Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โภชนาการสำหรับผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และนมบุตร…
โภชนาการสำหรับผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และนมบุตร
โภชนาการสำหรับวัยผู้ใหญ่
วัยทำงานอายุตั้งแต่ 19-60 ปี เป็นวัยที่ร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว ร่างกายต้องการสารอาหารเพื่อนำไปใช้ในการทำงานและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
ร่างกายต้องการสารอาหารเพื่อใช้ในการเจริญเติบโต และซ่อมแซ่มส่วนที่สึกหรอ
ควรบริโภคอาหารครบ 5 หมู่ หลากหลายชนิด
บริโภคในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อรักษาน้ำหนัก ให้อยู่ในเกณฑ์
หลี่กเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลหรือโซเดียมมากเกินไป
ควรจำกัดการดื่มเเอลกอฮอล์
เพศหญิง
ธาตุเหล็ก
สูญเสียเลือดจากการมีประจำเดือน แนะนำให้รับประานอาหารผักใบเขียวเข้ม เนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ และเลือด
แคลเซียม
อายุ 20 ปีขึ้นไป ต้องการเเคลเซียมวันละ 800 มิลลิกรัม
โพเลตหรือกรดโฟลิก
ป้องกันความผิดปกติในการสร้างหลอดประสาท ไขสันหลังของทารกแนะนำให้รับประทาน ผักใบเขียวเข้ม ถั่วต่างๆ
เพศชาย
ช่วยลดระดับแอลดีแอลโคลเลสเทอรอล เพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ พบมากในมะเขือเทศ
เซเลเนียม
ต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก แนะนำให้รับประทานอาหารทะเล เนื้อสัตว์ และเครื่องใน
หลักกการจัดอาหารสำหรับวัยผู้ใหญ่
ผู้ชาย 19-30 ปี 2,150 กิโลแคลอรี
31 - 60 ปี 2,100 กิโลเเคลอรี
ผุู้หญิง 19- 60 ปี 1,750 ปี
โภชนาการสำหรับหญิงตั้งครรภ์
มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของทารก
ความต้องการสารอาหารเพิ่มโดยเฉพาะพลังงาน
ความต้องการแร่ธาตุเพิ่ม ได้แก่ เหล็ก ไอโอดีน และแคลเซียม
วิตามินสำคัญ คือ โฟเลท
พลังงานวันละ 2,050 กิโลแคลอรี
การกระจายพลังงาน
โปรตีนร้อยละ 12-15
ไขมันร้อยละ 25-35
คาร์โบไฮเดรต ร้อยละ 45-65
หลักการจัดอาหารสำหรับหญิงตั้งครรภ์
เนื้อสัตว์ เลือกเนื้อสัตว์ไม่ติดหนัง
ไข่เป็ดหรือไข่ไก่ ควรทานวันละ 1 ฟอง
นมสด เลือกนมที่มีแคลเซียมสูง
ถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง
ข้าวและผลิตภัณฑ์ เน้นข้าวไม่ขัดสี
ผักและผลไม้ต่างๆ ทานผลไม้หลังอาหารทุกมื้อ และทานเป็นอาหารว่าง
ไขมันหรือน้ำมันต่างๆ
พฤติกรรมการบริโภคอาหารในวัยผู้ใหญ
การรับประทานอาหารไม่ครบ 3 มื้อ
ร้อยละ 60-70 ไม่รับประทานอาหารมื้อเช้า
รับประทานผักผลไม้ต่ำกว่าเกณฑ์
ร้อยละ 40 รับประทานผักน้อยกว่า 1 ส่วน/วัน
ร้อยละ 50 รับประทานผลไม้น้อยกว่า 1 ส่วน/วัน
ปัญหาด้านโภชนาการในวัยผู้ใหญ่
ปัญหาท้องผูก
บริโภคใยอาหาร 20-35 กรัมต่อวัน หรือรับประทานผัก มื้อละ 1 ทัพพี และผลไม้วันละ 3-5 ส่วน
ภาวะกรดไหลย้อน
รับประทานอาหารให้ตรงเวลา
เว้นระยะเวลาหลังอาหารเย็นอย่างน้อย 4 ชั่วโมง
ลดการรับประทานอาหารทอดและอาหารรสจัด ควรงดผลไม้ที่มีความเป็นกรด เช่น ส้ม มะนาว และผักบางชนิดที่เกิดก๊าซ เช่น มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ และน้ำอัดลม
แนวปฏิบัติในการจัดอาหารสำหรับวัยผู้ใหญ่
การจัดอาหารต้องคำนึงถึงพลังงานที่ใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ
จัดอาหารให้มีความหลากหลายครบทั้ง 5 หมู่ ควรมีผักและผลไม้ทุกมื้อ
มื้ออาหารที่สำคัญควรเป็นอาหารมื้อเช้าและกลางวัน
รับประทานอาหารให้ตรงเวลา
ดื่มนมเปรี้ยว หรือโยเกิร์ต
ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
โภชนาการสำหรับวัยผู้สูงอายุ
วัยผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) เป็นวัยที่มีการเสื่อมถอยของระบบต่างๆ ในร่างกาย
