Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ภาวะไม่สุขสบายในระยะตั้งครรภ์, download (9), download (8), images (13),…

- - - - 1.แนะนาให้ดูแลความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ให้สะอาดและแห้ง
      - 2.ไม่ควรสวนล้างช่องคลอดหรือใช้นิ้วสอดเข้าไปทำความสะอาดอวัยวะภายใน
    - - การเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเอสโตรเจนที่กระตุ้นการสร้างมูกที่บริเวณ Cervix หรืออาจเกิดจากการติดเชื้อ เช่น หนองใน เชื้อรา Bacterial vaginosis เป็นต้น
  - - - การเพิ่มระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนและจากมดลูกที่โตขึ้นจนไปกดทับเส้นเลือดดำ ทำให้การไหลเวียนของเลือดบริเวณทวารหนักไม่ดี ความดันในเส้นเลือดเลยสูงขึ้น เส้นเลือดจึงโป่งพอง
    - - 1.รับประทานอาหารที่มีกากใย เช่น ผัก ผลไม้
      - 2.ดื่มน้ำมากๆ ประมาณวันละ 2,000-3,000 ml
      - 3.ฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา
  - - - การเปลี่ยนของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ทำให้กระเพาะอาหารลำไส้บีบเคลื่อนไหวช้าลง มดลูกที่ขยายใหญ่ขึ้นจึงไปกดทับลำไส้ใหญ่ ทำให้อุจจาระผ่านได้ลำบาก อุจจาระที่ค้างอยู่นานจะถูกดูดซึมน้ำออกไปมาก
    - - แม่รับประทานอาหารที่มีกากใยมาก ๆ เช่น ผักและผลไม้สด
      - แนะนำให้คุณแม่ดื่มน้ำวันละมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือดื่มน้ำลูกพรุน
      - แนะนำให้ฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา เข้าห้องน้ำทันทีที่จำเป็นอย่ากลั้นไว้
  - - - เกิดจากการกระตุ้นของฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้มีเลือดมาคั่งค้างมากขึ้น เมื่อมีรอยขีดข่วนหรือเศษอาหารติดซอกฟันก็ทำให้เกิดการติดเชื้อ มีเลือดออกได้ง่าย และเหงือกอักเสบได้
    - - แนะนำให้คุณแม่เปลี่ยนมาใช้แปรงสีฟันที่มีขนอ่อนนุ่ม แล้วล้างปากด้วยน้ำยาบ้วนปาก (หากต้องการใช้ไหมขัดฟันควรใช้อย่างเบามือ)
      - แนะนำให้ดูแลสุขภาพฟัน โดยหลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือน รับประทานอาหารให้ได้สัดส่วน เพิ่มอาหารที่มีโปรตีน ผักและผลไม้ และควรไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน
  - - - การนอนหงายจนทำให้มดลูกไปกดทับเส้นเลือดที่กลับสู่หัวใจ ทำให้เลือดกลับสู่หัวใจไม่ดี, การเปลี่ยนแปลงอิริยาบถเร็วเกินไป การที่หลอดเลือดขยายตัวจนทำให้การไหลเวียนเลือดไปยังสมองไม่ดี มีน้ำตาลในเลือดต่ำ
    - - แนะนำให้คุณแม่เปลี่ยนอิริยาบถอย่างช้า ๆ
      - เวลาจะนอนให้นอนตะแคงซ้าย เพื่อป้องกันไม่ให้มดลูกไปกดทับหลอดเลือดขนาดใหญ่
      - รับประทานอาหารให้บ่อยครั้งขึ้น เพื่อป้องกันระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
  - - - การขยายตัวใหญ่ขึ้นของมดลูกไปกดทับกระดูก
    - - แนะนำให้คุณแม่ซื้อบราที่ได้ขนาดพอดีกับทรวงอกที่ขยายขึ้น
      - ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้กระดูกใต้อกมีเนื้อที่มากขึ้นหรือนั่งกับพื้นชูแขนขึ้นเหนือศีรษะ แล้วขอให้คุณพ่อช่วยดึงแขนแต่ละข้างขึ้นอย่างช้า ๆ อย่างเบามือ
- - - - Estrogen และ HCG
    - - 1.ตื่นนอนตอนเช้า ควรดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆเช่น นม
      - 2.รับประทานอาหารที่ไม่มัน คาร์โบไฮเดรตสูง
