Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แนวคิดในการดูแลผู้สูงอายุ Gerontological Nursing (สาเหตุของความชรา…
แนวคิดในการดูแลผู้สูงอายุ
Gerontological Nursing
สถานการณ์ด้านประชากร
ปัจจัยที่มีผลต่อการเพิ่มขึ้นของอัตราประชากร
อัตราตาย (อัตราตายรวม ตามกลุ่มอายุ ทารกแรกเกิด) ลดลงอย่างต่อเนื่อง
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการแพทย์
อัตราเกิดลดลง
ประชากรสูงอายุเพิ่มมากขึ้น
คาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 20% ในปี 2574
บทบาทพยาบาลต่อการเปลี่ยนแปลงประชากร
มีเจตคติที่ดีต่อผู้สูงอายุ
มีเลนส์ของความสูงอายุและไวต่อผู้สูงอายุ
(มองและคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อผู้สูงอายุ)
มีองค์ความรู้ทางด้านการพยาบาลผู้สูงอายุ
สามารถประยุกต์ใช้แหล่งสนับสนุนต่างๆเพื่อการดูแลผู้สูงอายุ
ให้ญาติและครอบครัวมีส่วนร่วมในการดูแล
เตรียมการดูแลต่อเนื่องและเฉพาะเจาะจงกับผู้สูงอายุ
เจตคติต่อวัยสูงอายุ
เจตคติที่ดี
วัยงาม
ผู้ให้
ชี้แนะ
มีประสบการณ์
ผู้ทรงคุณค่า
เจตคติที่ไม่ดี
แก่/อืดอาด
เสื่อม
หง่อม
หนังยาน
เป็นภาระ/พึ่งพา
ผู้สูงอายุ
ความหมาย
WHO
ยังไม่มีการให้นิยามผู้สูงอายุ โดยมีเหตุผลว่า
ประเทศต่างๆทั่วโลกมีการนิยาม ผู้สูงอายุต่างกัน
ประเทศที่เจริญแล้ว
มักจัดผู้สูงอายุ นับจากอายุ 65 ปีขึ้นไป
ประเทศที่กำลังพัฒนา
/ประเทศไทย นับจากอายุเกินกว่าหกสิบปีบริบูรณ์ขึ้นไป
ความสูงอายุ
เกิดขึ้นตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย
การแบ่งช่วงระยะระยะเวลา
และความสำคัญของผู้สูงอายุ
ช่วงวัยสูงอายุ 4 ช่วง
ช่วงไม่ค่อยแก่
อายุประมาณ 60 - 69 ปี
ช่วงแก่ปานกลาง
อายุประมาณตั้งแต่ 70 - 79 ปี
ช่วงแก่จริง
อายุประมาณ 80 - 89 ปี
ช่วงแก่จริงๆ
อายุประมาณ 90 - 99 ปี
ช่วงอายุตามองค์การอนามัยโลก (WHO)
ช่วงอายุ 60 – 74 ปี อยู่ในประเภท
ผู้สูงอายุ (Elderly)
ช่วงอายุ 75 – 90 ปี อยู่ในประเภท
คนชรา (Old)
ช่วงอายุ 90 ปี ขึ้นไป อยู่ในประเภท
คนชรามาก (Very Old)
การเตรียมตัวก่อนเข้าผู้สูงอายุ
จำแนกได้เป็น 4 ลักษณะ
ทัศนคติที่ดีสาหรับการเข้าสูผู้สูงอายุ เรียกว่า
ทัศนคติทางบวก
ทัศนคติที่ไม่ดีสาหรับการเข้าสู่ผู้สูงอายุ เรียกว่า
ทัศคติทางลบ
ทัศนคติเป็นกลางสาหรับการก้าวสู่ผู้สูงอายุ เรียกว่า
ทัศติเป็นกลาง
ทัศคติเฉพาะอย่างที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ เรียกว่า
