Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การดูแลสตรีตั้งครรภ์ที่มีโรคร่วมกับการตั้งครรภ์ (โรคเลือด (anemia,…
การดูแลสตรีตั้งครรภ์ที่มีโรคร่วมกับการตั้งครรภ์
โรคเลือด (anemia, thalassemia, Rh incompatible)
ภาวะโลหิตจาง
การวินิจฉัยภาวะโลหิตจาง
การตรวจร่างกาย
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
เม็ดเลือดขาว ภาวะ leukemia
เกร็ดเลือด
เม็ดเลือดแดง ภาวะhypochromic
Red blood cell index ค่า MCV ต่ ากว่า 80 fl
Reticulocyte count
การซักประวัติ เช่น อาการหน้ามืด เวียนศีรษะ เป็นลม เหนื่อยง่าย หรือประวัติภาวะโลหิตจางใน ครอบครัว
สาเหตุและแนวทางการดูแลรักษา
Iron-deficiency anemia
ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก
การจัดยาเสริมธาตุเหล็กเสริม Triferdine หรือ Obimin AZ 1 tab oral
ไตรมาส 2 ยาเม็ดเสริมธาตุเหล็ก ควรรับประทานเมื่อท้องว่าง/พร้อมอาหารที่วิตามีนซีสูง
ภาวะซีด Hct < 33 % ให้ยาเสริมธาตุเหล็ก FeSo4 1X3 oral pc และนัดติดตามระดับ Hct แต่ถ้ามีอาการคลื่น ไส้อาเจียน ท้องเดิน
Megaloblastic anemia
ภาวะซีดเนื่องจากการขาดกรดโฟลิกหรือวิตามิน B12
Folic acid 1X1 oral pc ช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันความพิการแต่ก าเนิด โดยเฉพาะภาวะหลอดประสาทไขสันหลังพิการ (neural tube defect) ให้ตั้งแต่ ช่วง 4-6 สัปดาห์ก่อนตั้งครรภ์จนถึงอายุครรภ์ 12 สัปดาห์
Thalassemia
Hb bart’s hydrop fetalis หรือ Homozygous α thalassemia 1
ทารกมีอาการตั้งแต่อยู่ในครรภ์ คือ มีภาวะบวมน้ า ซีดรุนแรง เสียชีวิตในครรภ์หรือเสียชีวิตหลัง คลอดทันที
แม่ระหว่างตั้งครรภ์มีภาวะแทรกซ้อนได้แก่ ครรภ์เป็นพิษ ความดันเลือดสูง บวม การคลอดผิดปกติ และมีการตกเลือดหลังคลอด
Homozygous β-thalassemia (β thalassemia major)
ทารกเริ่มมีอาการซีดตั้งแต่ขวบปีแรก มักมีอายุสั้นไม่เกิน 10 ปี
ตับ ม้ามโต ใบหน้าแบบ thalassemic face ร่างกายแคระแกร็น การเจริญเติบโตไม่สมอายุ จ าเป็นต้องให้ เลือด
Hb H disease (α-thal1/α-thal2 หรือ - - / -α, or α-thal1/ Hb CS
ซีด เหลือง ตับม้ามโตไม่มาก แต่ถ้ามีไข้สูงจะมีภาวะซีดลงอย่างรวดเร็ว
หลักการถ่ายทอดทางพันธุกรรม
พาหะ β-thal + พาหะ HbE = β-thasassemia / HbE disease
พาหะ α-thal 1 + พาหะ α-thal 1 = Hb Bart’s hydrops fetalis
พาหะ β-thal + พาหะ β-thal = homozygous β -thasassemia
การตรวจคัดกรอง
การตรวจค่าดัชนีเม็ดเลือดแดง (red blood cell indices) ประกอบด้วย (MCV) และ (MCH)
การตรวจดูความเปราะของเม็ดเลือดแดง (osmotic fragility test; OF) เพื่อคัดกรอง αthalassemia 1 และ β-thalassemia
การตรวจ DCIP (dichlorophenol-indophenol precipitation test) เป็นการตรวจคัดกรอง ฮีโมโกลบิน อี (Hb E)
การตรวจวินิจฉัยโรคธาลัสซีเมียก่อนคลอด
Amniocentesis GA 16-18 wks
Cordocentesis 18-22 wks
การท า CVS GA 9-12 wks
serial U/S ด ูsign ของ hydrops (ติดตามทุก 2-4 wks ตั้งแต่ GA 20 wks)
แนวทางการดูแล
เลี่ยงการให้ธาตุเหล็ก ยกเว้นรายที่มีการขาดธาตุเหล็ก ให้ทาน folic acid (5mg) วันละ 1 เม็ด
