่อมีการหดรัดตัวของมดลูก ทำให้ถุงน้ำโป่งจนคลำได้ชัดเจน ลักษณะ MI ถุงน้ำยังอยู่ MR ถุงน้ำแตกแล้งML ถุงน้ำรั่ว SRM ถุงน้ำแตกเอง ARM ได้รับการเจาะถุงน้ำ
การตรวจหาขนาดของก้อนโนและการเกยกันของกระดูกศีรษะ
Caput succedaneum เกิดจากศีรษะกดกับช่องทางคลอดทำให้น้ำเหลือซึมจากหลอดเลือดมาขังใต้เนื้อเยื่อหนังศีรษะทำให้เกิดก้อนโน
Molding เกิดจากแรงบีบของช่องทางคลอดเพื่อปรับขนาดของศีรษะเด็กให้เล็กเพื่อผ่านช่องทางคลอดได้ง่ายขึ้น
การคาดคะเนเวลาคลอด
ในระยะ Active phase ครรภ์แรก 1cm/hr ครรภ์หลัง 1.5 cm/hr -ในใบpartograph จะคิดชม.ละ1cm
การเตรียมผู้คลอด
รูดม่าน ปิดประตูก่อนทุกครั้ง
ถ่ายปัสสาวะก่อนตรวจ
บอกให้ทราบ อธิบายให้เข้าใจ
คลุมผ้าให้เรียบร้อย
ข้อห้าม
มีประวัติเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์ กำลังมีเลือดออก หรือรกเกาะต่ำทุกราย
ส่วนนำทารกยังไม่เข้าสู่ช่องเชิงกรานร่วมกับอายุครรภ์ยังครบกำหนด
มองเห็นศีรษะทารกแล้ว
มีการอักเสบมากบริเวณทวารหนัก EX hemorrhoid diarrhea
กรณีถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด ตรวจเท่าที่จำเป็นเพื่อลดการติดเชื้อ
ข้อบ่งชี้
รับใหม่ทุกราย
ระยะที่1ของการคลอด ตรวจดูความก้าวหน้า
รายที่สงสัยทารกในครรภ์อยู่ในท่าผิดปกติ
รายที่ถุงน้ำทูนหัวแตกทันที
เจ็บครรภ์ถี่ รุนแรง สงสัยว่าปากมดลูกเปิดหมด
ก่อนสวนอุจจาระให้กับผู้คลอด
รายที่การคลอดล่าช้า
ระหว่างซ่อมแซมฝีเย็บโดยตรวจทางทวารหนัก
ผู้คลอดรู้สึกอยากเบ่งหรือเริ่มเบ่ง
การตรวจร่างกายทั่วไป
ลักษณะรูปร่าง
ความสูงน้อยกว่า 145 cm อาจมีปัญหาเชิงกรานเเคบท่าเดินผิดปกติ อาจบอกถึงความผิดปกติบริเวณสะโพกกระดูกสันหลัง
ลักษณะทั่วไป
ประเมินสภาพของผู้คลอด EX อาการซีดจากโลหิตจาง บวมจากความดันโลหิตสูง หอบเหนื่อยจากโรคืางเดินหายใจและหัวใจ
สัญญาณชีพ
ความดันโลหิตปกติ 110-120/70-80 mmHg ถ้าสูงมากกว่า 140/90 ควรรายงานแพทย์
อุณหภูมิ ถ้าสูงอาจติดเชื้อในร่างกายหรือขาดน้ำ หากสูงเกิน 37.5 ให้รายงานแพทย์
อัตราชีพจร ถ้าสูงเกิน 90/นาที เบา เร็ว อาจมีการติดเชื้อ ขาดน้ำ อ่อนเพลีย ตกเลือด ควรตรวจสอบให้แน่ชัดอาจแสดงถึงภาวะShock
การหายใจ ปกติ 16-20/นาที มีหอบหรือไม่
น้ำหนัก
ประเมินอาการบวม อ้วน
พฤติกรรมแสดงออกถึงความเจ็บปวด
หายใจเร็ว เกร็งกล้ามเนื้อ เหงื่อออกมาก กระสับกระส่าย ร้องครวญคราง ทุบตีตนเอง
