Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การใช้กระบวนการพยาบาลในการดูแลมารดาและทารกที่มีภาวะเสี่ยง และปัญหาสุขภาพ…
การใช้กระบวนการพยาบาลในการดูแลมารดาและทารกที่มีภาวะเสี่ยง และปัญหาสุขภาพ
Hyperemesis gravidarum
ภาวะอาเจียนอย่างรุนแรง
ภาวะที่สตรีตั้งครรภ์มีอาการอาเจียนอย่างมากหรือตลอดเวลาติดต่อกันยาวนานจนผ่านพ้นไตรมาสแรก
ขาดน้้า (dehydration)
น้้าหนักลด (Weight loss)
เสียสมดุลน้้าและอิเลคโตรไลท์
(electrolyte imbalance)
อาการ
รุนแรงปานกลาง
อาเจียนติดต่อกันมากกว่า 5-10 ครั้งต่อวัน
ติดต่อกันไม่หยุดภายใน 2-4 สัปดาห์
น้้าหนักตัวลด มีอาการขาดสารอาหาร
มีภาวะเลือดเป็นกรด
รุนแรงมาก
อาเจียนมากกว่า 10 ครั้งต่อวัน
ติดต่อกันเกิน 4 สัปดาห์
น้้าหนักลดมาก ขาดสารอาหารรุนแรง
อาการไม่รุนแรง
อาเจียนน้อยกว่า 5 ครั้งต่อวัน
การวินิจฉัย
ตรวจร่างกายพบลมหายใจมีกลิ่นอะซิโตน
การพยาบาล
กรณีรุนแรงงดน้้าและอาหารทางปาก/
ดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ให้ทานอาหารแห้ง ย่อยง่าย เช่น ขนมปังกรอบ
จัดอาหารให้น่าทาน ให้ทานน้อยแต่ทานบ่อย ๆ
ให้บ้วนปากทุกครั้งหลังอาเจียน
การตั้งครรภ์แฝด
(Multiple pregnancy)
ครรภ์แฝดจากไข่ใบเดียวหรือแฝดแท้ (Monozygotic twins, identical twins)
Diamnionic, monochorionic, monozygotic twins
แบ่งตัวหลังไข่ถูกผสมกับอสุจิภายใน 4-8 วัน
Monoamnionic , monochorionic, monozygotic twins
ครรภ์แฝดที่ทาให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อทารกมากที่สุด
Diamnionic, dichorionic, monozygotic twins
แบ่งตัวหลังไข่ถูกผสมกับอสุจิภายใน 72 ชั่วโมง
Conjoined twins หรือ Siamese twins
ผลทาให้ร่างกายติดกัน
แฝดต่างไข่ หรือ แฝดเทียม
(Dizygotic twins หรือ fraternal twins)
การวินิจฉัย
ขนาดมดลูกโตกว่าอายุครรภ์
ฟังเสียงหัวใจทารกพบมากกว่า 1 ตาแหน่ง
ผลกระทบ
มารดา
อาการไม่สุขสบายพบมาก รุนแรง เช่น คลื่นไส้อาเจียน ปวดหลัง บวม เส้นเลือดขอด ริดสีดวงทวาร หน้าท้องลาย
ทารก
Twin –to- twin transfusion syndrome มีการถ่ายเทเลือดจาทารกคนหนึ่ง (donor) สู่ทารกอีกคนหนึ่ง (recipient)ทารกแฝดผู้ให้จะโลหิตจาง ผู้รับมีเม็ดเลือดแดงมากกว่าปกติ หัวใจวายได้
แนวทางการรักษา
ป้องกันการคลอดก่อนกาหนด
ดูแลทารกให้สมบูรณ์เจริญเติบโตเพียงพอ
ดูแลระยะตั้งครรภ์ลดอาการไม่สุขสบาย
ทารกตายในครรภ์
(Dead fetus in utero หรือ DFIU)
ความหมาย
Intermediate fetal death
ตายระหว่าง 20-28 สัปดาห์
Late fetal death
ตายตั้งแต่ 28 สัปดาห์ขึ้นไป
Early fetal death
ตายระหว่างอายุครรภ์ 12- 20 สัปดาห์ หากเสียชีวิตก่อนอายุครรภ์ 12 สัปดาห์เรียกว่า embryonic death
อาการสาคัญที่พบ
Spaulding’s sign
การซ้อนกันของกะโหลกศีรษะ
Deuel’s sign
การคั่งของเหลวระหว่างชั้นไขมัน
ของหนังศีรษะและกะโหลก
พบการงุ้มงอกระดูกสันหลัง
Robert’s sign
พบแก๊ส/ฟองอากาศ ในหัวใจและหลอดเลือด
ภาวะแทรกซ้อน
เกิดความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด (Disseminated Intravascular Coagulogram: DIC)
การพยาบาล
ระยะโศกเศร้า ไม่ควรทอดทิ้งให้อยู่ตามลาพัง
ประเมินการติดเชื้อ และภาวะผิดปกติการแข็งตัวของเลือด
ควรรับฟังมารดาระบายถึงความรู้สึก
แนะนาการวางแผนครอบครัว
การเจ็บครรภ์ก่อนกาหนด
ความหมาย
การเจ็บครรภ์คลอดก่อนอายุครรภ์ 37 wks.
