Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สตรีตั้งครรภ์ที่มีโรคติดเชื้อร่วมกับการตั้งครรภ์ 8.…
สตรีตั้งครรภ์ที่มีโรคติดเชื้อร่วมกับการตั้งครรภ์ 8. โรคอุบัติใหม่: โรคไวรัสโควิด 19 (COVID-19)
โรคโควิด 19 เป็นโรคอุบัติใหม่ เกิดจากเชื้อไวรัสตระกูล Corona ชื่อ SARS-CoV-2 การติดต่อส่วนใหญ่ผ่านทางสัมผัสละอองฝอย จากการไอ หรือจาม อาการของโรคจะคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไข้ (83%) ไอแห้ง (82%) หายใจติดขัด(31%) ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ(11%) ส่วนน้อยมีอาการเจ็บคอ(5%) น้ามูกไหล(4%) รายที่มีอาการรุนแรงจะเกิดปอด อักเสบ ระบบหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตได้
การวินิจฉัยโรค
อาการแสดง
ส่วนใหญ่มีอาการไข้ อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ ไอแห้งๆ หายใจติดขัด ส่วนน้อยคัดจมูก เจ็บคอ ไอเป็นเลือด ท้องเสีย
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ผลเลือดเม็ดเลือดขาวต่ำ โดยเฉพาะ lymphocyte ค่า C-reactive protein สูงขึ้น เกล็ดเลือดต่ำ ค่าเอนไซม์ตับและ creatinine phosphokinase สูงขึ้น
การตรวจยืนยัน
real-time polymerase chain reaction(RT-PCR) จากสิ่งคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย จมูก ลำคอ เสมหะ เป็นต้น กรณีผลตรวจไม่พบเชื้อ ให้ตรวจซ้ำอีก 1 ครั้ง อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ถ้าไม่พบ คือว่าไม่เป็นโรค
การดูแลสตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อโรคโควิด 19
สตรีตั้งครรภ์ที่ตรวจยืนยันโรคแล้ว
ให้ประเมินว่าเป็นกลุ่มที่อาการน้อย ได้แก่ สัญญาณชีพปกติหรือรุนแรง เช่น RR ≥30 ครั้ง/นาที O2sat < 93% ค่าความดันออกซิเจนในเลือดแดง (PaO2)/ความเข้มข้นของออกซิเจน (FiO2) <300 หรืออยู่ในภาวะช๊อค มีการหายใจล้มเหลวต้องใช้เครื่องช่วยหายใจหรือเครื่อง extra-corporal membrane oxygenation(ECMO)
บุคลากรที่ดูแลผู้ป่วย
ต้องใส่ชุดและอุปกรณ์ป้องกันเต็มที่ (personal Protection Equipment, PPE) ประกอบด้วย เสื้อกาวน์ หน้ากาก N95 แว่นตา และถุงมือ
ทีมสหสาขาในการดูแลผู้ป่วย
ประกอบด้วย สูติแพทย์ อายุรแพทย์ วิสัญญีแพทย์ กุมารแพทย์ทารกแรกเกิด พยาบาลชานาญการ
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ควรตรวจ CBC, ABS, LFT, BUN, Cr, cardiac enzyme
การรักษา
ประกอบด้วย การให้สารน้ำ แก้ไขภาวะขาดสมดุลเกลือแร่ ให้ออกซิเจน
การให้ยาต้านไวรัส ใช้ในรายที่มีอาการปานกลางหรือรุนแรง ให้ยาปฏิชีวนะ ถ้ามีการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำ
การดูแลที่คลินิกฝากครรภ์
การดูแลทารกหลังคลอด
ญาติหรือผู้ช่วยดูแลทารกที่แข็งแรงดี ต้องสวมชุดหรือเครื่องป้องกันก่อนสัมผัสทารก
การให้นมบุตร มารดาควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือก่อนและหลังจับตัวทารก ไม่ไอหรือจามขณะให้นมบุตร หรือสามารถบีบนมให้ทารกดื่มได้ แต่ต้องล้างมือก่อนและหลังใช้เครื่องปั๊มนม
ตรวจทารกแรกเกิดทุกรายว่าติดเชื้อหรือไม่ ทารกที่คลอดจากมารดาที่ติดเชื้อหรือสงสัยว่าจะติดเชื้อถือว่าเป็น PUI ด้วยเสมอ
กรณีมารดาไม่ต้องการให้แยกห้อง สามารถใช้ม่านกั้นได้ แต่มารดาควรอยู่ห่างจากทารกมากกว่า 6 ฟุต
ให้แยกทารกเข้าห้องความดันลบ (ถ้ามี) อย่างน้อย 14 วัน
กรณีที่มีอาการปานกลางหรือรุนแรง
การดูแลขณะเจ็บครรภ์คลอด
ดูแลทารกแรกเกิดเหมือนภาวะปกติ
ทำ delay cord clamping ได้ ถ้าไม่มีข้อห้าม
ทำสูติศาสตร์หัตถการเพื่อช่วยลดระยะที่ 2 ของการคลอดได้
กรณีอาการผู้ป่วยแย่ลง พิจารณาผ่าตัดคลอดเพื่อให้การช่วยกู้ชีพมารดามีประสิทธิภาพมากขึ้น
วิธีการคลอดให้เป็นไปตามมาตรฐาน ผ่าตัดคลอดตามข้อบ่งชี้ ไม่มีข้อห้ามทา epidural block
เฝ้าระวังอาการและอาการแสดงของภาวะ sepsis ระวังภาวะน้ำเกิน
ติดเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ (cardiotocography, CTG)
ตรวจติดตามวัดไข้ อัตราการหายใจและความเข้มขนออกซิเจนในเลือด ควรให้มีค่ามากกว่าร้อยละ 9
แจ้งกุมารแพทย์ทราบเคส
จำกัดจานวนบุคลากรที่ดูแลผู้ป่วยและเครื่องมือต่างๆ ให้น้อยที่สุดเท่าที่จาเป็น
บุคลากรที่จะดูแลผู้ป่วยต้องใส่ชุดป้องกันเต็มที่ และไปรับผู้ป่วยก่อนจะเข้ามาในเขตโรงพยาบาล ให้ผู้ป่วยสวมหน้ากากอนามัยจนกว่าจะเอาเข้าห้องแยกความดันลบ
แนะนำให้สตรีตั้งครรภ์เดินทางมาด้วยยานพาหนะส่วนตัวหรือรถพยาบาลโดยแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าอยู่ในระยะกักตัวของโรค และแจ้งจากเจ้าหน้าที่ห้องคลอดก่อนจะถึงโรงพยาบาล
กรณีถ้าไม่เจ็บครรภ์
ให้ยากลุ่ม corticosteroids เพื่อกระตุ้นการเจริญของปอดได้ ถ้าไม่มีข้อห้าม
ยุติการตั้งครรภ์ตามข้อบ่งชี้ด้านสูติศาสตร์หรือกรณีที่จะเป็นประโยชน์
ต่อการกู้ชีพมารดา
ตรวจติดตามการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์เป็นระยะๆ ตามความจำเป็น
การตรวจเอกซเรย์ปอดและ/หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ช่องอก สามารถทำได้
โดยใช้ shield ป้องกันทารกในครรภ์
ให้ความสำคัญกับสุขภาพของมารดาเป็นหลัก
นางสาว จิราภรณ์ สนธิสัมพันธ์ เลขที่ 7
รหัสนักศึกษา 603901008