Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การดูแลสตรีตั้งครรภ์ที่มีโรคทางอายุรกรรม ร่วมกับการตั้งครรภ์…
การดูแลสตรีตั้งครรภ์ที่มีโรคทางอายุรกรรม
ร่วมกับการตั้งครรภ์
โรคติดเชื้อทางเดินปสัสาวะ
urinary tract infection
1.estrogen > ระบบทางเดินปัสสาวะbladder กรวยไต ท่อไตขยายขึ้นมาก
2.มดลูก กดเบียดทางเดินปัสสาวะปัสสาวะคั่ง > ติดเชื้อ ง่ายอาจลุกลามไปไต กรวยไต เกิดpyelonephritis
-ญ. เป็นมากกว่าช. เพราะท่อปัสสาวะสั้น+อยู่ใกล้ทวารกว่า
สาเหตุ
1.อั้นปัสสาวะ
2.ท้อง
3.มีเพศสัมพันธ์
4.ส่วนมากติดเชื้อจากทางช่องคลอด
อาการ
1.ไข้สูง หนาวสั่น T 34-40 ˚C ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
3.ปัสสาวะแสบขัด กระปริดกระปรอย ปัสสาวะขุ่น >> หนอง
4.บางรายติดเชื้อในกระแสเลือด ไปที่ถุงลมปอด หายใจไม่สะดวก น้ำท่วมปอด หายใจลำบาก เม็ดเลือดแดงแตก
2.ปวดท้อง ปวดบั้นเอว/ทั้ง 2 ข้าง ปวดตื้อๆ เคาะ CVA เจ็บมาก ตึง บวม
5.ปัสสาวะมากกว่าปกติ เกินวันละ 5 ครั้ง
ผลของโรคต่อการตั้งครรภ์
ต่อมารดา
-ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
-ภาวะโลหิตจางเพิ่มสูงกว่าปกติ
ต่อทารก
-IUGR
-Preterm labor
-Perinatal deat
การรักษา
1.ให้ยาลดไข้ ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ในรายที่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนทานอาหารไม่ได้
2.ให้ยาปฏิชีวนะ ciprofloxacin,
ofloxacin, cotrimoxazole
หลักการพยาบาลสตรีตั้งครรภ์
ที่มีการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
ทานอาหารตามปกติ เพิ่มโปรตีน
เกลือแร่ โดยเฉพาะวิตามินซี และธาตุเหล็ก
ดื่มน้ำ > 8-10 แก้ว/วัน หรือ 2,000-3,000 ml.
ไม่กลั้นปัสสาวะ เพื่อระบายเชื้อโรคจากร่างกาย
สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ปัสสาวะแสบขัด
ปัสสาวะลำบาก มีไข้ ปวดเหนือหัวเหน่า
หรือหลัง เด็กดิ้นน้อย UC/LP พบแพทย์
รักษาความสะอาดร่างกาย โดยเฉพาะหลัง
การขับถ่าย ป้องกันการติดเชื้อซ้ำ
แนะนำสังเกตนับลูกดิ้น ประเมินทารกในครรภ์
มีไข้ เช็ดตัวลดไข้
กรวยไตอกัเสบเฉยีบพลนั ทุกราย
Admitted ให้ ABO IV
โรคคอพอกเป็นพิษ
ในหญิงตั้งครรภ์
1.Estrogen + hCG > กระตุ้นต่อมไทรอยด์ทำงานเพิ่มขึ้น
2.ปริมาณเลือดเพิ่มขึ้น >ไตทำงานมากขึ้น> อัตราการกรอง
ขอไตสูงขึ้น > ขับไอโอดีนเพิ่มขึ้น > ขาดไอโอดีน >
ไทรอยด์โต
การวินิจฉัยอาการและ
อาการแสดงที่สำคัญ
• ต่อมไทรอยด์โต
• HR > 100 ครั้ง/นาที