มดลูกหดรัดตัว 4 ครั้งใน 20 นาที หรือ 8 ครั้งใน 1 ชั่วโมง + Cx dilate ≥ 2 cm./ Cx eff. ≥ 80%
วัด cervical length 20 ถึง < 30 mm. + ตรวจ fetal fibronectin ได้ผล positive
ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงของปากมดลูก
การวินิจฉัย
มีการเปลี่ยนแปลงของปากมดลูกอย่างต่อเนื่อง
ปากมดลูกเปิดเท่ากับ 1 เซนติเมตร หรือมากกว่า
มดลูกหดรัดตัวสม่าเสมอ 4 ครั้งใน 20 นาที
ปากมดลูกบางตัวลงเท่ากับร้อยละ 80 หรือมากกว่า
การรักษา
การใช้ยาเพื่อยับยั้งการคลอด
Prostaglandin synthetaseinhibittions
Magnesuim sulphate
Calcium antagonist
Beta – adrenergic drugs
การพยาบาล
ลดการกระตุ้นมดลูก เช่น งด PV PR
ดูแลการได้รับยากระตุ้นการสร้างสาร Surfactant ในปอดให้ทารก
ลดการหดรัดตัวของมดลูกและป้องกันการแตกของถุงน้า
ภาวะถุงน้าแตกก่อนการเจ็บครรภ์คลอด (Premature rupture of membranes: PROM)
ประเภท
Term PROM แตกเมื่ออายุครรภ์มากกว่า 37
Prolong PROM แตกนานเกิน 18 ชม. และยังไม่เจ็บครรภ์
Preterm PROM แตกเมื่ออายุครรภ์น้อยกว่า 37
การวินิจฉัย
การซักประวัติ
ตั้งครรภ์สามารถกลั้นปัสสาวะได้ ส่วนน้าคร่่ำที่ไหลออกมาไม่สามารถกลั้นได้
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
Nitrazine paper test
ปลี่ยนสีจากสีเหลืองเป็นสีน้าเงิน
ผลกระทบ
มารดา
มีโอกาสติดเชื้อในโพรงมดลูกและถุงน้าคร่่ำ
การติดเชื้อเยื่อบุโพรงมดลูกหลังคลอด
การติดเชื้อในกระแสโลหิต
ทารก
การติดเชื้อของทารกในครรภ์และแรกเกิด
ภาวะ perinatal asphyxia เนื่องจากน้าคร่าน้อย
ภาวะแทรกซ้อนของการคลอดก่อนกาหนด
การพยาบาล
คัดกรองสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยง
ให้คาแนะนาสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงเกี่ยวกับการปฏิบัติตัว
ให้การพยาบาลเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากภาวะ PROM
Postterm
ความหมาย
ตั้งครรภ์ตั้งแต่ 42 สัปดาห์
หรือมากกว่า 294 วันเป็นต้นไป
วินิจฉัย
มดลูกขนาดเล็กลง คลาพบทารกชัดเจนเนื่องจากน้าคร่าน้อยลง
น้าหนักลดมากกว่า 1 กก/สัปดาห์ในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์
ทารกดิ้นน้อยลง
ตรวจภายในพบกระดูกศีรษะแข็ง ไม่เกิด molding
เจาะน้าคร่าพบขี้เทาปน
ผลกระทบ
มารดา
เสี่ยงต่อการใช้สูติศาสตร์หัตถการ
เสี่ยงต่อการตกเลือดในระยะที่ 2 ของการคลอด
ทารก
ทารกเสี่ยงต่อขาดออกซิเจน
รกเสื่อม และน้ำคร่ำน้อย
เสี่ยงต่อคลอดติดไหล่
เสี่ยงต่อสาลักน้ำคร่ำ
การพยาบาลระยะหลังคลอด
ติดตามทารกหลังคลอดว่ามีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
ภาวะสาลักน้ำคร่ำ
ประเมินสภาพทารก เพื่อยืนยันการเกินกำหนด
ระวังภาวะตกเลือดหลังคลอดและติดเชื้อหลังคลอด
ความผิดปกติของน้ำคร่ำ
ภาวะน้ำคร่ำมาก/ครรภ์แฝดน้้า
ความหมาย
U/S -> ค่าที่วัดแอ่งลึกที่สุดของน้้าคร่้า (SDP) ≥ 8 cm.
