Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การใช้กระบวนการพยาบาลในการช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาทางจิตสังคม…

- - - - การประเมินความไม่เป็นมิตร
        
        ด้านการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย เช่น ความดันโลหิตสูง ชีพจรเต้นเร็ว หายใจเร็ว กล้ามเน้ือเกร็ง ผิวแดง คลื่นไส้ อาเจียน ปากแห้ง คอแห้ง เหงื่ออกตามร่างกาย
        
        ด้านคำพูด
        
        ด้านพฤติกรรม เช่น ท่าทีเฉยเมย ต่อต้าน เงียบ เชื่องช้ากำหมด
        แน่น หรือบางรายมักจะแสดงพฤติกรรมรุนแรง เช่น ทาร้ายร่างกายผู้อื่นหรือ บางรายอาจแสดงพฤติกรรมแอบแฝง เช่น ทาตัวอ่อนหวาน นอบน้อมเกินไป
    - - มุ่งเน้น ที่ การประเมินด้านร่างกาย และด้านสติปัญญาสิ่งที่
        ต้องพิจารณาคือปัจจัยต้นเหตุที่กระตุ้น หรือมีอิทธิพลทำให้บุคคลนั้นเกิดความรู้สึกไม่เป็นมิตร
    - - การช่วยเหลือบุคคลนั้น ให้เผชิญกับความไม่เป็นมิตรในเชิงสร้างสรรค์
        
        สนับสนุนให้บุคคลได้พ้ ิจารณาการกระทำของตนเองและการเรียนรู้การควบคุมตนเอง
      - การช่วยทำให้ความรู้สึกความไม่เป็นมิตรลดลงอยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตราย
        
        เปิดโอกาสให้บุคคลนั้นๆได้ระบายความรู้สึกคับข้องใจ หรือความไม่
        เป็นมิตร
      - การป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับบุคคลนั้นและบุคคลอื่น
        
        พยาบาลต้องเร่งดำเนินการวิเคราะห์ว่า บุคคลมีภาวะความไม่เป็นมิตรหรือไม่ เพื่อจะให้การพยาบาลได้อย่างทันท่วงที
        
        การจัดการกับสิ่งแวดล้อมและบุคคลรอบข้างเพื่อป้องกันอันตราย
        
        อาจจัดห้องแยก
        
        เตรียมเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์เพื่อให้การช่วยเหลืออย่างฉุกเฉิน
        
        ทีมสุขภาพต้องงมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะความไม่เป็นมิตร
        
        พยาบาลต้องอยู่ในอารมณ์ที่สงบ สุขุม เยือกเยน็ แต่ฉับไว
        
        ให้การยอมรับพฤติกรรม
        ของบุคคลนั้น ลดสิ่งกระตุ้น ยั่วยุ อารมณ์ใหเ้กิดความไม่เป็นมิตร
    - - ประเมินว่าบุคคลน้ันสามารถหลีกเลี่ยงความรู้สึกไม่เป็นมิตรได้หรือไม่
      - บุคคลนั้นสามารถบอกความรู้สึกเกี่ยงกับสิ่งที่ไม่เป็นมิตร แยกแยะสิ่งคุกคามได้
      - สามารถหาแนวทางในการป้องกัน และการเผชิญปัญหาได้อย่างถูกต้อง
        เหมาะสมรวมทั้ง เป็นไปในทางที่สร้างสรรค
- - - - แสดงออกทางร่างกาย
        
        สีหน้า บึ้งตึงแววตาไม่เป็นมิตร ท่าทางไม่
        พอใจ กระวนกระวาย อยู่ไม่นิ่ง
      - ทางคำพูด
        
        ใช้คำพูดตำหนิ ติเตียน วิพากษ์วิจารณ์ พูดในแง่ร้าย เสียงดัง ขู่ ตะคอก เอะอะอาละวาด วางอำนาจ วาจาหยาบคาย
  - - - การเจ็บป่วยด้วยโรคทางร่างกาย
        
        ระดับน้าตาลในเลือดต่า
        
        เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
        
        โรคสมองเสื่อม
      - ระดับความผิดปกติของสารเคมีในสมอง
        
        serotonin, dopamine และ
        norepinephrine เพิ่มหรือลดลง
        
        การได้รับอุบัติเหตุทางศีรษะ
        
        การมีเนื้องอกที่
        สมอง
    - - ทฤษฏีจิตวิเคราะห์ (Psychoanalytic Theory)
      - ทฤษฏีทางด้านจิตวิทยา (Psychological Theory)
      - ทฤษฏีทางด้านสังคมวิทยา (Sociocultural Theory)
      - การถือแบบอย่าง (Modelling)
  - - - ประวัติการมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงของบุคคลน้ัน
      - การได้รับการวินิจฉัยการเจ็บป่วยของบุคคลน้ัน
        