• Eating disorder น้ำหนักตัวไม่ขึ้น
• hyperemesis gravidarum
• เหนื่อย ใจสั่น อ่อนเพลีย มือสั่น
ตื่นตัวตลอดเวลา ขี้ร้อน เหงื่อออกฝ่ามือ
ถ่ายเหลว
• ตาโปน exophthalmos
การตรวจทาง
ห้องปฏบัติการ
• TSH ต่่ำ
• T3 สูง
• T4 บางรา อาจไม่สูง
ผลต่อการตั้งครรภ์
ยาเป็น teratogen GA 3
เดือนแรกอาจพิการ GA มากขึ้นอาจเกิด
Hypothyroidism /ต่อมไทรอยด์โตใน
เด็ก
เป็นโรคไทรอยด์แต่ก าเนิด
: neonatal hyperthyroidism
ความดันโลหิตสูงระหว่างการ
ตั้งครรภ์ หัวใจล้มเหลว
IUGR, LBW,
fetal distress, DFIU
การรักษา
PTU ขนาดต่าๆยับยั้งการสร้าง
ฮอร์โมนไทรอยด์ให้นมแม่ได้
เนื่องจากผ่านทางน้ำนมได้น้อย
ให้ propranolol (ꞵadrenergic blocker)
ลด อาการสั่น ลดหัวใจเต้นเร็ว
แต่ ระวังการเกิด IUGR ในทารก
การพยาบาล
ให้ข้อมูลโรคการรักษาอาการ
และอาการแสดงการดูแลตนเอง
2.ให้คำแนะนำเพื่อป้องกันอันตรายและภาวะแทรกซ้อน
-นอนพักผ่อน ลดการใช้พลังงานและการเผาผลาญอาหาร
-ทานอาหารโปรตีนสูง คาร์โบไฮเดรต
และวิตามินสูง ให้พลังงาน เพียงพอ
-ทานยา สังเกตอาการข้างเคียงของยา เช่น
ผื่นคัน ปวดข้อ ไข้
-ระวังการเกิดอุบัติเหตุจากกล้ามเนื้ออ่อนแรง มือสั่น
-นับลูกดิ้น และมาตรวจครรภ์ตามนัด
ประเมินทารกในครรภ์ FHR
การเจริญของทารกตามไตรมาส
โรคหอบหืด
เอสโตรเจนเพิ่มขึ้น=เส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกคั่ง แน่นจมูก
-มดลูกโตขึ้นดันกระบังลม =ปริมาตรความจปุอดลดลง + การแลกเปลี่ยนก๊าซลดลง +กระตุุ้นให้เกิดอาการหอบหืด
อาการ
หายใจลำบากมีเสียง wheezing
ไอเรื้อรัง หลอดลมหดเกร็งเยื่อบุทางเดินหาย
ใจบวม มีเสมหะขังอยู่เสมหะอุดกั้นทาง
เดินหายใจบางส่วน/ทั้งหมด
หายใจลำบากใช้แรง /ใช้กล้ามเนื้อช่วย
ในการหายใจ
หายใจเร็วชีพจรเร็วเหงื่อออกมากอ่อนเพลีย
ไม่สามารถคุยหรือทานอาหารได้
ควบคุมอาการได ้มีอาการนานๆครั้ง 1-2 ครั้ง/เดือน
ไม่เคยใช้ยาช่วยบรรเทาอาการหอบหืด
หรือใช้น้อยกว่า 2 ครั้ง/สัปดาห์ทำกิจวัตรต่างๆ
ไม่หอบเหนื่อยสภาพปอดปกติ
ควบคุมได้บ้าง มีอาการหอบหืดเรื้อรัง ทำกิจวัตรได้
แต่หอบเหนื่อย มีหอบเฉียบ พลับบ้าง
มีการใช้ยาช่วยบรรเทาอาการ > 2 ครั้ง/สัปดาห์
คุมอาการไม่ได้มีอาการหอบเฉียบพลัน
เกือบทุกสัปดาห์ โดยเฉพาะช่วง GA 2936 wk
อาจเกิดอาการหอบหืดเฉียบพลันได้บ่อยขึ้น
ผลของการตั้งครรภ์ต่อโรคหืด
-ร้อยละ 33-50 อาการคงที่ควบคุมโรคได้
-ร้อยละ 28-30 อาการดีขึ้น
-ร้อยละ 20-35 มีอาการรุนแรง ช่วง GA 29-36 wk
ผลของโรคหอบหืด
ต่อการตั้งครรภ์
-มารดาเสี่ยง หยุดหายใจ เสียชีวิตได้
