ทารกที่มีความพิการแต่กำเนิด
Cleft Lip, Cleft Palate ( ปากแหว่งเพดานโหว่ )
Esophageal Atresia / Tracheoesophageal Fistula ( โรคหลอดอาหารตันและมีทางติดต่อกับหลอดลมคอ )
Diaphragmatic Hernia ( ภาวะไส้เลื่อนกระบังลมแต่กำเนิด )
Omphalocele ( ไส้เลื่อนสะดือ )
Gastroschisis ( ผนังหน้าท้องไม่ปิด )
สาเหตุ
อาการ
พันธุกรรม
สิ่งแวดล้อมในครรภ์มารดา
ผิดปกติของยีนส์
ผิดปกติของโครโมโซม
ระยะของการพัฒนาตัวอ่อน
สรีระของมารดา
มารดาได้รับสารพิษ
การขาดวิตามิน / สารอาหาร
เครียด
อายุ
เป็นโรค / ติดเชื้อ
สารพิษจากยา
มีรอยแยกที่บริเวณริมฝีปาก ใต้จมูก เหงือกบน หรือเพดานปาก
พบตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ในครรภ์หรือหลังคลอด
ลักษณะทางกายภาพ
การกลืน
การได้ยิน
การรับประทานอาหาร
การผ่าตัด
2 - 5 ปี : ปรึกษานักพูด
7 - 9 ปี : จัดฟัน
12 - 18 เดือน : เย็บรอยแยกบริเวณเพดานปาก เพื่อให้มีสภาพดีขึ้น
9 - 12 ปี : ผ่าตัดเพื่อปลูกกระดูกบริรอยแยกกระดูกและฟัน
3 - 5 เดือน : เย็บรอยแยกบริเวณริมฝีปาก
12 - 17 ปี : จัดฟัน
ทารก - 3 เดือน : เพดานเทียม
การพยาบาล
ก่อนผ่าตัด
หลังผ่าตัด
Cleft Lip
Cleft Palate
Cleft Lip
Cleft Palate
ให้นม : ใช้หัวนมอ่อนนุ่ม
ไม่ให้มีน้ำขังอยู่หลังเยื่อแก้วหนู
ดูแลทางเดินหายใจ
ใช้หัวนมนิ่ม เจาะรูให้โต
ทำแผล : แผลเปิดต้องรักษาให้แห้ง
ให้นม : Feed ให้กลืนเอง
ทำแผล
ให้นม
ไม่ต้องทำแผล ดื่มน้ำหลังให้นมและอาหารพอ
ไม่ควรให้ไอ จาม จะทำให้แผลแยก
ไม่อาเจียนให้อาหารเหลว
พยาธิ
เกิดขึ้นเมื่อมีการรบกวนการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
ตั้งแต่ช่วงอายุครรภ์ 4 สัปดาห์ขึ้นไป
อาการ
สำลักง่าย เมื่อให้ดูดน้ำจะสำรอกทันที
ท้องอืด หายใจลำบาก และหยุดหายใจได้
มีน้ำลายมาก ไอ เมื่อดูดออกจะกลับมาอีก
มีปอดอักเสบร่วม
การรักษา แบบ Anastomosis
Delayed primary repair : รอเวลาไว้ทำภายหลัง
Staged repair : ผ่าตัดเป็นขั้นตอน
Immediate primary repair : ทันทีเลย
การพยาบาล
ก่อนผ่าตัด
หลังผ่าตัด
ได้รับสารน้ำและสารอาหารเพียงพอทางหลอดเลือดดำ
ประคับประคองด้านจิตใจ
ได้รับออกซิเจนเพียงพอ
ป้องกันการสำลัก
ให้ได้ออกซิเจน และประเมินการขาดออกซิเจน
อยู่ในตู้อบที่มีความชื้นเพียงพอ งดน้ำงดอาหาร
ดูดเสมหะ / น้ำลายบ่อย ๆ
ได้รับสารน้ำและสารอาหารเพียงพอ
ป้องกันการติดเชื้อของแผลผ่าตัดที่ทรวงอก
ดูแลแผลเย็บปิดรูติดต่อ
ประคับประคองด้านจิตใจ
ได้รับออกซิเจนเพียงพอ
ให้ได้ออกซิเจน และประเมินการขาดออกซิเจน
ดูดเสมหะ / น้ำลายบ่อย ๆ
รายที่คาสายยางไม่ว่าชนิดใด อย่าให้หลุด
ถ้าเริ่มให้น้ำ / นม ทางสายยาง ต้องให้ช้าๆ
ดูดเสมหะอย่างนุ่มนวล
ขณะให้น้ำ / นม ต้องยกศีรษะสูงเสมอ
นอนศีรษะสูง
ให้ทางหลอดเลือดดำระยะแรกๆ และค่อยเปลี่ยนเป็นทางสายยาง
เริ่มให้ทางปาก 8 - 10 วันหลังผ่าตัด
อาการ
การพยาบาล
พยาธิสภาพ
เกิดรูโหว่ที่กระบังลม ส่งผลให้อวัยวะในช่องท้องเคลื่อนขึ้นมาในช่องอก
ทารกที่มีความผิดปกตินี้อาจเสียชีวิตในระยะแรกเกิดได้
เกิดจากพัฒนาการที่ผิดปกติของกระบังลม
การตรวจร่างกาย
หากร้องไห้ จะยิ่งเขียวมาก
PPV มาก ทารกจะเขียวมากขึ้น