อาการบวม
บวมส่วนใดส่วนหนึ่งหรือไม่ โดยเฉพาะขา แขน ใบหน้า
ผลตรวจพิเศษอื่นๆ
ผลตรวจเลือด ผลตรวจปัสสารวะ Ultrasonography NST
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ตรวจปัสสาวะ
หาโปรตีนและน้ำตาลในเลือด
ตรวจเลือด
ในกรณีผู้คลอดไม่เคยผ่านการฝากครรภ์
การเตรียมผู้คลอด
ด้านจิตใจ
อธิบายให้ทราบเกี่ยวกับภาวะสุขภาพมารดาและทารกในครรภ์ ผลตรวจต่างๆ การดำเนินการคลอดและกระบวนการคลอด
อธิบายเกี่ยวกับการรับไว้เพื่อรอคลอด การเเนะนำสถานที่และข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการรอคลอด การเยี่ยมดารติดต่อกับสามีและญาติ สิทธิของผู้คลอด
เปิดโอกาสให้ซักถามข้อสงสัย
ด้านร่างก่าย
การทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธ์ภายนอกและฝีเย็บ
การสวนอุจจาระ
การทำความสะอาดร่างกาย
จัดให้พักผ่อนในห้องรอคลอดและดูแลอย่างใกล้ชิด
การบันทึกรายงาน
เพื่อรวบรวมข้อมูลปัญหาและการพยาบาลที่ผู้คลอดได้รับและผลการประเมิน ซึ่งพยาบาลจะต้องบันทึกทุกระยะที่ให้การพยาบาลโดยบันทึกครบตามกระบวนการพยาบาลรวมถึงการเซ็นต์ยินยอมการรักษา
การประเมินความก้าวหน้าของการคลอด
การหดรัดตัวของมดลูก
Latent phase
Cx.dilate ไม่เกิน 3cm
Dulation 15-20วินาที
Interval 10-15วินาที
Intensity mild+
Active phase
ตอนต้น
Cx.dilate 3-9cm
Dulation 45-60วินาที
Interval 3-5นาที
Intensity moderate++
ตอนปลาย
Cx.dilate 9-10cm
Dulation 60-90วินาที
Interval 2-3วินาที
Intensity moderate/strong+++
การประเมิน
ใช้เครื่องอิเล็กโทรนิกส์ ใช้ประเมินได้ทั้งการหดรัดตัวของมดลูกและอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์
วางฝ่ามือบนยอดมดลูก โดยประเมิน Dulation Interval Frequeancy Intensity
ถ้ามดลูกหดรัดตัวแรงมากผิดปกติ คือกล้ามเนื้อมดลูกจะแข็งมาก มีระยะพักสั้น ผู้คลอดเจ็บปวดมากจนไม่สามารถสัมผัสหน้าท้องได้ ควรประเมินอื่นๆร่วมด้วย เช่น สังเกตท้องว่ามี Bandl's ring sinv Bladder full หรือไม่
การสั้นบางและเปิดขยายของปากมดลูก
เมื่อการคลอดก้วหน้ามากขึ้นปากมดลูกจะขยายขึ้นตามลำลับจนเปิดหมดคือ10cm และบางหมดคือ100%
การเคลื่อนต่ำของส่วนนำและการหมุนของศีรษะทารก
ทารกจะเคลื่อนต่ำลงและมีการหมุนของศีรษะภายในตามกลไกการคลอดปกติ
การตรวจทางช่องคลอด
Latent phase
ตรวจทุก4ชม.
Active phase
ตรวจทุก2ชม.
