Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคหัวใจในเด็ก (ไข้รูห์มาติค (Rheumatic Fever) (การรักษา (1.…
โรคหัวใจในเด็ก
-
-
-
Infective endocarditis
สาเหตุ
โรคนี้เป็นการอักเสบของเยื่อบุหัวใจด้านในจากการติดเชื้อแบคทีเรีย พบได้ไม่บ่อยนักแต่มีความรุนแรง เชื้อที่พบได้แก่เชื้อที่อยู่ตามผิวหนังและในช่องปาก การถอนฟันหรือผ่าตัดใด ๆ ในช่องปากในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจอยู่ก่อนจึงจำเป็นต้องได้รับยาปฏิชีวนะก่อนการผ่าตัดหรือถอนฟัน
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคคือ
ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของผนังหัวใจหรือลิ้นหัวใจอยู่ก่อน ทั้งที่เป็นแต่กำเนิดและที่เกิดขึ้นมาภายหลัง
-
-
-
อาการ
ผู้ป่วยโรคเยื่อบุโพรงหัวใจอักเสบจากแบคทีเรียส่วนใหญ่จะแสดงอาการแบบกึ่งเฉียบพลัน (subacute) คือใช้เวลาเป็นสัปดาห์ถึงเดือนถึงจะรู้สึกตัวว่าป่วย อาการที่เกิดขึ้นในระยะแรกได้แก่ ไข้ต่ำ ๆ เป็นพัก ๆ ปวดเนื้อตัว เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร ต่อมาไข้จะเริ่มเป็นถี่ขึ้น หนาวสั่นเวลามีไข้ ปวดตามข้อ ซีดลง น้ำหนักลด ปวดท้องเนื่องจากม้ามโต
เนื่องจากการอักเสบติดเชื้อเกิดที่เยื่อบุผนังด้านในของหัวใจ เมื่อหัวใจสูบฉีดเลือดออกไปก็อาจพาเอาเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายออกไปพร้อมกับตัวเชื้อ (infective emboli) และไปติดอยู่ตามหลอดเลือดฝอยของอวัยวะต่าง ๆ อาการลำดับต่อไปของผู้ป่วยก็คืออาการของหลอดเลือดฝอยอุดตัน เช่น ถ้าเป็นการติดเชื้อทาง ภาพจาก www.huidziekten.nl หลอดเลือดดำ (จากเข็มฉีดยาเสพติด) เชื้อจะเข้าสู่ผนังหัวใจด้านขวาก่อน แล้วถูกฉีดต่อไปยังปอด เมื่อหลอดเลือดฝอยที่ปอดอุดตันก็จะมีอาการเจ็บอก หายใจหอบ ตัวเขียว ถ้าเป็นการติดเชื้อของผนังหัวใจด้านซ้าย เลือดจะถูกฉีดไปทั่วร่างกาย ผู้ป่วยอาจมีจุดแดงตามปลายมือปลายเท้า มีเลือดออกใต้เยื่อบุตา เลือดออกที่จอตา ปัสสาวะเป็นเลือด หรือถ้าโชคร้ายไปอุดหลอดเลือดฝอยที่สมองก็จะทำให้เกิดอาการชัก แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก หรือชาครึ่งซีก
การวินิจฉัยโรค
ข้อบ่งชี้หลัก
1.การเพาะเชื้อจากเลือดที่เจาะในเวลาต่างกันให้ผลบวกตั้งแต่ 2 ตัวอย่างขึ้นไป และเป็นเชื้อที่พบในโรคเยื่อบุโพรงหัวใจอักเสบ
-
ข้อบ่งชี้รอง
-
-
3.มีปรากฏการณ์ของหลอดเลือดส่วนปลายอุดตัน เช่น คลำชีพจรข้างใดข้างหนึ่งไม่ได้ หลอดเลือดที่ปอดอุดตัน มีเลือดออกในสมอง หรือ ใต้เยื่อบุตา หรือ ใต้ผิวหนังที่บริเวณปลายมือปลายเท้า (Janeway lesions)
4.มีปรากฏการณ์ทางภูมิคุ้มกันที่แสดงว่ามีการอักเสบของหลอดเลือดส่วนปลาย เช่น ไตอักเสบ (glomerulonephritis), Osler nodes, Roth spots
5.การเพาะเชื้อจากเลือดให้ผลบวก 1 ตัวอย่าง หรือ การตรวจทางซีโรโลยี่พบว่ามีการติดเชื้อระยะเฉียบพลัน และเป็นเชื้อที่พบในโรคเยื่อบุโพรงหัวใจอักเสบ
-
การรักษา
การรักษาโรคเยื่อบุโพรงหัวใจอักเสบจากแบคทีเรียต้องใช้ยาปฏิชีวนะขนาดสูงฉีดนาน 4-6 สัปดาห์ ส่วนใหญ่ไข้จะลงสนิทหลังฉีดไปได้ 2-3 สัปดาห์ แต่ผู้ป่วยต้องอดทนเจ็บเส้นเลือดที่ให้ยาต่อ เพราะหากหยุดยาระหว่างนี้อาจทำให้เชื้อโรคที่ยังไม่ตายหมดกลับเจริญขึ้นมาอีก และมักจะดื้อยา ไม่สามารถหายาที่เหมาะสมมารักษาได้ต่อไป มีผู้ป่วยส่วนน้อยเท่านั้นที่จำเป็นต้องใช้การผ่าตัดช่วยในระยะเฉียบพลันด้วย ส่วนใหญ่เป็นพวกที่มีการโป่งพองของหลอดเลือดจนเสี่ยงต่อการแตก หรือเกิดมีฝีที่หดรัดรอบลิ้นหัวใจ หรือมีการกระจายของเชื้อในรูปของก้อนเนื้อเยื่อไปยังอวัยวะอื่นเพิ่มขึ้น หรือไม่ตอบสนองต่อยาที่ให้
หลังการรักษา อาการหอบเหนื่อย ขาบวม ตาเหลือง จะดีขึ้นบ้าง แต่ร่างกายจะไม่สมบูรณ์เหมือนเมื่อก่อน เพราะผนังหัวใจที่โตและลิ้นหัวใจที่ถูกทำลายไปแล้วไม่อาจสมานให้ดีดังเดิม ผู้ป่วยอาจจำเป็นต้องจำกัดน้ำดื่มในแต่ละวัน หรือ ต้องใช้ยารักษาภาวะหัวใจวายเรื้อรังต่อไป ในรายที่ลิ้นหัวใจถูกทำลายไปมากควรเข้ารับการผ่าตัดแก้ไขในภายหลัง
การป้องกัน
ผู้ป่วยที่มีพยาธิสภาพของลิ้นหัวใจและผนังหัวใจอยู่ก่อน รวมทั้งผู้ที่ได้รับการผ่าตัดใส่ลิ้นหัวใจเทียมแล้ว จำเป็นต้องได้รับยาฏิชีวนะป้องกันโรคเยื่อบุโพรงหัวใจอักเสบจากแบคทีเรียเมื่อจะเข้ารับการผ่าตัดภายในช่องปาก ช่องท้อง การกรีดฝี และการทำหัตถการใด ๆ ที่อาจทำให้มีเลือดออก เช่น การส่องกล้องเข้าไปในหลอดลมหรือทางเดินอาหาร
-
-