        โรคจิตเภท การติดสารเสพติด
      - พฤติกรรมในปัจจุบันของบุคคลน้ัน
        
        มีความก้าวร้าวมากน้อยในระดับใด
    - - เสี่ยงที่จะมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงเนื่องจากมีประวัติพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง
      - มีพฤติกรรมทำร้ายตนเองหรือผู้อื่นเนื่องจากมีประวตั ิพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง
      - มีพฤติกรรมหงุดหงิดก้าวร้าวไม่เหมาะสมเนื่องจากขาดทักษะการควบคุมอารมณ์
    - - การช่วยเหลือที่ดีที่สุด คือ การจัดการกับอารมณ์
        โกรธก่อนที่บุคคลนั้นจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง
        
        การพยาบาลบุคคลที่มีภาวะโกรธ
        
        สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัดให้ผู้ป่วยเกิดความรู้สึกไว้วางใจ รู้สึกปลอดภัยทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
        
        ฟังอย่างตั้งใจ (Active Listening)
        
        เมื่อความโกรธลดลงให้บุคคลนั้น สารวจถึงสาเหตุที่ทำให้รู้สึกโกรธ
        
        จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการออกแรงเพื่อปลดปล่อยพลังงานส่วนเกิน เช่น ออกกาลังกาย (การชกกระสอบทราย)
        
        ให้คำแนะนาถึงวิธีการจัดการกับความโกรธในทางที่เหมาะสม
        
        สำรวจความโกรธของตนเองและยอมรับความโกรธที่เกิดข้ึน
        
        สำรวจสาเหตุที่ทาใหเ้กิดความโกรธ
        
        หลีกเลี่ยงออกจากสถานการณ์ที่ทำใหเ้กิดความโกรธ
        
        นับ 1 - 100 เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจหรือใหเ้วลากับ ความโกรธที่เกิดขึ้น
        
        หาบุคคลที่ไว้วางใจได้พูดระบายความโกรธที่เกิดข้ึน
        
        ทำกิจกรรมที่ออกแรงจะช่วยปลดปล่อยพลังงานส่วนเกิน
        
        การออกกาลังกายอย่างสมำเสมอ
        
        การฝึกให้อภัยกับบุคคลที่ทำให้โกรธโดยการมองหาจุดดีของบุคคลนั้น
- - - - ประเมินอาการและการแสดงที่เป็นสัญญาณของพฤติกรรม เช่น การแสดงออกทางสี
        หน้าบึ้งตึง
      - ประเมินการเปลี่ยนแปลงระดับ ความรู้สึกและอารมณ์อย่างเฉียบพลัน
      - ศึกษาประวัติจากญาติ เกี่ยวกับ พฤติกรรมในอดีตมีหรือไม่อย่างไร
    - - พยาบาลไม่ยืน เอามือเท้าเอว เพราะอาจดูเหมือนเป็นการวางอำนาจ
        
        พยาบาลไม่ควรยืน เอามือไขว่ข้างหน ้า เพราะอาจเป็นการแสดงออกถึงความกลัวหรือ ความวติกกังวลของพยาบาล
        
        ยืนเอามือไขว้หลัง อาจจะเป็นการแสดงว่า พยาบาลซ่อนบางสิ่งเอาไว้
        
        ควรยืนเอามือไว้ข้างๆตัว หรือาจยืนข้างๆเก้าอี้และเอามือจับเก้าอี้ไว้เพื่อให้เกิดความอุ่นใจ
    - - ดังนี้
        
        ตรวจค้น ผู้ป่วยไม่ให้มีสิ่งของที่อาจใช้เป็นอาวุธได้
        
        จัดสิ่งแวดลอ้มให้ปลอดภัย รวมทั้ง ลดสิ่งกระตุ้น จากสิ่งแวดล้อม โดยลดเสียงดัง ลดแสงสว่างง ลดการที่มีคนพลุกพล่าน
        
        ดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยขณะพฤติกรรมก้าวร้าวตามระดับ ความรุนแรงที่ประเมิน
        พยาบาลต้องเผชิญสถานการณ์ด้วยความมั่น ใจ อย่างมีแผน ระมัด ระวัง และมีท่าทีสงบ
        
        ไม่ควรเข้าหาตัว ผู้ป่วยเพื่อลดความรู้สึกถูกคุกคาม เรียกชื่อผู้ป่วยและพูดคุยกับ ผู้ป่วยด้วยนำ้เสียงอ่อนโยน ไม่ตำหนิ
        
        ให้ยาตามแผนการรักษาและรายงานแพทย์ในรายที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงมากขึ้น
        
        กรณีที่ผู้ป่วยที่มีพฤติก้าวร้าวรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
        อาจจะต้องมีการจำกัด พฤติกรรม (Limit setting) การใช้ห้องแยก (Seclusion)การผูกมัดร่างกาย(Physical restrain)
      - หลังจากที่ผู้ป่วยมีอาการสงบพยาบาลควรเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้พูดระบายความรู้สึกเกี่ยวกับการถูกการจากัดพฤติกรรม (Limit setting)เพื่อช่วยลดความโกรธและความกงั วลและพยาบาลควรบอกถึงสาเหตุที่ต้องผูกยึดไว้และการยุติการผูกยึดให้ผู้ป่วยทราบทุกครั้ง
      - พยาบาลควรให้คำแนะนาเกี่ยวกับวิธีจัดการกับ อารมณ์ ความโกรธออกไปในทางที่เหมาะสม