ตรวจติดตามสุขภาพทารกในครรภ์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
ติดตามดูภาวะซีดทุกครั้งที่มาฝากครรภ์ กรณีมีภาวะซีด ให้ PRC เพื่อรักษาระดับ Hb > 7-8 gm%
ติดตามการเจริญเติบโตของทารก ระวังภาวะโตช้าในครรภ์
ภาวะ Hemolytic disease of newborn
ภาวะ Rh incompatibility
ภาวะที่เลือดแม่สร้าง antibody ผ่านรกไปยังทารกและเกิดการท าลายเม็ดเลือดแดงของทารก
้ตับโต ม้ามโต Albumin ต่ า และเกิดเป็นทารกบวมน้ า (hydrop fetalis) ascites มีน้ าในช้องปอดและ เยื่อหุ้มปอด และมักตายในที่สุด
ภาวะ ABO incompatibility
เกิดจาก IgG anti-A หรือ anti-B antibody ผ่านรกและไปท าลายเม็ดเลือดแดง
แนวทางการป้องกัน/ดูแลรักษา
ให้ขนาดเดียวกับข้อ 1 ทุกครั้งที่มีการเจาะน้ าคร่ า หรือเลือดออกจากโพรงมดลูก ยกเว้นเพิ่งได้รับมา ในช่วง อายุครรภ์ 28-32 สัปดาห์
รณีทารกมีภาวะตัวเหลืองจากเม็ดเลือดแตก พิจารณา phototherapy หรือถ่ายเลือด
ให้ Anti-D แก่มารดา Rh-negative ขนาด 30 ไมโครกรัมทุกรายขณะอายุครรภ์ 28-32 สัปดาห์ และภายใน 72 ชั่วโมงหลังคลอดทารก Rh-positive
ความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ (โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ: urinary tract infection)
ชนิดที่พบบ่อย
การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ (cystitis)
พบ WBC, bact, RBC จำนวนมาก
กรวยไตอักเสบ (pyelonephritis)
หลังส่วนล่าง เคาะเจ็บ บริเวณชายโครงและกระดูกสันหลัง เชื้อที่พบบ่อย E.coli
การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะโดยไม่มีอาการ (asymptomatic bacteriuria : ABU)
Escherichia coli (E.coli)
อาการและอาการแสดง
ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวด เมื่อยกล้ามเนื้อ
ปวดบั้นเอวข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง ปวดตื้อๆ เมื่อเคาะต าแหน่ง Costovertebral angle จะเจ็บมาก
ไข้สูง หนาวสั่น T 34-40 ˚C
ปัสสาวะแสบขัด กระปริประปรอย ปัสสาวะขุ่น
การติดเชื้อไปที่ถุงลมปอด หายใจไม่สะดวก น้ าท่วมปอด หายใจล าบาก
การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์
ไม่กลั้นปัสสาวะ เพื่อระบายเชื้อโรคจากร่างกาย
สังเกตอาการผิดปกติเช่น ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะล าบาก มีไข้ ปวดเหนือเหน่าหรือหลัง เด็กดิ้นน้อย มดลูกหดรัดตัวมากกว่าปกติ หรือเจ็บครรภ์ ถ้ามีอาการเหล่านี้ให้พบแพทย์
ดื่มน้ำเพียงพอไม่น้อยกว่า 8-10 แก้ว/วัน หรือ 2,000-3,000 ml
รักษาความสะอาดร่างกาย โดยเฉพาะหลังการขับถ่าย ป้องกันการติดเชื้อซ้ำ
อาหารตามปกติ เพิ่มโปรตีน เกลือแร่ โดยเฉพาะวิตามินซีและธาตุเหล็ก
แนะนำสังเกตนับลูกดิ้น ประเมินสภาวะทารกในครรภ์
ประเมินสัญญาณชีพ มีไข้ เช็ดตัวลดไข้/ แนะนำให้รับยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
โรคคอพอกเป็นพิษในหญิงตั้งครรภ์
การเปลี่ยนแปลงการทำงานของต่อมไทรอยด์
ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมน hCG จากรกที่เพิ่มขึ้น การต่อมไทรอยด์มี การทำงานเพิ่มขึ้น