หายใจลำบาก หายใจเร็ว หอบ
ฟังเสียงหัวใจ
ฟังเสียงพบเสียงหัวใจ
ทรวงอกข้างที่เป็นอกโป่ง
รายที่เป็นไม่รุนแรง จะมีรูใหญ่ขึ้น
อกป่อง ท้องแฟบ
ก่อนผ่าตัด
หลังผ่าตัด
ใส่สายยางกระเพาะอาหาร
รบกวนเท่าทีจำเป็น
ดูลักษณธการหายใจ สีผิว สัญญาณชีพ
ได้รับสารน้ำและสารอาหารเพียงพอ
ดูแลให้ได้รับออกซิเจน
ชั่งน้ำหนัก บันทึกสารน้ำ เข้า - ออก
ดูแลให้ได้รับยาขยายหลอดเลือด
ได้รับสารน้ำและสารอาหารเพียงพอ
ป้องกันการติดเชื้อของแผลผ่าตัด
ป้องกันการแยกของแผล
ประคับประคองด้านจิตใจ
ดูแลให้ได้รับออกซิเจน
อาการ
การรักษา
สาเหตุ
การพยาบาล
พยาธิสภาพ
ไม่เเข็งแรง
ตัวอ่อนเจริญมากผนังหน้าท้องจะแตก
ผนังหน้าท้องขาดเลือดมาเลี้ยง
ลำไส้หลุดมานอกช่องท้อง
หลอดเลือดดำสลายตัวเร็ว
Vascular accident
ดื่มสุรา
สูบบุหรี่
มารดาอายุน้อย
คลอดก่อนกำหนด / น้ำหนักตัวน้อย
ลำไส้ออกมานอกช่องท้อง
มีสายสะดือเกาะที่ผนังหน้าท้องปกติ
อวัยวะออกมาข้างนอก
ผ่านช่องด้านขวาต่อสะดือ
ช่องโหว่ขนาด 2 - 4 เซนติเมตร
Skin flap closure : เลาะผนังท้องข้างหน้า เพื่อเย็บคลุมช่องท้อง
Artificial sac covering : ใช้ถุงเทียมห่อหุ้ม
Primary closure : เย็บผนังหน้าท้องเข้าหากัน
ก่อนผ่าตัด
หลังผ่าตัด
ให้ IV + ยาปฏิชีวะนะ + วิตามิน K
On NG-TUBE
ดูแลลำไส้ที่อยู่นอกช่องท้อง
Foley'Cath
สวนล้างทวารหนักด้วยน้ำเกลืออุ่น
ผ่าตัดโดยเร็วที่สุด
ให้ IV
ป้องกันการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด
On NG-TUBE
สังเกตการทำงานระบบทางเดินอาหาร
ช่วยการหายใจ การใช้เครื่องช่วยหายใจระยะหนึ่ง
อาการ
การรักษา
พยาธิสภาพ
การพยาบาล
ผนังหน้าท้องไม่สมบูรณ์ มีชั้นบางๆ ยื่นออกทางช่องท้อง
ระบบอื่นๆผิดปกติร่วมด้วย
การสร้างผนังหน้าท้องบกพร่อง
พบถุงสีขาวขุ่น เห็นขดำไส้ & ตับผ่านผนังถุง
ขนาด 4 - 10 เซนติเมตร
คลอดก่อนกำหนด / น้ำหนักแรกคอดปกติ
มีถุงบางๆคลุมลำไส้ไว้
มีสายสะดืออยู่บนถุงที่คลุม
Moderate - Large Defect : ใช้วัสดุสังเคราะห์ห่อชั่วคราว
Small - Moderate Defect : การผ่าตัด
Giant Omphalocele : 8 - 10 CM.Defect
ก่อนผ่าตัด
หลังผ่าตัด
ประเมินสภาพทั่วไปอย่างละเอียด
ห่อหุ้มถุงไส้เลื่อนด้วยผ้าสะอาด
ใส่ NG-TUBE
เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน
ประเมินการหายใจ
สังเกตแผล
Trisomy 13,18,21
Edwards Syndrome ( Trisomy 18 )
Down's Syndrome ( Trisomy 21 )
Patau Syndrome ( Trisomy 13 )
ออโทโซม เกิน 1 แท่ง
ลักษณะ
ปากแหว่ง เพดานโหว่
หูหนวก
อาการปัญญาอ่อน
นิ้วเกิน
ตาพิการ / ตาบอด
ส่วนใหญ่อายุสั้น
ออโทโซมเกินมา 1 แท่ง
ลักษณะ
ตาเล็ก
นิ้วมือบิดงอ กำเข้าหากันแน่น
หูผิดปกติ
หัวใจพิการ
คางเว้า
ปอดและระบบย่อยผิดปกติ
หัวเล็ก หน้าผากแบน
มักจะเสียชีวิตก่อนอายุ 1 ขวบ
ออโทโซมเกินมา 1 แท่ง
ลักษณะ
ดั้งจมูกแบน
ตาห่าง / ตาชี้ขึ้นบน
คีรษะแบน
ใบหูผิดรูป
ตัวอ่อนปวกเปียก
ปากปิดไม่สนิท / ลิ้นจุกปาก
นิ้วมือสั้นป้อม เส้นลายมือขาด
บทบาทของพยาบาล
ดูแลสุขภาพทั่วไป
ประเมินและติดตามอาการทางคลินิก
การสร้างเสริมสุขภาพ
ส่งเสริมและกระตุ้นให้มาตรวจตามนัด
ให้คำปรึกษาแนะนำทางพันธุศาสตร์