ค่า amniotic fluid index (AFI) > 24 cm.
ปริมาณน้้าคร่้า > 2,000 ml.
อาการและอาการแสดง
ทารกมีส่วนนำผิดปกติหรืออยูในท่าผิดปกติ
ฟังเสียง FHS ไม่ชัด
หายในลำบาก บางรายอาจนอนราบไม่ได้
มดลูกมีขนาดโตกว่าอายุครรภ์
การประเมินและวินิจฉัย
ตรวจร่างกายพบผนังหน้าท้องบางตึงใส คลำส่วนของทารกได้ยาก FHS ไม่ชัดเจน และคลำพบการสั่นสะเทือนของน้้า (fluid thrill)
ผลกระทบ
มารดา
ระยะตั้งครรภ์
-Preterm labor
-PROM
ระยะหลังคลอด
มดลูกหดรัดตัวไม่ดี เกิดการตกเลือดหลังคลอด
ระยะคลอด
-มดลูกหดรัดตัวไม่ดี ท้าให้เกิดการคลอดล่าช้า
-ทารกในครรภ์ท่าผิดปกติ
ทารก
อัตราตาย ปริกำเนิดสูง
การเกิดก่อนกำหนดสูงเป็นสองเท่า
ทารกมีความผิดปกติ
การพยาบาล
ติดตามความก้าวหน้าของการคลอดอย่างใกล้ชิด
จัดท่าศีรษะสูง หรือตะแคงซ้าย เพิ่มการไหลเวียนไปเลี้ยงมดลูก
อธิบายเกี่ยวกับภาวะครรภ์แฝดน้ำ และแนวทางการรักษา
หากมีการใช้สูติศาสตร์หัตถการช่วยคลอดควรเตรียมผู้คลอดให้พร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
ภาวะน้ำคร่ำน้อย
ความหมาย
U/S -> ค่าที่วัดแอ่งลึกที่สุดของน้้าคร่้า (SDP) < 2 cm.
ปริมาณน้้าคร่ำ < 500 ml.
ค่า amniotic fluid index (AFI) < 5 cm.
อาการและอาการแสดง
มารดารู้สึกว่าทารกเคลื่อนไหวน้อยกว่าปกติ
ขนาดของมดลูกเล็กกว่าอายุครรภ์
ผลกระทบต่อทารก
แท้ง โดยเฉพาะในไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
ทารกเกิดภาวะ amniotic band syndrome
ทารกเกิดภาวะปอดแฟบ (punmonary hypoplasia)
การพยาบาล
อธิบายเกี่ยวกับภาวะน้ำคร่ำน้อย และแนวทางการรักษา
แนะน้าให้พักผ่อนอย่างเพียงพอ โดยนอนตะแคงซ้าย เพื่อเพิ่มการไหลเวียนไปเลี้ยงมดลูก
ติดตามความก้าวหน้าของการคลอดอย่างใกล้ชิด
ช่วยเหลือทารกแรกเกิดที่มีน้้าหนักตัวน้อย ควบคุมอุณหภูมิ เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อน
นางสาวอมรรัตน์ ฟ้าแลบ เลขที่ 89 ชั้นปีที่ 3