คอนติเจ้นท์
การเตรียมพร้อมที่ดีนั้นควรประกอบด้วยการเตรียมตัวดังนี้
ทางด้านสุขภาพดี
การเตรียมตัวออกจากงาน
การเตรียมตัวต่อบทบาทที่จะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อก้าวเข้าสู่ผู้สูงอายุ
การวางแผนครอบครัวเมื่อก้าวเข้าสู่ผู้สูงอายุ
สาเหตุของความชรา
ทฤษฏีนาฬิกาทางพันธุกรรม
Genetic clock
ยีนใน DNA ถ่ายทอดลักษณะต่างๆ ให้ลูกหลาน (ตายายอายุยืน ลูกย่อมอายุยืน)
ทฤษฏีความคลาดเคลื่อน
Error theory of a aging
ความผิดพลาดในการแปลรหัสของ DNA และ RNA
ทำให้เซลล์มีอายุมากขึ้นหรือตายไป
ทฤษฏีความเสื่อม
Wear and Tear Theory
เมื่อเซลล์ถูกใช้งานมากขึ้น ทำให้เซลล์มีความเสื่อมมากขึ้น
ทฤษฎีภูมิคุ้มกัน Immunological Theory
เชื่อว่า เมื่ออายุมากขึ้นการสร้างสารภูมิคุ้มกันตามปกติจะลดลง ทำให้ร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วย โรคที่พบบ่อย เช่น มะเร็ง เบาหวาน ความดัน
ทฤษฎีอนุมูลอิสระ
Free Radical Theory
เชื่อว่าความสูงอายุเกิดจากร่างกายมีการสะสมของอนุมูลอิสระมากขึ้นจนเกิดเป็นสารหรือโมเลกุลที่มีฤทธิ์ทำลาย
เกิดจาก
อาหาร
น้ำ
อากาศ
บุหรี่ แอลกอฮอล์
การสัมผัสสารเคมี
ความเครียด
ฯลฯ
ทฤษฎีการเชื่อมตามขวาง Cross link Theory
เมื่ออายุมากขึ้นเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอิลาสตินจะมีการเชื่อมตามขวางมากขึ้น ทำให้สูญเสียความยืดหยุ่น ฟันหลุดร่วง ผนังหลอดเลือดมีแรงตึงลดลง ประสิทธิภาพในการทำงานของหลอดเลือดและอวัยวะต่างๆลดลง
ทฤษฎีการผ่าเหล่า
Somatic Mutation Theory
การถ่ายทอดรหัสทางพันธุกรรมเปลี่ยนแปลง ทำให้เซลล์ที่สร้างใหม่เปลี่ยนไปจากเดิม ทำให้เกิด
มะเร็ง
ทฤษฎีความสูงอายุเชิงจิตสังคม
(Psychosocial Theory)
ทฤษฎีการมีกิจกรรม
(The Activity Theory)
ก่อนเกษียณเคยทำกิจกรรมอะไร หลังเกษียณทำกิจกรรมใหม่เพิ่มขึ้น
เช่น ก่อนเกษียณเป็นครู หลังเกษียณเป็นอาสาสมัคร
ก่อนเกษียณไม่เคยทำกิจกรรมอะไรเลย หลังเกษียณทำกิจกรรมมากขึ้น
เช่น ก่อนเกษียณไม่เคยทำกิจกรรม หลังเกษียณทำธุรกิจ
ทฤษฎีความต่อเนื่อง
(Continuity Theory)
กิจกรรมที่เคยทำก่อนเกษียณ เมื่อเกษียณแล้วยังทำอยู่ เช่น ก่อนเกษียณเป็นครู เมื่อเกษียณแล้วก้ยังเป็นครูอยู่
ทฤษฎีการถดถอยจากสังคม (Disengagement Theory)
ก่อนเกษียณเคยทำกิจกรรมอะไร หลังเกษียณทำสิ่งนั้นลดลง
เช่น ก่อนเกษียณปลูกต้นไม้ หลังเกษียณไม่ปลูกต้นไม้
น.ส.ปาจารีย์ วิเศษศักดิ์ UDA6280124