การหมุนของศีรษะประเมินได้จากรอยต่อแสกกลางและตำแหน่งกระหม่อมหลัง ปกติคือกระด๔กท้ายทอยจะต่อยๆหมุนมาด้านหน้าของเชิงกรานและรอยต่อแสกกลางจะค่อยๆหมุนมาอยู่ในแนวหน้าหลังจากท่า LOA มาOA
ตำแหน่งเสียงหัวใจ FHS
ตำแหน่งจะเคลื่อนต่ำลงและเบนเข้าหาแนวกึ่งกลางลำตัวของผู้คลอด
มูก ถุงน้ำคร่ำ อาการผู้คลอด
มูกออกมากขึ้นเปลี่ยนเป็นมูกเลือด หรือเลือดมากขึ้นแสดงว่าปากมดลูกเปิดเพิ่มขึ้น โดยออกประมาณ50cc
การแตกของถุงน้ำคร่ำ จะเกิดเองเมื่อมดลูกใกล้เปิดหมด
อาการแสดงของผู้คลอด เมื่อปากมดลูกเปิดมากขึ้นจะกระสับกระส่ายมากขึ้น ควบคุมตนเองไม่ด้และเจ็บปวดมาก อสการเหล่านี้มักพบในTransitional phase(ปากมดลูก8-10cm)
ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อย
ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนเจ็บครรภ์
สายสะดือย้อย
การคลอดนาวนาน คลอดยาก
ความผิดปกิของการหดรัดตัวของมดลูก
อื่นๆเช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หัวใจ
หลักการประเมินสภาวะทารกในครรภ์
การเต้นของหัวใจทารก
ฟังให้เต็ม1นาที ฟังหลังมดลูดหดรัดตัวประมาณ20-30วินาที
ผู้คลอดเสี่ยงต่ำ Latent phaseฟังทุก1ชม Active phaseทุก30นาที
ผู้คลอดเสี่ยงสูง Latent phaseฟังทุก30นาที Active phaseทุก15นาที
ผู้คลอดถุงน้ำคร่ำแตกควรฟังทันที ต่อมาทุก5-10นาที
ลักษณะน้ำคร่ำ
ปกติอายุครรภ์ไม่ครบกำหนดน้ำลักษณะใส มีสีเหลืองจางๆคล้ายสีฟางข้าว เมื่อใกล้ครบกำหนดคลอด น้ำคร่ำจะขุ่นคล้ายน้ำมะพร้าว เนื่องจากมีไขของทารกปนออกมาด้วย
ถ้าน้ำคร่ำแตกแล้วมีขี้เทาปน จะสังเกตเห็นน้ำคร่ำมีสีเขียวหรือสีเหลืองน้ำตาลและข้น บอกบอกถึงภาวะทารกขาดอากาศหายใจ
เมื่อทารกเกิดภาวะขาดออกซิเจน ทำให้กล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักของทารกคลายตัวทำให้ขับขี้เทาปนออกมา พบเฉพาะในกรณีที่ทารกมีศีรษะเป็นส่วนนำเท่านั้น
C=clear liqour drainig ใสปกติ M=meconium stained liqour drainigน้ำคร่ำมีขี้เทาปน A=absentถุงน้ำแตกแต่ตรจภายในไม่พบน้ำคร่ำ B=blood stainedน้ำคร่ำปนเลือด
การดิ้นของทารกในครรภ์
การที่เลือดไปเลี้ยงมดลูกและรกลดลงทำให้ทารกได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอส่งผลให้ทารกดิ้นน้อยลง
ปกติทารกมีการเคลื่อนไหวอย่างน้อย 10 ครั้งในช่วง12ชั่วโมง
การวิเคราะห์เลือดของทารกในครรภ์
fetal blood analysis วิเคราะห์เลือดจากหนังศีรษะทารกในครรภ์ เพื่อค้นหาภาวะขาดออกซิเจนของทารก
ปกติเลือดทารกในครรภ์มีค่าpH 7.20-7.45
การบันทึกอัตราการเต้นของหัวใจทารกโดยใช้เครื่องอิเล็คโทรนิกส์(EFM)
การบันทึกความก้าวหน้าของการคลอด
Friedman's curve
Partograph
ข้อยกเว้น อายุครรภ์น้อยกว่า 34 wk ใกล้คลอดปากมดลูกเปิด9-10cm ผ่าตัด
ส่วนประกอบ 1.สภาพของทารกในครรภ์ 2.ความก้าวหน้าของการคลอด 3.การให้ยาและการรักษา 4.สภาพของมารดา
ลักษณะความก้าวหน้าของครรภ์ของการคลอดที่ผิดปกติ
ในระยะlatent phase ปากมดลูกไม่เปิดขยายเพิ่มใน4ชม
ระยะ Active ปากมดลูกไม่เปิดขยายเพิ่มใน2ชมหรือน้อยกว่า1cm/ชม
เส้นกราฟการคลอดแสดงอัตราการเปิดขยายของปากมดลูกมีความชันน้อยกว่าเส้นปกติ