ไตทำงานมากขึ้นมีอัตราการกรองของไตสูงขึ้น
ระดับ T4 สูงขึ้นอย่างรวดเร็วในระหว่างอายุครรภ์ 4-9 สัปดาห์
ระดับ T3 จะสูงขึ้นตั้งแต่ อายุครรภ์ 18 สัปดาห์
การวินิจฉัย
อาการและอาการแสดง
หัวใจเต้นเร็วโดยไม่รู้สาเหตุ ชีพจรสูงขณะนอนหลับ > 100 ครั้ง/นาที
อาการแพ้ท้องมาก (hyperemesis gravidarum)
ต่อมไทรอยด์โต
Eating disorder รับประทานอาหารดี แต่น้ าหนักตัวไม่ขึ้น
เหนื่อย ใจสั่น อ่อนเพลีย มือสั่น ตื่นตัวตลอดเวลา ขี้ร้อน เหงื่อออกฝ่ามือ ถ่ายเหลว
ตาโปน exophthalmos
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
T3 สูง
T4 ± อาจไม่สูงในหญิงตั้งครรภ์บางราย
TSH ต่ำ
การรักษา
ให้ propranolol (ꞵ-adrenergic blocker) ลดอาการสั่น ลดหัวใจเต้นเร็ว ระวังการเกิด IUGR ในทารก
ยาต้านไทรอยด์ กลุ่ม thionamides เช่น propylthyouracil; PTU ในขนาดต่ำๆ เพื่อยับยั้งการ สร้างฮอร์โมนไทรอยด์
ให้นมได้
โรคหอบหืด
ผลของโรคหืดต่อการตั้งครรภ
preterm labor DFIU Abortion เสี่ยงต่อภาวะขาดออกซิเจน IUGR Anomaly LBW
เสี่ยงภาวะแทรกซ้อนจากหอบหืด หยุดหายใจ เสียชีวิตได้
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
แนะนำอาหารโปรตีนสูง เลี่ยงอาหารเสริม/สังเคราะห์
ระวังสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ การอยู่ใกล้ชิด/สัมผัสบุคคลที่มีอาการโรคระบบทางเดินหายใจ
แนะนำพบแพทย์เพื่อพิจารณายารักษาที่เหมาะสมขณะตั้งครรภ์ ว่ ยากลุ่ม bronchodilator ได้แก่ terbutaline, albuterol การใช้ยา steroid และเป็นช่วงสั้นๆ
พักผ่อนให้เพียงพอ สามารถออกก าลังกาย เช่นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อได้
อาการผิดปกติที่ควรพบแพทย์ก่อนนัด ได้แก่ มีเลือด/น้ าคร่ าทางช่องคลอด มดลูกหดรัดตัว แรง/ถี่ ทารกดิ้นน้อย มีอาการปวดศีรษะตาพร่า ขา-เท้าบวม
ประเมินภาวะสุขภาพทารกในครรภ์ ขนาดของมดลูกสัมพันธ์กับอายุครรภ์ FHR UC NST
มีอาการหอบหืด
การหายใจเข้าช้าๆ ให้เต็มปอด หายใจออกโดยการเป่าลมออกทางปากช้าๆ
ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง /ดูดเสมหะอย่างมีประสิทธิภาพ
จัดนอนศีรษะสูง หรือฟุบบนโต๊ะ
ให้ O2 cannula 3-5 ลิตร/นาที , ยาขยายหลอดลม
สังเกตลักษณะ cyanosis เหงื่อออก การไอ ลักษณะเสมหะ ฟังเสียงปอด วัดสัญญาณชีพ
ประเมิน UC, FHR, การดิ้นของทารก
ระยะเจ็บครรภ์คลอดและระหว่างการคลอด
จัดนอนศีรษะสูง
ประเมินความก้าวหน้าการคลอด FHR V/S
Pain management ระหว่างการเจ็บครรภ์
ยา corticosteroid ทางหลอดเลือดด าในระหว่างการเจ็บครรภ์คลอด และให้ต่อ จน 24 ชั่วโมงหลังคลอด เพื่อป้องกันภาวะวิกฤตของต่อมหมวกไต
ระวังการให้ยา prostaglandin E1 (cytotec) หรือ E2 ในการชักน าให้เกิดการคลอด
ระยะหลังคลอด
ระวังภาวะตกเลือดหลังคลอด
ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เนื่องจากนมแม่ มี IgA สูง ช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ ในทารกที่เกิดจากแม่เป็นโรคหอบหืดได
ให้รับยารักษาโรคหอบหืดอย่างต่อเนื่อง ระวังและป้องกันการกำเริบของโรค เลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ ทำให้เกิดอาการหอบหืด