ปัญหาทางโภชนาการมีทั้งขาดสารอาหารและได้รับสารอาหารเกิน เนื่องจาก
บริโภคอาหารได้น้อยลง
การเผาผลาญพลังงานพื้นฐานของร่างกายลดลง
การใช้พลังงานในการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันลดลงด้วย
สารอาหารสำคัญสำหรับวัยผู้สูงอายุ
โปรตีน
รับประทาน 1 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ให้ทานโปรตีนคุณภาพ
ไขมัน
รับประทานกรดไขมันไม่อิ่มตัวโอเมก้า 3 ช่วยบำรุงสายตา เพิ่มภูมิคุ้มกัน และป้องกันความจำเสื่อม พบมากในปลาทะเลและปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาจาระเม็ดขาว ปลาสำลี ปลากะพงขาว
คาร์โบไฮเดรต
รับประทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ได้แก่ ข้าวกล้อง ธัญพืช
แร่ธาตุและวิตามิน
ความต้องการวิตามินบางชนิดเพิ่มขึ้น เช่น วิตามินดี วิตามินบี 6 และวิตามินบี 12
ใยอาหาร
ช่วยในการขับถ่าย ลดความเสี่ยงต่อโรคริดสีดวงทวาร มะเร็งลำไส้ใหญ่
น้ำ
ส่วนใหญ่พบปัญหาผู้สูงอายุดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการ แนะนำให้ดื่มน้ำ 6-8 แก้ว ต่อวัน
สารอาหารสำคัญสำหรับวัยผู้สูงอายุ
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
ผู้สูงอายุมักป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อ และโรคที่เกิดจากความเสื่อม เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเส้นเลือดสมองตีบ
ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสหวานจัด และเค็มจัด หมั่นดูแลน้ำหนักตัว
หลักการจัดอาหารสำหรับวัยผู้สูงอายุ
ผู้ชาย 60-70 ปี 2,100 กิโลแคลอรี
71 ปีขึ้นไป 1,750 กิโลแคลอรี
ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสหวานจัด
และเค็มจัด หมั่นดูแลน้ำหนักตัว
ผู้หญิง 60-70 ปี 1,750 กิโลแคลอรี
71 ปีขึ้นไป 1,550 กิโลแคลอรี
ปัญหาการขาดสารอาหาร
การรับรู้กลิ่นและรสชาติอาหารลดลง การหลั่งน้ำลายลดลง
มีปัญหาในการกลืนและปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน
การทำงานของกระเพาะอาหาร ลำไส้ ตับอ่อน และตับเสื่อมลง
ปัจจัยทางสังคม เช่น การถูกทอดทิ้ง รายได้ต่ำ การถูกแบ่งแยกจากสังคม
การได้รับยาบางชนิดอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับอาหาร ส่งผลให้ผู้สูงอายุเบื่ออาหาร
ภาวะโภชนาการเกินเกณฑ์
การรับประทานอาหารที่ไม่ถูกสัดส่วนและมีปริมาณมากเกินไป
อัตราการเผาผลาญลดลง
แนวปฏิบัติในการจัดอาหารสำหรับวัยผู้ใหญ่
ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
ควรลดอาหารประเภทที่มีไขมันสูง เช่น แกงกะทิ ขนมกะทิ อาหารทอด
ควรรับประทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน หากมีปัญหาด้านการเคี้ยวควรสับหรือบดละเอียด และรับประทานอาหารอื่นที่ให้
โปรตีนสูง เช่น ไข่ สัปดาห์ละ 3-4 ฟอง
ควรรับประทานผักและผลไม้เป็นประจำทุกวันหรือทุกมื้อ
ควรดื่มนมพร่องมันเนย วันละ 1-2 แก้ว
ดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 6-8 แก้ว
ควรงดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมทั้งอาหารรสจัดเกินไป
ลักษณะสีสันของอาหาร การตกแต่งอาหารและอุปกรณ์ต่างๆ ควรจะต้องดูดี สวยงาม เพื่อให้คนวัยนี้รับประทานอาหารอย่างมีความสุขระทานครั้งละน้อยๆ วันละ 4-5 ครั้ง
โภชนาการหญิงให้นมบุตร
ปริมาณและคุณภาพมีความสำคัญเหมือนตอนตั้งครรภ์
ใช้ในการสร้างน้ำนม
ให้มีพลังงานเพียงพอในการผลิตน้ำนมแม่
สร้างเสริมและซ่อมแซมสุขภาพของแม่ให้สมบูรณ์
ความต้องการพลังงานเพิ่ม 500 กิโลแคลอรี
2,250 กิโลแคลอรี
หลักการจัดอาหาร
พลังงาน ควรมาจากโปรตีน และคาร์โบไฮเดรต จำกัดปริมาณไขมัน
โปรตีนควรได้รับปริมาณเพียงพอต่อการสร้างน้ำนม เน้นเครื่องในสัตว์ เพราะมีธาตุเหล้ก
วิตามินต่างๆ ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี12 โฟเลท วิตามินซี
น้ำ 8-10 แก้วต่อวัน