ระยะที่2ของการคลอดพบว่าส่วนนำไม่มีการเคลื่อนต่ำลงมาในช่องเชิงกรานภายใน30นาที
การประเมินทางด้านจิตสังคม
Latent phase
เครียดน้อยเจ็บครรภ์น้อย รับรู้เรียนรู้และแก้ปัญหาได้มาก
พฤติกรรมเหมาะสม พูดคุย ซักถาม ยิ้มหัวเราะ ร้องไห้เงียบๆทำกิจกรรมด้วยตนเอง
พฤติกรรมไม่เหมาะสม ก้าวร้าว โกรธ ไม่พอใจ ซึมเศร้า แยกตัว ไม่เป็นมิตร
Active phase
สิ่งกระตุ้นความเครียดมากขึ้น เจ็บครรภ์มากขึ้น เหนื่อ อ่อนเพลีย
พฤติกรรมไม่เหมาะสม ก้าวร้าว ร้องครวญคราง กลัว ซึมเศร้า แยกตัว ถดถอยหรือปฏิเสธ
พฤติกรรมเหมาะสม พูดคุยน้อยลง ทำกิจกรรมน้อยลง กระสับกระส่าย บ่น พึ่งพาผู้อื่น
Transitional phse
วิตกกังวลสูงสุด เจ็บปวดและเครียดมากที่สุด ทุรนทุรายและเหนื่อยอ่อน
พฤติกรรมการแสดงออก แยกตัวเอง ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม อาจก้าวร้วไม่ให้ความร่วมมือ
พฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมตนเองได้ ไม่ตอบสนองใดๆเรียกร้องจะยุติการตั้งครรภ์ เอะอะโวยวาย
บทบาทพยาบาล
กิจกรรมการพยาบาล
Non-phamacological tech
ประคับประคองด้านจิตใจ ญาติ/สามีดูแล พยาบาลอยู่เป็นเพื่อน เข้าใจถึงความต้องการของผู้คลอด มนุษยสัมพันธ์ที่ดี
ให้ข้อมูล/ให้ความรู้ เกี่ยวกับการคลอด ผลPV อาการเจ็บรรภ์ ความก้าวหน้าของการคลอด
ลดสิ่งกระตุ้น/จัดสิ่งแวดล้อม ดูแลสขวิทยาส่วนบคคล เช็ดหน้า ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม ลดเสียงรบกวน
เบี่ยงเบนความสนใจ ปากมดลูดเปิด1-4cm แนะนำให้เดิน พูดคุย อ่านหนังสือ / 4-8cm แนะนำให้จิตใจจดจ่อ นับลมหายใจ / 8-10cm หายใจเข้าลึกๆ
เพ่งจุดสนใจ
Lamaze สิ่งของ
Bladley เสียง การสัมผัส
ฟังดนตรี Music therapy
การชวนคุย Support
การถู นวด ลูบ
ประเมินความต้องการของผู้คลอดก่อน เป็นการกระตุ้นเส้นเลือดใหญ่
ถูนวดกระเบนเหน็บ
ลูบที่หน้าท้อง
ประคบร้อน-เย็น
Hydrotherapy
Aquatic/Water exercise
Position change during labor
การเปลยนแปลงพลังงาน การสัมผัส กดจุด
Relaxation techniques การเกร็ง-คลายกล้ามเนื้อ การหายใจ
การสะกดจิต
การกระตุ้นปลายประสาทขนาดใหญ่ด้วยไฟฟ้าผ่านทางผิวหนัง TENS
การปฏิบัติเมื่อทารกมีภาวะเครียด
นอนตะแคงซ้าย
ให้ออกซิเจน 5L/min
ฟังFHSบ่อยๆ/on FHS monitoring
ให้ยาตามแผนการรักษา
ดูแลให้IV fluid
ดูแลใกล้ชิด
เตรียมช่วยแพทย์ในการคลอดทั้ง N/DและC/S
อาการแสดงว่าเข้าสู่ระยะที่2
เจ็บครรภ์นานขึ้น แรงขึ้น กระสับกระส่าย
Ut.contraction ถี่ขึ้น I=2-3นาที D=60วินาทีขึ้นไป
มีเลือดสดๆออกมามากขึ้น
MR
อยากเบ่ง/อยากถ่าย ลองเบ่งจะเห็น Gaping sign ฝีเย็บโป่งตึง หูรูดทวารหนักถ่างออก
มองเห็นส่วนนำ
อาการแสดงว่าใกล้สิ้นสุดระยะที่1ของการคลอด
1.Probable sign บ่งออก อยากเบ่ง อยากถ่ายอุจจาระและปัสสาวะขณะที่มดลูกหดรัดตัว มีเลือดสดออกทางช่องคลอดเล็กน้อย ถุงน้ำคร่ำแตก ฝีเย็บตุงและมองเห็นส่วนนำของทารกทางช่องคลอด
2.Positive sign แน่นอน จากการตรวจทางช่องคลอด คลำไม่พบขอบของปากมดลูกคือปากมดลูดเปิดหมด10cm
ประวัติทางสูติกรรม
นางสาววิภา ลุงตะ เลขที่114 รหัสนักศึกษา612401117