Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลทารกกลุ่ม เสี่ยง premature-baby-small…

- - - - ประจำเดือนวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย
    - - ทำเมื่อจำวันเป็นประจำเดือนไม่ได้เป็นการดูว่าเด็กทารกอายุเท่าไหร่ถึงวันคลอด
    - - เป็นการประเมินอายุครรภ์โดยประเมิน
        ลักษณะทางกายภาพและทางระบบประสาท
        และกล้ามเนื้อ
        
        Neuromuscular Maturity
        การประเมินทางระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
        
        มีการประเมินอยู่6อย่าง ดังนี้
        1.ท่าทาง (Posture)
        2.การพับข้อมือ(Square Window Wrist)
        3.การงอข้อศอก(Arm Recoil)
        4.การเหยียดข้อเข่า(Popliteal Angle)
        5.ตำแหน่งศอก(Scarf Sign)
        6.การเหยียดขา(Heel to Ear)
        
        2.Physical Maturity
        การประเมินลักษณะทางกายภาพ
        
        1.ผิวหนัง(Skin)
        2.ขนอ่อน(Lanugo)
        3.ลายฝ่าเท้า(Plantar Surface)
        4.เต้านม(Breast)
        5.หู(Ear)
        6.อวัยวะเพศชาย(Genitals male)
        7.อวัยวะเพศหญิง(Genitals female)
        
        Maturity rating
        
        Low Birth Weight : LBW
        -Extremely LBW/Very very LBW
        นำ้หนักแรกเกิด <1,000 gms.
        -Very LBW
        น้ำหนักแรกเกิด <1,500 gms.
        -LBW
        น้ำหนักแรกเกิด <2,500 gms.
- - - - 1.มีผิวหนังบาง ไขมันใต้ผิวหนังน้อย ใบหูยังไม่มีกระดูกอ่อน
        2.บางครั้งมีอาการคล้ายกระตุก ร้องเสียงเบา
        3.ควบคุมอุณหภูมิได้ไม่ดี
        4.ดูดกลืนช้า
        5.ระบบหายใจยังไม่สมบูรณ์
        6.เม็ดเลือดแดงแตกง่าย ตับยังทำงานไม่สมบูรณ์ ทำให้ตัวเหลือง
        7.ย่อยอาหารได้ไม่ดี
        8.ติดเชื้อได้ง่าย
    - - 1.มีความบกพร่องในการแลกเปลี่ยนแก๊ส เนื่องจากปอดยังทำงานไม่สมบูรณ์
        -ให้ออกซิเจนตามสภาพของทารก : ตรวจ ROP
        -จัดท่านอน Sniffing position
        -Tactile stimulation เมื่อทารกมีภาวะ Periodic breathing
        -ลดการให้ออกซิเจนเพื่อจะไม่รบกวนทารก คงบคุมอุณหภูมิ
        -Obs.Hypoxia : Retraction, Grunting, Tachynea, Nasal flaring, Cyanosis,
        -Obs.O2 sat, V/S
      - 2.ขาดประสิทธิภาพในการควาบคุมอุณหภูมิกาย
        เนื่องจากความไม่สมบูรณ์ของอวัยวะในการควบคุมอุณหภูมิ
        -จัดให้ทารกอยู่ใน Incubator ปรับTemp ตู้อบตาม NTET ปรับตาม GA&BW
        Skin servo control ปรับ Temp ตู้ครั้งละ 0.1 Air servo control ปรับ Temp ตู้ครั้งละ0.2-0.3
        -ควบคุมอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 26-28 องศาเซลเซียส
        -ก่อนจะสัมผัสหรือให้ทารกรับประทานทุกอย่างต้องทำให้อุ่น
        -ทำหัตถการใน Redian warmer
        -Obs.Temp ทุก 4 ชม.(ค่าปกติคือ 36.5-37.5 องศาเซลเซียส)
      - 3.เสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร เนื่องจากการย่อยและการดูดซึม
        ของระบบทางเดินอาหารยังทำงานไม่สมบูรณ์
        -ถ้าให้นมมารดาควรให้ถูกวิธี 4ด.คือ ดูดเร็ว ดูดบ่อย ดูดถูกวิธี ดูดเกี้ยงเต้า
        -ถ้าเป็นนมผสมก็ให้ตามที่ทารกต้องการทาง OG tube
        -ลดการสูญเสียพลังงาน
        —ประเมินการขับถ่ายปัสสาวะ 3 วันแรก
        -ควบคุมการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น
        -พยายามลด PhysiologyและPathology
      - 4.เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังทำงานไม่สมบูรณ์
        -ดูแลทารกด้วยหลักAseptic &Sterile technique
        -ดูแลความสะอาดร่างกาย ตา สะดือ และผิวหนัง ตัดเล็บ
        -Obs.Sign infection : มีไข้ ซึม ไม่ดูดนม หายใจเร็ว
        -Obs.V/S
        -ดูแลให้ยา Antobiotic
      - 5.เสี่ยงต่อการมีพัฒนาการที่บกพร่อง เนื่องจากถูกแยกจากมารดา
        เพื่อรักษาและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนในครรภ์มารดา
        -จัดสิ่งแวเล้อมเพื่อป้องกันปัจจัยกระตุ้นความเครียด
        เช่น ป้องกันเสียงดังไม่เกิน 45 เดซิเบล ป้องกันแสงไฟ
        
        Developmental care ในช่วงทารกตื่น
        เช่น อุ้ม สัมผัส สบตา พูดคุย การนวดตัวหลังอาบน้ำ
        -การจัด Nesting ให้ทารกจะได้รู้สึกว่าอยู่ในครรภ์มารดา
        -การห่อผ้าที่จัดท่า flexion
        -การสังเกต comfort & stress behavior
        -กระตุ้นให้มารดามาเยี่ยมบ่อยๆ
      - 6.ครอบครัวมีความเครียด เนื่องจากการเจ็บป่วยของบุตร
        -ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่มารดาให้เร็วที่สุด
        1.อาการ ความก้าวหน้าของบุตร
        2.บทบาทการเป็นมารดาเช่นการให้นม
        การอาบน้ำ การกระตุ้นสายใยรัก
        การประเมินอาการ และพฤติกรรมของบุตร
        -ให้กำลังใจมารดาและครอบครัว