Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สตรีตั้งครรภ์ที่มีโรคติดเชื้อร่วมกับการตั้งครรภ์ (โรคหัดเยอรมัน…
สตรีตั้งครรภ์ที่มีโรคติดเชื้อร่วมกับการตั้งครรภ์
โรคไวรัสตับอักเสบ บี
อาการและอาการแสดง
การติดเชื้อในระยะเฉียบพลันมักไม่ค่อยมีอาการและยังไม่มีอาการตัวเหลือง แต่อาจมีไข้ คลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดบริเวณช่องท้องส่วนบน และมีภาวะตัวเหลืองภายใน 1 2 สัปดาห์ ร้อยละ 90 ของผู้ที่ติดเชื้อสามารถหายเองได้ ร้อยละ 10 จะมีการติดเชื้อเรื้อรังและเป็นพาหะของโรค บางรายอาจกลายเป็นตับแข็งหรือมะเร็งตับได้
ผลต่อการตั้งครรภ์
เบาหวานขณะตั้งครรภ์
ความดันโลหิตสูง
ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด
ผลต่อทารก
ร้อยละ 90 จะกลายเป็นผู้ป่วยตับอักเสบบีเรื้อรังในเวลาต่อมา ในทารกแรกคลอดที่ไม่ได้วัคซีน HBIG และ HBV ครบชุด จะมีโอกาสติดเชื้อได้ร้อยละ 20
ถ้าได้รับ HBIG และ HBV ครบชุด จะป้องกันการติดเชื้อได้ร้อยละ 90
ในรายที่ยังพบการติดเชื้ออยู่ พบว่า มักเกิดในรายที่มารดาตรวจพบ HBeAg positive
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
ตรวจคัดกรองพาหะโรคทุกคนที่มาฝากครรภ์
แนะนำเลี่ยงการใช้ของที่อาจปนเปื้อนเลือด เช่น แปรงสีฟัน กรรไกรตัดเล็บร่วมกับผู้อื่น ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ และควรให้สามีมาตรวจเลือดด้วย
ระยะคลอด
หลีกเลี่ยงการเจาะถุงน้ำและการตรวจทางช่องคลอด
ภายหลังทารกคลอด รีบดูดสารคัดหลั่งออกจากปากและจมูกทารกให้มากที่สุด เช็ดตา และดูแลทาความสะอาดร่างกายทารกทันที ระวังการเกิดรอยถลอกที่ผิวทารก
ดูแลให้ทารกได้รับ HBIG ตั้งแต่แรกเกิด
ระยะหลังคลอด
มารดาสามารถเลี้ยงบุตรด้วยนมแม่ได้ ยกเว้นรายที่หัวนมแตก หรือเป็นแผล
เน้นย้ำเรื่องการมาตรวจตามนัด และนำทารกรับวัคซีนตามนัด
แนะนำมารดารักษาความสะอาด ระวังการปนเปื้อนของเลือด น้ำคาวปลา ล้างมือก่อน หลังดูแลทารก
โรคหัดเยอรมัน
อาการและอาการแสดง
ระยะฟักตัว 12 23 วัน โดยแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น ในช่วง 7 วันก่อนมีผื่น จนถึงวันที่ 5 7 หลังจากมีผื่นขึ้น ไข้ต่าๆ เจ็บคอ มีน้ามูก ตาแดง ปวดศีรษะหรือปวดเมื่อยตามตัว ต่อมน้ำเหลืองโต กดเจ็บ อาการเหล่านี้จะเป็นอยู่ 1 5 วัน ก่อนมีผื่นแดงขนาดเล็กตามตัวโดยเริ่มจากหน้าและกระจายไปที่ลาตัว แขนขา ผื่นจะหายเองใน 3 วัน จากนั้นอาจมีอาการแทรกซ้อนอื่น เช่น ปวดข้อ ข้ออักเสบ 1 4 สัปดาห์ อาจมีอาการอื่น เช่น เยื่อหุ้มข้ออักเสบ ตับอักเสบ ภาวะซีดจากการแตกของเม็ดเลือดแดง
กลุ่มอาการที่ผิดปกติแต่กำเนิดจากหัดเยอรมัน
โรคหัวใจ เช่น patent ductus arteriosus (PDA), septal defect, pulmonary stenosis
Sensorineural deafness (หูหนวก)
อาการทางตา เช่น ต้อหิน ต้อกระจก กระบอกตาเล็ก
ความผิดปกติของระบบประสาท
การเติบโตของทารกถูกจำกัด
ภาวะเกร็ดเลือดต่ำและซีด
เหลือง ตับอักเสบ ตับและม้ามโต
chronic diffuse interstitial pneumonitis
การเปลี่ยนแปลงของกระดูก
ความผิดปกติของโครโมโซม
การป้องกัน
สตรีที่วางแผนจะแต่งงานควรได้รับวัคซีนป้องกันหัดเยอรมันก่อนการตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน เนื่องจากวัคซีนเป็นไวรัสเชื้อเป็นที่ทำให้เชื้ออ่อนฤทธิ์ลง ในคนที่ไม่เคยติดเชื้อแต่มีโอกาสติดเชื้อ ควรได้รับวัคซีนทันทีหลังคลอด