-ทารก preterm labor DFIU Abortion เสี่ยงต่อภาวะขาดออกซิเจน IUGR Anomaly LBW
-ถ้าควบคุมอาการได้ จะไม่มีผลต่อการตั้งครรภ์
ปัจจัยเสี่ยง/ปัจจัยกระตุ้น
โรคประจำตัว โรคจมูกอักเสบ ไซนัสอักเสบ หอบหืด ภูมิแพ้
2.ประวัติการหอบเฉียบพลันในแต่ละครั้ง ความถี่ห่างของการเกิดอาการ
3.ประวัติญาติสายตรงเป็นหอบหืด
โรคอ้วน หรือน้ำหนักเกินเกณฑ์
รับสารก่อภูมิแพ้
ยาทำให้หลอดลมหดเกร็ง
อารมณ์ปรวนแปร เครียด กังวล ภาวะกรดไหลย้อน
โรคหอบหืด
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
ซักประวัติโรคหอบหืด อาการ สารก่อภูมิแพ้ การรักษ และยาที่ได้รับ
พบแพทย์ให้ยากลุ่ม bronchodilator ยา steroid ใช้ช่วงสั้นๆ ไม่ค่อย มีผลต่อทารก แต่ถ้าใช้ระยะยาวต้องเฝ้าระวังอาการผิดปกติในทารกด้วย
ระวังสารก่อภูมิแพ้/กระตุ้น ใกล้ชิด/สัมผัสบุคคลที่มีอาการ URI
แนะพักผ่อนเพียงพอ ออกกำลังกายเบา ๆ ได้
อาการผิดปกติที่ควรพบแพทย์ก่อนนัด ได้แก่ มีเลือด/น้ำคร่ำทางช่องคลอด มดลูกหดรัดตัวแรง/ถี่ ทารกดิ้นน้อย มีอาการปวดศีรษะตาพร่า ขา-เท้าบวม
ติดตามประเมนิภาวะสุขภาพทารกในครรภ์
กรณีมีอาการหอบหืด
• จัดนอนศีรษะสูง /ฟุบบนตะคร่อมเตียง
• ให้ O2 cannula 3-5 ลิตร/นาที
• ให้ยาขยายหลอดลม และยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
• สอนหายใจเข้าช้าๆ ให้เต็มปอด หายใจออก
โดยการเป่าลมออกทางปากช้าๆ
• สอนการไออย่างมีประสิทธิภาพ
• จิบน้ำหรือให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
อย่างเพียงพอเพื่อให้เสมหะอ่อนตัว
• ประเมินการหายใจ ชีพจร cyanosis เหงื่อออก
การไอ ลักษณะเสมหะ ฟัง เสียงปอด วัดสัญญาณชีพ
• ประเมิน UC, FHR, การดิ้นของทารก
• จัดสิ่งแวดล้อมให้สงบไม่ออกแรง/เหนื่อยเกินไป
ระหว่างจับหืดลดสิ่งกระตุ้น
ระยะเจ็บครรภ์คลอดและ
ระหว่างการคลอด
จัดนอนศีรษะสูงเพื่อ
ให้หายใจสะดวก
ประเมินความก้าวหน้าการ
คลอด FHR V/S
Pain management
ให้ยา corticosteroid
ระหว่างการเจ็บครรภ์คลอด
และให้ต่อจน 24 ชม. หลังคลอด
เพื่อป้องกันภาวะวกิฤตของต่อม
หมวกไต
ระวังการให้ยา cytotec ทำให้เกิด
หลอดลมหดรัดตัว (bronchospasm)
เตรียมอุปกรณ์ + ยาพร้อมช่วยผู้คลอด
และทารกในกรณีฉุกเฉิน
การพยาบาล
การพยาบาลระยะหลังคลอด
ให้ยารักษาโรคหอบหืดอย่างต่อเนื่อง
เลี่ยงสิ่งกระตุ้น
ระวังภาวะตกเลือดหลังคลอด
ส่งเสริมการเลี้ยงลูกดว้ยนมแม่
เนื่องจากนมแม่ มี IgA สูง ช่วยลดโอกาส
เสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ในทารก