      - 3.ไม่ซื้อยาแก้อาเจียนมารับประทานเอง ควรไปพบแพทย์
  - - - มดลูกกดเบียดกระเพาะปัสสาวะ
    - - 1.แนะนาดื่มน้ามากในตอนกลางวัน และดื่มน้าน้อยในตอนกลางคืน
      - 2.แนะนาให้งดดื่มเครื่องดื่มจาพวก ชา กาแฟ
      - 3.แนะนาไม่ให้กลั้นปัสสาวะโดยไม่จาเป็นเพื่อป้องกันurinary stasis
  - - - Estrogen ทำให้ต่อมต่างๆของร่างกายขยายใหญ่ขึ้นเพื่อเตรียมสร้างน้ำนมหลังคลอด
    - - 1.แนะนาให้สวมชั้นในที่เหมาะสมกับเต้านมที่ขยายใหญ่ขึ้น
      - 2.กระตุ้นให้ผู้รับบริการหาโอกาสพูดคุยกับสามีถึงการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายที่เกิดขึ้น
  - - - Progesterone
        ลดการทางานและการย่อยของระบบทางเดินอาหารทาให้กล้ามเนื้อหูรูดของกระเพาะอาหารไหลย้อยกลับขึ้นไปในหลอดอาหาร
    - - 1.แนะนาให้รับประทานอาหารที่อ่อน ย่อยง่าย งดอาหารรสจัด รับประทานอาหารครั้งละน้อยแต่ทานบ่อยครั้ง
      - 2.แนะนาให้จากัดหรือหลีกเลี่ยงอาหารที่ทาให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร
      - 3.เมื่อรู้สึกมีอาการร้อนในอก ให้ดื่มนมอุ่นหรือน้าอุ่น เพื่อเจือจางกรด ถ้าไม่ดีขึ้นให้ไปพบแพทย์
- - - - ยืนหรือเดินนานๆ หรืออยู่ในท่าที่ไม่ถูกต้อง ยกของหนักเกินไป
    - - 1.แนะนำให้หลีกเลี่ยงการทางานหนัก และพักผ่อนในท่านอนตะแคง
      - 2.แนะนำไม่ให้ใส่รองเท้าส้นสูง
      - 3.ให้ยืนหรือนั่งในท่าหลังตรง
      - 4.นวดบริเวณหลัง
  - - - 1.แนะนำดื่มน้ำมากในตอนกลางวัน และดื่มน้าน้อยในตอนกลางคืน
      - 2.แนะนำให้งดดื่มเครื่องดื่มจาพวก ชา กาแฟ
      - 3.แนะนำไม่ให้กลั้นปัสสาวะโดยไม่จาเป็น เพื่อป้องกันurinary stasis
    - - ศีรษะทารกกดเบียดกระเพาะปัสสาวะ
  - - - การเพิ่มของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ทำให้กล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือดทำงานได้ไม่ดี มีผลทำให้การไหลเวียนของเลือดส่วนล่างของร่างกายไม่ดี และมีสาเหตุมาจากขนาดของมดลูกที่โตขึ้น ซึ่งจะไปกดทับเส้นเลือดดำที่ผ่านจากอุ้งเชิงกรานมาสู่ช่องท้อง เมื่อถูกกดทับนาน ๆ ความดันโลหิตสูงขึ้น ก็จะดันให้เส้นเลือดเล็ก ๆ พองตัว ทำให้เลือดคั่งเส้นเลือดเป็นสีน้ำเงินม่วงที่ขอด ๆ ขดไปมาคล้ายตัวหนอน
    - - 1.ยกเท้าสูงขึ้น 5-10 นาที หรือเปลี่ยนท่าทาง เช่น เดินไปมา ไม่ยืน อยู่กับที่
      - 2.นวดเพื่อลดอาการปวดเมื่อย โดยนั่งบนเก้าอี้และยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาพาดบนเข่าอีกข้างหนึ่ง ใช้มือจับบีบน่องจนทั่วน่อง
      - 3พันElastic bandage หรือผ้ายืด เพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับและลดอาการปวด
  - - - การหมุนเวียนของเลือดมีประสิทธิภาพลดลง, เกิดจากความล้าของกล้ามเนื้อและการรับประทานอาหารที่ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เช่น ขาดแคลเซียม ขาดวิตามินบีรวม หรือเกลือ, เกิดจากการเสียสมดุลระหว่างแคลเซียมและฟอสฟอรัส จนทำให้แคลเซียมในเลือดน้อย, การดูดแคลเซียมลดลง เป็นต้น
    - - 1.แนะนาให้เปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ไม่อยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนานเกินไป
      - 2.แนะนำให้ดื่มนมมากขึ้น
      - 3.ถ้ามีอาการ ให้เหยียดขาให้ตรงแล้วกระดกปลายเท้าให้มากที่สุด