การพยาบาล
อธิบายให้สตรีตั้งครรภ์และครอบครัวทราบเกี่ยวกับการป้องกัน การตรวจวินิจฉัย และการปฏิบัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับเชื้อ แนะนำมาฝากครรภ์ตามนัดเพื่อติดตามประเมินภาวะสุขภาพของทารกในครรภ์และเฝ้าระวังการติดเชื้อ
2.อธิบายให้มารดาที่สัมผัสเชื้อ
ช่วงอายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ หากตรวจเลือดพบมีภูมิคุ้มกันแล้ว มีโอกาสเกิดความผิดปกติกับทารกในครรภ์น้อยมาก ให้ฝากครรภ์ต่อตามนัด และติดตามภาวะสุขภาพทารกในครรภ์
ถ้าเป็นช่วงอายุครรภ์ < 16 สัปดาห์ และไม่มีภูมิคุ้มกันหรือไม่แน่ใจ ให้ตรวจเลือดดูการติดเชื้อ ถ้าพบการติดเชื้อ ทารกเสี่ยงมีความผิดปกติสูง โดยเฉพาะช่วงอายุครรภ์ 3 -10 สัปดาห์ พิจารณาให้คาปรึกษาเกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น แพทย์จะพิจารณาทาแท้งเพื่อการรักษา
หากเป็นช่วงอายุครรภ์ 16-20 สัปดาห์ มีโอกาสทารกผิดปกติร้อยละ 1 แต่อาจเกิดความผิดปกติของการได้ยิน ให้ติดตามตรวจหลังคลอดต่อ
หากเป็นช่วงอายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์ อธิบายให้มารดาทราบว่าไม่มีรายงานความผิดปกติต่อทารก
การดูแลรักษา
ให้การรักษาตามอาการ และระวังการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นในระยะ 7 วันหลังมีผื่น ทารกที่เกิดและมีความพิการแต่กำเนิดจากหัดเยอรมันอาจมีเชื้อไวรัสคงอยู่นานหลายเดือน ดังนั้น ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยเหล่านี้มีโอกาสติดเชื้อได้สูง
โรคสุกใส, งูสวัด (Varicella-Zoster)
เป็น DNA ไวรัส หลังจากการติดเชื้อครั้งแรกจะยังคงแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาท ซึ่งอาจถูกกระตุ้นในหลายปีต่อมาทำให้เกิดงูสวัดขึ้นมาได้ การติดเชื้องูสวัดในหญิงตั้งครรภ์มักพบในรายที่อายุมากหรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ผลต่อการตั้งครรภ์
หากเป็นอีสุกสีใสระหว่างตั้งครรภ์ระยะแรก จะทำให้เกิดความพิการแต่กำเนิดของทารกได้ เช่น chorioretinitis, cerebral cortical atrophy, hydronephosis และการผิดรูปของกระดูกและผิวหนัง การติดเชื้อในครึ่งแรกของการตั้งครรภ์พบว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติของทารกประมาณร้อยละ 2 โดยเฉพาะช่วงอายุครรภ์ 13 20 สัปดาห์ จะมีความเสี่ยงสูงสุด หลังอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ ไม่พบว่ามีการติดเชื้อแต่กาเนิด
ทารกที่ได้รับเชื้อช่วงก่อนหรือระหว่างคลอด อาจทาให้มีการติดเชื้อรุนแรงทั่วร่างกาย และทำให้ทารกเสียชีวิตได้ ดังนั้น ควรให้ VZIG แก่ทารกแรกคลอดที่มารดามีอาการทางคลินิกของโรคภายใน 5 วันก่อนคลอด หรือ 2 วันหลังคลอด แต่ก็อาจพบทารกมีการติดเชื้ออีสุกอีใสที่รุนแรงได้ ร้อยละ 15
การป้องกัน
ให้ varicella-zoster immunoglobulin (VZIG) เพื่อป้องกันการติดเชื้อไข้อีสุกอีใส หลังจากได้รับเชื้อภายใน 96 ชั่วโมง แต่ไม่แนะนำให้ฉีดในหญิงขณะตั้งครรภ์
การพยาบาล
ติดตามภาวะสุขภาพทารกในครรภ์
วางแผนการคลอด
ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
นางสาว จิราภรณ์ สนธิสัมพันธ์ เลขที่ 7
รหัสนักศึกษา 603901008